3 ต.ค. 2024 เวลา 10:38 • ข่าวรอบโลก

เนทันยาฮู “อย่าเหลิงไป” ระวังเจริญรอยตาม จอร์จ ดับเบิลยู บุช

ฉากหนึ่งที่เป็นที่จดจำได้ดีของชาวอเมริกันและชาวโลกคือ ย้อนกลับไปในปี 2003 ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช (บุชคนลูก) ได้สวมชุดนักบิน (เขาเป็นเรืออากาศโท) ออกมาจากเครื่องบินรบที่ลงจอดบนเรือยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอร์น และเขาเดินมายืนอยู่ใต้แบนเนอร์ด้านหลังที่มีข้อความว่า “Mission Accomplished” (ภารกิจสำเร็จลุล่วง) และประกาศยุติปฏิบัติการรบครั้งใหญ่ในอิรักอย่างเป็นทางการ โดยสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรได้รับชัยชนะเหนือกลุ่มผู้ก่อการร้าย
เขากล่าวแถลงการณ์อย่างน่าภูมิใจมากที่โพเดียมซึ่งจัดฉากไว้บนเรือบรรทุกเครื่องบินรบดังกล่าว ขณะที่คะแนนนิยมในตัวเขาตอนนั้นพุ่งสูงขึ้น เหมือนเป็นการเอาใจฝ่ายนีโอคอนที่วางแผนสงครามในอิรักครั้งนั้น อย่างไรก็ตามในไม่ช้าหลังจากฉากอันยิ่งใหญ่นี้ของบุช สภาพการณ์ในอิรักก็ได้แย่ลง และการตัดสินใจบุกอิรักของเขาถูกมองว่าเป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ
1
เครดิตภาพ: Generationology
กลับมาที่ปัจจุบัน ขณะที่นายกเนทันยาฮูของอิสราเอลและผู้สนับสนุนของเขากำลังได้ใจยกใหญ่หลังผ่านจุดพีคของการโจมตีกลุ่มปาเลสไตน์ล่าสุด ไม่ว่าเป็น “การลอบสังหารนาสรัลเลาะห์” ผู้นำฮิซบอลเลาะห์คนก่อนหน้านี้ได้สำเร็จ พร้อมด้วยผู้นำระดับสูงของกลุ่มหลายคน รวมถึง “การสังหารผู้นำฮามาสคนก่อนหน้า” ขณะมาร่วมพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีอิหร่าน เรียกได้ว่าเป็นการล้างบาง แต่ว่ามันยังไม่จบ
2
เนทันยาฮูได้ประกาศกร้าวเตือนอิหร่านไปว่า “ไม่มีพื้นที่ใดในอิหร่านหรือในตะวันออกกลางอยู่เหนือการควบคุมของอิสราเอล” (อ้างอิง: [1]) เมื่อพิจารณาถึงความเสียหายที่กองทัพและหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลสร้างให้กับศัตรูต่างๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่เนทันยาฮูจะคิดว่าตัวเขาประสบความสำเร็จแล้ว เช่นเดียวกับที่บุชทำ
อะไรจะมาหยุดยั้งไม่ให้เนทันยาฮูเข้ามาควบคุมสถานการณ์และเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจในภูมิภาคตะวันออกกลางให้เอื้อประโยชน์ต่ออิสราเอลอย่างถาวรได้ ความสำเร็จทางยุทธวิธีไม่ได้รับประกันความสำเร็จในระยะยาวทางด้านยุทธศาสตร์ แต่บางคนอาจโต้แย้งว่าหากสามารถบรรลุความสำเร็จได้เพียงพอ มันอาจเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางยุทธศาสตร์ได้อย่างมีนัยสำคัญและยั่งยืน นั่นคือสิ่งที่เนทันยาฮูคิดไว้ใช่ไหม แต่ก็มีเรื่องให้น่าชวนคิด ว่ามันจะเข้าอีหรอบเดิมคล้ายกับอเมริกาบุกอิรักในสมัยบุชหรือไม่
1
เนทันยาฮูในที่ประชุมสหประชาชาติเมื่อกันยายน 2023 เครดิตภาพ: Michael Kappeler/picture alliance via Getty Images
อย่างแรก ความเสียหายที่อิสราเอลสร้างให้กับกลุ่มที่เรียกว่า “แกนต่อต้าน” (Axis of Resistance - อิหร่านกับกองกำลังติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุนในตะวันออกกลาง) จะไม่ทำให้กลุ่มนี้ต้องล้มเลิกภารกิจหรือทำให้กลุ่มนี้ต้องชูธงขาว ฮิซบอลเลาะห์ ฮามาส ฮูตี และอิหร่าน ต่างรอดพ้นจากการโจมตีที่รุนแรงในอดีตมาแล้ว และความปรารถนาที่จะแก้แค้นของพวกเขาจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา
เป็นเรื่องแปลกที่การทิ้งระเบิดจำนวนมากของอิสราเอลใส่ชาวบ้านในกาซาดูเหมือนจะไม่สามารถเอาชนะพวกแกนต่อต้านได้ ทำไมชาวปาเลสไตน์ในกาซาพวกนี้ถึงยอมทนได้ขนาดนี้ - อ้างอิง: [2]
