2 ต.ค. เวลา 11:19 • ไลฟ์สไตล์

ตกรถทัวร์

ตั้งแต่ลงจากรถ taxi ฉันก็นั่งแกร่วรอเวลาขึ้นรถทัวร์กลับบ้านนอก วันนี้ฉันมาถึงก่อนเวลาตั้งเกือบ 50 นาทีแหนะ ซึ่งมันผิดวิสัยคนเอ้อระเหยลอยชายอย่างฉันมาก
ไหนๆก็มาเร็วแล้ว ฉันก็เลยกะจะนั่งปั่นนิยายที่ค้างคาไว้ให้มันเรียบร้อย แต่แน่นอนคนขี้เกียจอย่างฉันมีหรือจะทำ แทนที่จะทำธุระของตัวเองให้เรียบร้อย ฉันกลับเลือกที่จะฆ่าเวลาอันสุดแสนจะมีค่าด้วยการนั่งมองนั่นนี่ไปทั่ว ตามประสาคนชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน
ก่อนตาเจ้ากรรมจะเหลือบไปเห็นหน้าจอโทรทัศน์ประจำชานชาลา ขึ้นโชว์จุดหมายปลายทางที่ฉันไม่รู้จัก ฉันก้มลงไปอ่านตั๋วในมืออีกทีก็พบว่าเวลาที่ขึ้นโชว์นี่มันตรงกันเลยนี่หว่า แต่เอ๊ะ! แล้วทำไมฉันไม่รู้จักที่นี่วะ?
ก็อย่างที่บอกไปว่าฉันมันคนสอดรู้สอดเห็น หูของฉันดันไปได้ยินหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ที่กำลังคุยกันเกี่ยวเรื่องนี้พอดี
พ่อหนุ่มน้อยที่ฉันก็ต้องขอบคุณเขาจริง ๆ กำลังสงสัยว่าไอ้เส้นทางนี้มันจะพาเขาไปถึงจุดหมายได้จริงๆหรือ?
ฉันได้ยินแบบนั้นก็รีบโผล่หน้าเข้าไปถามพวกเขาว่า “นี่เราไปรอบเดียวกันหรือเปล่า?”
สาวน้อยหันมาตอบว่า “ใช่ค่ะพี่”
แล้วพ่อหนุ่มเขาบอกพวกฉันว่า “เดี๋ยวผมจะไปถามเขาครับพี่” สิ้นคำเขาก็เดินสวบๆไปถามคุณพนักงานทันที เขากลับมาพร้อมกับบอกว่า “คันนี้แหละพี่”
ฉันขอบคุณเขาแล้วเดินรั้งท้ายตาม ก่อนจะแอบแว้บไปถามพนักงานอีกท่านพลางส่งตั๋วให้เขา คุณพนักงานส่งยิ้มให้ฉันพร้อมกับบอกว่า “คันนี้แหละครับพี่ ขึ้นเลย”
ในตอนแรกฉันก็เกือบจะหอบข้าวของโกยขึ้นรถ ตามที่เขาบอกอยู่หรอก แต่ด้วยสำเหนียกตัวว่าถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมา วันพรุ่งนี้คือหายนะแน่ๆ
ฉันก็เลยถามคุณพนักงานใจดีอีกครั้ง ว่าไอ้รถรอบนี้มันผ่านบ้านฉันหรือเปล่า? คุณพนักงานพิมพ์ต๊อกแต๊กสักพัก ก่อนจะเงยหน้ามาบอกฉันว่า “ไม่ผ่านครับพี่”
แต่เขาก็ยังอุตส่าห์ช่วยดูว่าถ้าจะไปบ้านฉันเนี่ยมันยังมีรอบไหนบ้าง เขาบอกรถที่ผ่านบ้านฉันยังเหลืออีก 2 รอบ พร้อมทั้งแนะนำให้ฉันเอาตั๋วที่ซื้อมาแล้วไปยื่นที่จุดขายตั๋ว เผื่อจะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่ แถมยังช่วยอธิบายให้คยเงอะงะอย่างฉันเข้าใจด้วย เขาบอกฉันว่ารถรอบอื่น ๆ เนี่ยมันผ่านบ้านฉัน แต่รอบนี้ที่ไม่ผ่านเพราะมันแวะเข้าอีกทาง
ฉันเลยถึงบางอ้อคิดย้อนไปสมัยที่เว็บไซต์ขายตั๋วยังเป็น version ก่อน ฉันจำได้ว่าเขาจะมีดอกจันเล็ก ๆ เขียนว่ารอบไหนที่ผ่านบ้านฉันบ้าง แต่พอมาเป็นเวอร์ชันใหม่ที่มีการออกแบบกิ๊บเก๋ ฉันเดาว่าคุณ designer ก็คงจะเอาดอกจันไปวางสักที่นี่แหละ และมันคงจะเป็นที่ที่คนสะเพราะอย่างฉันไม่เหลือบตาไปมองน่ะ!
