29 ก.ย. เวลา 15:51 • หนังสือ

จามเทวีวงษ์ ปริเฉท ๔-๕-๖ คัดลอกจาก Web วัชรญาณ เฉพาะส่วนภาษาไทย

ตอนนี้ในฉบับเดิมความขาด
จึงได้เอาความในชินกาลมาลีปกรณ์มาแทรกให้เต็ม
จำเดิมแต่นั้นมา พุทธศักราชประมาณ ๑๒๐๐ ปี ในปีที่ ๔ จุลศักราชประมาณ ๒๒ ปี ผคุณมาศบุณณมี พระฤๅษีวาสุเทพได้สร้างเมืองหริภุญไชย
แต่นั้นมาได้ ๒ ปี พระนางจามเทวีมาแต่เมืองลวปุร ได้เสวยราชในเมืองหริภุญไชย
เบื้องน่าแต่นั้นมาอิกประมาณจุลศักราช ๔๐๙ ปี พระอาทิจราชได้อภิเศกในเมืองหริภุญไชย
จำเดิมแต่นั้นมา จุลศักราช ๔๑๕ ปี เปนเรื่องกล่าวด้วยมหาธาตุที่ได้ประชุมในเมืองหริภุญไชย แลราชวงษ์หริภุญไชย
เพราะเหตุนั้นเรื่องพระมหาธาตุจะยุติไว้ก่อน
บัดนี้จะกล่าวถึงเรื่องประดิษฐานพระมหาธาตุตั้งต้นแต่ความเกิดขึ้นของหริภุญไชยนครนี้ เพื่อจะกระทำการประดิษฐานพระมหาธาตุนั้นให้ปรากฏ
ดังได้ยินมาในกาลครั้งแรก พระวาสุเทพ พระสุกกทันต์ พระอนุศิษย์ พระพุทธชฏิล พระสุพรหม ๕ คนเปนสหายกัน บวชในพระพุทธสาสนาเรียนพระไตรปิฎกชำนาญ ก็รู้ได้ว่าพระวินัยเปนกรรมอันหนัก จึงได้สึกมาบวชเปนฤๅษี
พระสุกกทันต์ ไปอยู่เมืองลวปุร
พระฤๅษี ๔ พระองค์ มีพระวาสุเทพเปนต้น ได้อภิญญามาอยู่ในสยามประเทศ
พระวาสุเทพอยู่เขาอุจฉุบรรพต ใกล้ฝั่งแม่น้ำโรหิณีนที พระพุทธชฏิลอยู่เขาชุหบรรพต ใกล้ฝั่งแม่น้ำสารนที พระอนุศิษย์ไปอยู่ในเมืองหฬิททวัลลินคร พระสุพรหมไปอยู่สุภบรรพต ใกล้ฝั่งแม่น้ำสิวังกนที
วันหนึ่งพระวาสุเทพลงมาจากยอดเขา ได้ทารก ๖ คนอยู่ในรอยช้าง ๒ ในรอยโค ๒ ในรอยกทิง ๒ แล้วเอาไปเลี้ยงไว้
ครั้นคนเหล่านั้นใหญ่แล้ว ก็ได้อยู่เปนคู่กัน แลเปนผู้อุปฐากพระวาสุเทพ
ยังมีนางเนื้อตัวหนึ่งมากินน้ำมูตรพระวาสุเทพถ่ายไว้ ก็มีท้องคลอดลูกแฝดออกมา
พระวาสุเทพก็มีใจเอ็นดู ให้ดูดนิ้วมือกินต่างนมจนใหญ่ก็ให้อยู่เปนคู่กัน ทารก ๒ คนนั้น ชายชื่อกุนริสี หญิงชื่อมิคุบดี
พระวาสุเทพก็สร้างเมืองชื่อมิคสังฆนคร อภิเศกให้ ๒ คนนี้เปนเจ้าครองเมืองต่อไป ให้ชน ๖ คนที่เปนคู่อยู่ด้วย