1
กลุ่มกองกำลังพวกนี้จะฟื้นตัวขึ้นใหม่เมื่อเวลาผ่านไป ผู้นำที่ถูกลอบสังหารกำลังถูกแทนที่แล้ว ผู้นำกลุ่มจะถูกสร้างใหม่และติดอาวุธใหม่ และกลยุทธ์ใหม่จะได้รับการพัฒนาขึ้นโดยอิงจากสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ ขณะนี้อิสราเอลกำลังส่งทหารกลับไปยังเลบานอนตอนใต้เพื่อพยายามตัดไฟแต่ต้นลมเอาให้เด็ดขาด แต่การบุกเข้าไปก่อนหน้านี้มันจบได้ไม่ดีนัก
5
เครดิตภาพ: Majdi Fathi/NurPhoto via Getty Images
เรื่องถัดมา สำหรับชาวปาเลสไตน์ซึ่งถูกอิสราเอลกดขี่ขับไล่จนเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด พวกเขาแทบไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมก้มหน้าชะตากรรมและลุกขึ้นต่อต้านการกระทำของอิสราเอลต่อไป สิ่งต่างๆ อาจแตกต่างไปหากอิสราเอลเสนอทางเลือกที่น่าดึงดูดใจแก่พวกเขา เช่น การสร้างรัฐของตนเองซ้อนหรือสิทธิที่เท่าเทียมกันภายในดินแดนที่อิสราเอลใฝ่ฝันต้องการที่เรียกว่า “Greater Israel” แต่เนทันยาฮูได้ปิดกั้นโอกาสนั้นไว้ - อ้างอิง: [3]
ในอดีตประธานาธิบดีอียิปต์ “อันวาร์ ซาดัต” เคยเจรจาสันติภาพกับอิสราเอล และอียิปต์ก็ได้คาบสมุทรไซนายกลับคืนมา กลุ่มพีแอลโอคุยเจรจากับอิสราเอลและได้โอกาสเข้าไปตั้งถิ่นฐานในดินแดนชุมชนอิสราเอลที่ถูกแบ่งแยกไปก่อนหน้ามาบ้าง
2
ทว่าอิสราเอลภายใต้เนทันยาฮูมีทางเลือกให้ชาวปาเลสไตน์ในปัจจุบันคือการขับไล่ หรือกำจัดทิ้ง ดังนั้นพวกเขาไม่มีคนใดยอมรับชะตากรรมเหล่านั้นโดยไม่ต่อสู้ได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่กลุ่ม PA (ภายใต้ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส) ซึ่งยอมรับการมีอยู่ของอิสราเอล ให้ความร่วมมือด้วยความหวังว่าจะได้รัฐปาเลสไตน์ที่ยั่งยืน แต่ไม่ได้รับสิ่งตอบแทนใดๆ กลับได้รับความนิยมน้อยลงในหมู่ชาวปาเลสไตน์ ในขณะที่การสนับสนุนกลุ่มฮามาสกลับเพิ่มมากขึ้นในกาซา
แผนที่แสดงดินแดนที่เรียกว่า Greater Israel เครดิตภาพ: Jagran Josh
ในทำนองเดียวกันความพยายามเป็นครั้งคราวของอิหร่านในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกา (และพ่วงด้วยอิสราเอล) ภายใต้ประธานาธิบดีคนก่อนๆ อย่าง “อาลี อัคบาร์ ฮาเชมี ราฟซานจานี” และ “ฮัสซัน โรฮานี” ถูกขัดขวางอย่างหนักโดยอิสราเอลและผู้สนับสนุนในสหรัฐฯ
1
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาโน้มน้าวใจ “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้เมื่อปี 2018 ทำให้สหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ JCPOA ที่ฟากตะวันตกได้เคยทำกับอิหร่านเพื่อหวังให้อิหร่านหยุดหรือยุติไม่พัฒนาด้านนี้ต่อเมื่อปี 2015
การตอบโต้เรื่องที่อเมริกาถอนจากการเป็นภาคี JCPOA ทำให้กลุ่มหัวรุนแรงในอิหร่านฮึกเหิมขึ้น และวิกฤตปัจจุบันในภูมิภาคตะวันออกกลางก็น่าจะส่งผลเช่นเดียวกัน แม้ว่าประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่าน “มาซูด เคเซชเปียน” ซึ่งเป็นโปรตะวันตกจะส่งสัญญาณบ่อยครั้งแล้วว่าเขาต้องการลดความตึงเครียดแล้วก็ตาม เขาบอกว่า “ไม่ต้องการทำสงครามกับอิสราเอล” – อ้างอิง: [4]
4
