30 ก.ย. เวลา 03:14 • ปรัชญา

สุขอย่างนี้มีอยู่จริงหรือ?

ถ้าเราฝึกใจให้หยุดนิ่งได้ถูกส่วน ถูกต้องสมบูรณ์ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ จิตราจะเกลี้ยงเกลา จะบริสุทธิ์ จะผ่องแผ้ว และมีความสุขที่เราคาดไม่ถึง
มีความสุขด้วยตัวของตัวเอง โดยไม่หวังคำชื่นชมจากใคร ๆ เลย เป็นความสุขที่มนุษย์ไม่เข้าใจ ชาวโลกไม่เข้าใจ และนึกไม่ถึงว่า มีความสุขชนิดนี้อยู่ มันเกินกว่าความคิดของมนุษย์ ไม่ว่าจะเรียนมาสูงแค่ไหนก็แล้วแต่ ไม่เข้าใจ
สุขที่คาดไม่ถึง คือ นึกไม่ถึงเลยว่า สุขอย่างนี้มีอยู่ สุขโดยไม่ต้องอาศัยวัตถุสิ่งของ คำยกย่องสรรเสริญ ชื่นชมไม่ต้องอาศัยดวงตาที่ต้องดู ดูของรัก ดูคนรัก ดูธรรมชาติที่สวยสดงดงาม แล้วเราถึงจะปลื้ม ถึงจะชื่นใจ ไม่ต้องใข้หูฟังเสียงคนสรรเสริญชื่นชมเรา
หรือฟังเพลงให้เพลิน ๆ ฟังเสียงน้ำตก คลื่นกระทบฝั่งอะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ต้องอาศัยอย่างนี้เลย หรือความสุขที่ได้ดมกลิ่นหอม ๆ ต้องมีใครมาปรุงกลิ่นให้หอม ความหอมชนิดนั้นชนิดนี้ แตกต่างกันหลากหลาย
สุขที่ไม่ต้องอาศัยจมูก ไม่ต้องอาศัยดวงตา ไม่ต้องอาศัยหู ไม่ต้องอาศัยลิ้นที่ลิ้มรส ถ้าได้รสอาหารที่อร่อย ๆ ถึงจะมาช่วยปรุงแต่งลิ้น ให้มีความสุขไปถึงใจอะไรอย่างนี้
ไม่ต้องอาศัยกายที่จะต้องสัมผัสสิ่งที่นุ่มนวล ไปติดที่ระบบประสาท และกล้ามเนื้อที่ได้สัมผัส
ความสุขที่นอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้ คือ ปิดหู ปิดตาปิดปาก ปิดทุกอย่าง และทำใจหยุดนิ่ง ๆ เมื่อจิตบริสุทธิ์ถูกส่วน ขยายเข้าไปสู่กายใน จะเข้าถึงความสุขไม่มีประมาณเลย
มนุษย์ในโลกไม่เข้าใจเลยว่า จะมีความสุขชนิดนี้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองถวิลหา แต่ไม่เคยสมปรารถนาสักที เพราะไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน ทำอย่างไรถึงจะถึงตรงนี้ แต่ผู้ที่จะเข้าไปศึกษาวิชชาธรรมกาย จะต้องผ่านความสุขชนิดนี้แหละ และต้องเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อย ๆ
คำสอนคุณครูไม่ใหญ่
๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๕
จากหนังสือ สิ่งที่ต้องแสวงหา๒ (หน้า ๑๑๐ - ๑๑๑)
ภาพดีๆ ๐๗๒, เพจการบ้าน
โฆษณา