ฉันรับตั๋วแล้วรีบจ้ำไปจุดขายตั๋ว แต่มองหายังไงก็ยังไม่เจอ หันซ้ายหันขวาไปสบตาเข้ากับพนักงานหนุ่มอีกคน เขายื่นมือมารับตั๋วในมือฉันก่อนจะชี้ไปยังชานชาลาที่ฉันเพิ่งจะจากมา ฉันพยายามอธิบายให้เขาฟังว่าฉันกำลังหาจุดขายตั๋ว คุณพนักงานก้มมองตั๋วในมืออีกครั้งเขาดูเป็นกังวลเมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาเดินทางแล้ว เขาเดินนำฉันกลับไปชานชาลาหมายเลข 8 อีกครั้ง!
ฉันพยายามหยุดเขาพร้อมอธิบายว่าฉันต้องการตั๋วใบใหม่ ในตอนนั้นเองฉันถึงได้รู้ว่าเขาไม่สามารถที่จะสื่อสารกับฉันได้ เขาชี้มือไปยังพนักงานชายอีกคนที่อยู่ไม่ไกลแทน ฉันไปตามที่เขาบอกก่อนจะได้รับคำตอบที่ต้องการ
ฉันเดินออกมาข้างนอกตามที่ได้รับบรีฟมา ก่อนจะต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นจำนวนคนที่กำลังต่อคิวซื้อตั๋ว ถ้าดูจากจำนวนคิวแล้วระยะเวลาไม่ถึง 10 นาทีก่อนรอบรถในตั๋วจะออก ฉันไม่มีทางคืนตั๋วทันแน่ๆ
ในตอนแรกฉันก็คิดจะยกเลิกแผนการกลับบ้านครั้งนี้เหมือนกัน แต่ดันติดตรงที่ได้ไปสัญญากับคนแก่ที่บ้านแล้วน่ะสิ
ฉันคิดวนเวียนไปมาว่าจะยอมไปกับรถที่ไม่ผ่านบ้าน แล้วค่อยหาทางกลับวันพรุ่งนี้ดีไหม หรือจะยอมต่อแถวรอลุ้นว่าจะยังมีที่นั่งหรือเปล่าดี แต่สุดท้ายฉันก็เลือกที่จะต่อแถวที่ยาวเหยียด เพราะคำพูดของคุณพนักงานที่บอกกับฉันว่า “กลับ 5 ทุ่มก็ได้นะพี่รถโล่งอยู่”
ช่องขายตั๋วมีทั้งหมด 3 ช่อง แต่พร้อมปฏิบัติการเพียงช่องแรกเท่านั้น อีกสองช่องคุณพนักงานกำลังนับแบงก์นับเหรียญอย่างขมักเขม้น หลังจากต่อแถวมา 10 กว่านาที ในที่สุดฉันก็ได้มายืนเสนอหน้ายื่นตั๋วเก่าให้คุณพนักงานสาว หลังจากรับฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วเธอส่งยิ้มให้ฉันแล้วบอกว่า "รถคันก่อนของพี่มันออกไปแล้ว แบบนี้ต้องซื้อใหม่นะคะ ใช้ตั๋วเก่ามาลดไม่ได้ค่ะ"
ฉันที่ก่อนหน้าก็รู้อยู่แล้วแหละว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ แต่ด้วยความฝันที่อยากจะเป็นนางร้ายช่อง 3 มาตั้งแต่ 5 ขวบ ทำให้ฉัน build อารมณ์ตัวเองให้ขึ้นสูงตลอดเวลาที่ต่อคิว ทุกครั้งที่ส่องกระจกระหว่างรอ ฉันก็จะถลึงตาใส่ตัวเองไปด้วย พอทำแบบนี้ร่วม 10 นาที มันก็ทำให้ฉันถูกจิตวิญญาณของอาชีพในฝันเข้าสิงน่ะสิ
