บาซูก้าเศรษฐกิจจีนจะได้ผลไหม - Blockdit Originals โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร
บาซูก้ากระตุ้นเศรษฐกิจครั้งมหึมาของรัฐบาลจีน จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจจีน หรือเป็นเพียงสภาพศพกระตุกคือฟื้นสั้นแล้วกลับไปสลบยาวเช่นเดิม
ปัญหาเศรษฐกิจจีน จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย เพราะหัวใจของเรื่องคือปัญหาเรื่องความเชื่อมั่น
หลังเกิดวิกฤตอสังหาเมื่อ 3 ปีก่อน ผู้บริโภคชาวจีน ซึ่งความมั่งคั่งส่วนใหญ่อยู่ในการถือครองอสังหาฯ เมื่อราคาอสังหาฯ ตกต่ำ ทุกคนล้วนรู้สึกว่าตนจนลง อนาคตเริ่มไม่ปลอดภัย ต่างรู้สึกว่าถึงเวลาต้องรัดเข็มขัด เข้าโหมดประหยัดอดออม หยุดกิน หยุดใช้ หยุดช็อป หยุดเที่ยว
พาให้ธุรกิจซบเซาลงไปตามกัน หยุดลงทุน หยุดจ้างงาน หยุดขยายกำลังการผลิต กลายเป็นวงจรขาลงติดหล่มกู่ไม่ขึ้น
ธุรกิจเองก็ยังเข็ดจากที่ถูกรัฐบาลจีนจัดระเบียบเคร่งครัดก่อนหน้านี้ เพื่อนนักธุรกิจจีนบอกผมว่าเหมือนเด็กเคยถูกไม้เรียวตีจนเข็ด ถึงตอนนี้รัฐบาลจีนปากจะบอกว่ารักเอกชนอยากส่งเสริมธุรกิจ แต่นักธุรกิจทุกคนหยุดลงทุนใหม่ ลดค่าใช้จ่าย ลดคนงาน เข้าโหมดเอาตัวให้รอดก่อนในยุคการค้าซบเซา
ส่วนรัฐบาลจีนก่อนหน้านี้ยังคิดเข้าข้างตัวเองว่า พื้นฐานทางเศรษฐกิจจีนนั้นยังไงก็แข็งแกร่ง ตลาดใหญ่มหึมา คนจีนก็เงินเก็บเยอะมาก ไม่มีปัญหาหนี้สิน เพียงแต่ไม่ยอมใช้เงินชั่วคราวเพราะยังเจ็บจากล็อคดาวน์ช่วงโควิด แต่เดี๋ยวทุกอย่างก็จะค่อยๆ กลับมา แรงงานจีนก็มีคุณภาพและทักษะสูง พร้อมสำหรับการพัฒนาภาคเทคโนโลยียุคใหม่
จากมุมของรัฐบาล ที่เศรษฐกิจจีนซบเซานั้น เป็นเพียงแผลสืบเนื่องมาจากช่วงล็อคดาวน์โควิดและจากปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป แผลค่อยๆ สมาน ภายหลังจากเปิดเมืองและภาคอสังหาเริ่มอยู่ตัว ทุกอย่างก็จะค่อยๆ คลี่คลายกลับมา หวังกันมาอย่างนี้ตั้งแต่เริ่มเปิดเมืองหลังโควิดเมื่อสิ้นปี 2022 แต่จนบัดนี้เศรษฐกิจจีนก็ยังคงอ่อนเรี่ยวอ่อนแรงไม่มีกำลังวังชาเสียที
จนไตรมาสล่าสุดของปี 2024 เริ่มมีความกังวลแพร่หลายขึ้นว่าการเติบโตของจีนในปีนี้อาจไม่ได้ตามเป้าหมายการเติบโตที่ร้อยละ 5 (ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ตั้งไว้ต่ำอยู่แล้ว) ทำให้สุดท้ายรัฐบาลจีนต้องเข็นมาตรการชุดใหญ่ไฟกระพริบออกมา เรียกว่ารอบนี้เป็นบาซูก้าเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่วิกฤตโควิด
มาตรการคลอบคลุม 3 เรื่องใหญ่ เรื่องแรกคือเพิ่มสภาพคล่องและเพิ่มการปล่อยสินเชื่อในระบบ ด้วยมาตรการการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและลดอัตราส่วนเงินสำรองตามกฎหมายของธนาคารพาณิชย์
เรื่องที่สองเป็นมาตรการพยุงภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังทรงๆ ทรุดๆ โดยลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยและผ่อนคลายเกณฑ์เงินดาวน์บ้านหลังที่สอง