พระเจ้ากุนริสีราชได้ตั้งอยู่ในโอวาทพระวาสุเทพ เสวยราชอยู่ได้ ๗๗ ปี
มีพระราชบุตร ๓ องค์ ชื่อ กุนริราช ๑ กุนริโลล ๑ กุนริสิตนาศ ๑ (ในจามเทวีวงษ์กุนรินาศ กุนริโรส, กุนริธังส,)
พระวาสุเทพสร้างเมืองให้แก่กุมารทั้ง ๓ นั้นองค์ละเมือง
พระกุนริสิตนาศได้เสวยราชต่อบิดาในเมืองมิคสังฆนั้น แล้วพระฤๅษีสร้างเมืองใหม่ชื่อรันนบุร (รัมมบุร) ย้ายพระกุนริสิตนาศให้ไปครอง
กระษัตริย์องค์นี้ ได้ทำเมืองให้ฉิบหาย เพราะเหตุชำระความลูกตีแม่เปรียบด้วยไม้ตีรฆังซึ่งเปนอธรรม
ครั้งนั้น พระวาสุเทพก็เที่ยวหาที่เกษมมา เห็นที่ตำบลหนึ่งซึ่งเปนที่ตั้งพระพุทธสาสนา สันนิฐานได้ว่าเปนบรมเกษมแท้ ก็สร้างเมืองลงใกล้ฝั่งแม่น้ำพิงคนที
ครั้นสร้างเมืองแล้วจึงคิดว่าพระสุกกทันต์ฟันขาวสหายเราเปนคนมีศิลาทิคุณไม่มีใครเสมอ เราจะเชิญมา (ฉันแลปฤกษากัน) ที่เมืองนี้ จึงเขียนหนังสือผูกแพไม้ไผ่ปล่อยให้ลอยตามสายน้ำไปเมืองลวปุร
พระสุกกทันต์ เมื่อได้อ่านทราบจดหมายแล้ว ก็ขี่แพไม้ไผ่ให้ถ่อทวนน้ำพิงค์มาจนถึงเมือง
พระวาสุเทพ จึงแถลงเหตุให้ทราบทุกประการ
พระสุกกทันต์ จึงว่าควรไปขอพืชพระเจ้าจักรพรรดิเมืองลวปุรมาไว้เมืองนี้จึงจะจำเริญ
พระดาบศทั้ง ๒ ก็ตกลงกันส่งนายด้วยะ (ควาย) ให้เปนทูตไปกับบริวาร ๕๐๐
ทูตไปได้ถวายบังคมพระเจ้าลวปุราธิบดีจักรพรรดิราชแล้ว ก็กราบทูลประพฤติเหตุตามที่พระวาสุเทพฤๅษีสั่งมาให้ทรงทราบทุกประการ
ทูตได้อยู่เมืองลวปุรถึงปี ๑ จึงได้ทูลลาพระเจ้าจักรพรรดิราช
เวลานั้นพระราชธิดาพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่า จามเทวีได้เปนอัคคมเหษี เจ้าประเทศราชในเมืองรามัญ ทรงครรภ์ได้ ๓ เดือน
พระเจ้าจักรพรรดิ ได้ส่งพระจามเทวีองค์นี้แลให้มาเปนเจ้าแผ่นดินตามที่ทูตได้ไปขอ
พระนางจามเทวี เมื่อยกรี้พลมานั้น เปนกระบวนเรือกับบริวารยศใหญ่ ๕๐๐ กับพระมหาเถรทรงไตรปิฎก ๕๐๐ ทวนแม่น้ำพิงค์มา ๗ เดือนจึงถึง
พระวาสุเทพกับพระสุกกทันต์พร้อมด้วยชาวเมืองก็อัญเชิญพระนางจามเทวี ให้นั่งอภิเศกเหนือแผ่นทอง (หริปุญ์ช)
เหตุนี้ เมืองจึงมีชื่อว่า หริภุญชัยมาจนทุกวันนี้
โฆษณา