ไม่ต้องตกใจฉันไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับคุณพนักงานหรอกนะ เพราะฉันรู้ดีว่าเธอก็ทำไปตาม policy ของบริษัท แต่ขอบอกเลยว่าในใจฉันมันร้อนรุ่มมาก
ในตอนแรกฉันคิดจะฝาก complain ไปกับเธอ แต่ก็รู้ดีว่ามันไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา ฉันก็จะยังโมโหเหมือนเดิม ส่วนคุณพนักงานเธอก็อาจจะหงุดหงิดใจตามไปด้วย และสุดท้ายปัญหาที่ฉันเจอมันก็จะยังอยู่คงเดิมต่อไป
ฉันก้มมองตั๋วในมือรอบ 5 ทุ่มพลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ดูเหมือนสวรรค์จะไม่พอใจกับการเป็นคนกระตือรือร้นสินะ ไอ้เราก็อุตส่าห์รีบพุ่งตัวออกมาแต่หัววัน สุดท้ายก็ต้องมาเสียเงิน 2 เด้ง แถมยังต้องมานั่งติดแหงกอยู่ที่สถานีขนส่งร่วม 2 ชั่วโมงอีก
นิยายก็ไม่ได้เขียน งานที่คิดจะทำก็ไม่ได้ทำ นอนก็ไม่ได้นอน แถมนัดที่บอกคุณ Reader ว่าจะไป update ตอนใหม่ให้ก็ไม่ได้ทำ แต่ข้อหลังนี่ก็ไม่ได้กระทบใครหรอก เพราะมันก็มีแต่ฉันนี่แหละที่อ่านนิยายของตัวเอง ฉันมันไม่ได้มีนักอ่านขาประจำเท่าไหร่หรอก แต่ที่ชอบทำเป็นนัดก็เพราะอยากสนอง Need ทำเหมือนตัวเองเป็นนักเขียนคนดังก็เท่านั้นแหละ
คุณคงจะสงสัยล่ะสิว่าแล้วฉันเอาเวลาค่อนคืนไปทำอะไรหมด? ต่อให้คุณไม่สงสัยฉันก็จะบอกให้ฉันก็เอามาเขียนบ่นลงในเพจที่มีผู้ติดตามอยู่ 0 คนนี่ไง
วันนี้ฉันขอบคุณทุกคนมาก ตั้งแต่พี่ taxi ที่มีกระป๋องไถ่โคกระบือในรถให้หยอด (แต่ฉันไม่ได้หยอดหรอกนะ) น้องๆที่น่ารักทั้ง 2 คน คุณพนักงานทั้ง 4 ที่ปราณีคนบ๊องอย่างฉัน รวมไปถึงคุณพนักงานขายคนสวยด้วยนะ
แต่บอกเลยว่าคนเดียวที่ทำให้ฉันมานั่งเขียนเรื่องบ้าๆบนรถทัวร์ ก็คือคุณ UX/UI designer ที่ทำดอกจันหาย จนฉันต้องจ่ายเงิน 428 บาทเพิ่ม ถึงคุณไม่ได้ทำหาย แต่ฉันก็จะยังโทษคุณอยู่ดีแหละค่ะ เพราะพวกคุณน่ะชอบอ้างกันนักนี่ว่าต้องทำ design แบบนี้ flow แบบนี้ เดี๋ยว user จะงง เป็นยังไงล่ะคะฉันนี่ไง user หน้าโง่คนนั้นน่ะ
สุดท้ายนี้ถ้าเกิดมีใครได้อ่านและดันเป็นคนใจดีด้วย ช่วยกดเข้าไปอ่านนิยายฉันหน่อยนะเหงามากเว่อร์ไม่มีคนเลย ฉันยังเว้นวรรคแปลกๆอยู่จะพยายามทำให้ดีขึ้นนะ ขอบคุณคนที่อ่านจนจบด้วยนะคะฝันดีค่ะ
ปล.คุณพนักงานต้อนรับบนรถสวยและสุภาพมากค่ะ
โฆษณา