เรื่องที่สาม คือ เครื่องมือสนับสนุนตลาดหุ้น ซึ่งลงมาอยู่ในจุดต่ำสุด โดยเน้นที่มาตรการเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและเสถียรภาพในตลาดหุ้น
นักวิเคราะห์บางคนยังไม่แน่ใจว่ามาตรการเหล่านี้จะได้ผลมากน้อยเพียงใด เพราะหากปัญหาคือเรื่องความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและธุรกิจ การเพิ่มสินเชื่อในระบบอาจไม่ได้ช่วยอะไรมาก ถ้าธุรกิจยังคงตัดสินใจที่จะไม่ลงทุน ไม่ขยายการผลิต เพราะมองว่าไม่มีดีมานด์เพียงพอจากผู้บริโภคในตลาด ธุรกิจก็ไม่ขอสินเชื่ออยู่ดี
มีคนเคยตั้งข้อสังเกตว่า เศรษฐกิจจีนนั้น เวลารุ่งโรจน์ ทุกคนเชื่อมั่น ก็จะหวือหวาฟู่ฟ่าเป็นพิเศษกว่าที่อื่น เพราะคูณด้วยจิตวิทยาคน 1,400 ล้านคน แต่เวลาที่ผู้คนซบเซา หมดความเชื่อมั่น ไม่ใช้จ่าย ไม่ลงทุน ก็จะซบเซามากเป็นพิเศษเช่นกัน เพราะก็คูณด้วยจิตวิทยาขาลงของคน 1,400 ล้านคน ที่ซึมพร้อมกันเช่นกัน
กลับมาที่คำถามว่า มาตรการบาซูก้าเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนในครั้งนี้จะเป็นจุดพลิกฟื้นคืนชีพเศรษฐกิจจีนได้จริงเสียทีหรือไม่
คำตอบก็คือ อยู่ที่ว่านี่เป็นเพียงมาตรการชุดเดียวจบ หรือจะเป็น starting point จุดเริ่มต้นของอีกหลายชุดมาตรการที่จะตามมาอีกหลายระลอก
ถ้าเป็นเพียงชุดเดียวจบ เศรษฐกิจจีนก็คงกลับมาทะยานสั้นๆ เหมือนภาพตอนเปิดเมืองหลังโควิด หรือเหมือนภาพมาตรการกระตุ้นอสังหารอบก่อนของรัฐบาลจีน ที่เคยโดนล้อมาแล้วว่าจีนเป็นสภาพเหมือนศพกระตุก เพราะพาตลาดพุ่งได้ไม่นาน แล้วก็ดิ่งกลับมาแน่นิ่ง เมื่อตัวเลขต่างๆ ยังไม่ฟื้นดีขึ้นตามในระยะยาว
แต่ล่าสุดมีสัญญาณที่ดีว่าดูเหมือนรัฐบาลจีนจะเริ่มกลับมาจริงจัง ไม่ใช่เพียงลมปากว่าจะฟื้นเศรษฐกิจแต่ไม่ทำอะไรเหมือนที่ผ่านมา ภายหลังการประกาศมาตรการชุดใหญ่ของธนาคารกลาง ก็ตามมาด้วยการประชุมของโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์ที่ประกาศว่าเตรียมมีมาตรการซัพพอร์ททางการคลังตามมาเสริมมาตรการทางการเงินของธนาคารกลาง และยังมีข่าวการจะแจกเงินให้กลุ่มเปราะบาง เพื่อจะช่วยฟื้นการบริโภคในช่วงวันชาติด้วย
หากรัฐบาลจีนถึงจุดตระหนักแล้วว่า เศรษฐกิจไม่สามารถฟื้นเองตามธรรมชาติดังที่หวัง และตระหนักว่า การฉีดยาช่วยนั้นต้องทำต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำกะปริบกะปรอยหรือทำครั้งเดียวแล้วหยุด คราวนี้เศรษฐกิจแดนมังกรอาจเริ่มต้นกลับมาทะยานอีกครั้ง ถ้าความเชื่อมั่นเริ่มปลุกกลับมาได้จริง
ทั้งหมดจึงต้องจับสัญญาณว่ามาตรการที่จะตามมาอีกมีอะไร มีจริงไหม มีอีกกี่ชุด และผลทางจิตวิทยาต่อผู้บริโภคและภาคธุรกิจจีนเป็นอย่างไร
- 61
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