อย่างไรก็ตามเมื่ออิสราเอลเล่นหนักลอบสังหารผู้นำฮามาสถึงที่ในบ้านของอิหร่าน ตามมาด้วยผู้นำฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน การที่อิหร่านจะอยู่เฉยคงเป็นไปได้ยาก ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะดึงศรัทธาความเลื่อมใสมาจากกองกำลังติดอาวุธในสังกัดรอบตะวันออกกลางได้อย่างไร เหตุการณ์ต่างๆ ที่อิสราเอลได้ลงมือทำไว้จะทำให้ผู้นำสูงสุดอิหร่านมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจก้าวข้ามการเป็นรัฐที่มีอาวุธนิวเคลียร์แฝง (และเปิดตัวเต็มที่) มันจะเร่งทำให้สงครามในภูมิภาคเข้าใกล้สงครามนิวเคลียร์มากขึ้น
2
ทางเพจได้เคยเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องข้อตกลง JCPOA ที่อิหร่านทำร่วมกับตะวันตกเอาไว้ก่อนหน้านี้ และผลกระทบตามมาหลังจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางปัจจุบัน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
การกระทำล่าสุดของอิสราเอลยังทำให้อิสราเอลถูกโดดเดี่ยวทางภูมิรัฐศาสตร์มากขึ้น และอาจส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์พิเศษระหว่างอิสราเอลกับสหรัฐอเมริกาในที่สุด ความเห็นอกเห็นใจที่อิสราเอลได้รับหลังจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ได้จางหายไปในขณะที่โลกเฝ้าดูการสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นกับพลเรือนในฉนวนกาซาและเลบานอน
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ได้ประกาศว่าการยึดครองเวสต์แบงก์ของอิสราเอลเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ โดย “เนทันยาฮู” และ “โยอัฟ กัลลันต์” รัฐมนตรีกลาโหมอาจต้องเผชิญหมายจับจากศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ในข้อหาอาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ซึ่งทีท่าของเนทันยาฮูก็ชัดเจนว่า “โนสน โนแคร์” - อ้างอิง: [5]
1
ขณะนี้การรับรองอิสราเอลจากซาอุดิอาระเบียและรัฐอาหรับอื่นๆ ถูกระงับลง กลุ่มประเทศซีกโลกใต้ส่วนใหญ่ก็เริ่มหันหลังให้กับอิสราเอล และรัฐบาลยุโรปก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจมากขึ้น การเดินออกจากที่ประชุมเมื่อมีคำปราศรัยของเนทันยาฮูที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถือเป็น “การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์” ชัดเจน แต่ยังคงเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเขาและอิสราเอลถูกมองอย่างไรจากภายนอก - อ้างอิง: [6]
เครดิตภาพ: The Guardian
เนทันยาฮูกับผู้สนับสนุนของเขาอาจรู้สึกพอใจมากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ไบเดนให้การสนับสนุนทั้งการเงินและการทหารรวมถึงอาวุธเต็มที่ ถึงปากจะบอกว่ายูช่วยเพลาๆ ลงหน่อย สิ่งเหล่านี้มองว่าเป็นความสำเร็จเชิงกลยุทธ์ในระยะสั้นของอิสราเอลเท่านั้น แต่ในระยะยาวอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้ที่รุนแรงได้อย่างง่ายดายจากกลุ่มคนที่ถูกกลั่นแกล้งกดขี่พวกเขาเอามากๆ ความอดทนมีจำกัดและความแค้นนั้นสั่งสม
หากอิสราเอลทำให้มันบานปลายและสหรัฐฯ ถูกดึงเข้าไปพัวพันโดยตรง ชาวอเมริกันเองอาจตั้งคำถามอย่างจริงจังถึง “ความสัมพันธ์พิเศษ” และถูกโยงไปถึงวาระของกลุ่มนีโอคอนในสมัยบุชคนลูกเพื่อจัดการ “ซัดดัม ฮุสเซน” ในอิรักได้รับแรงบันดาลใจบางส่วนจากความปรารถนาที่จะทำให้อิสราเอลมีความปลอดภัยมากขึ้นในภูมิภาคหรือไม่ (เหตุผลว่าทำไมคณะกรรมการกิจการสาธารณะของอเมริกา-อิสราเอลและผู้นำอิสราเอลอย่างเนทันยาฮูจึงยุรัฐบาลบุชให้เกิดสงครามในอิรัก) - อ้างอิง: [7][8]
ซัดดัม ฮุสเซน กล่าวให้การในศาลระหว่างการพิจารณาคดีในกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อปี 2006 เครดิตภาพ: Chris Hondros / Reuters
จากบทความของ Foreign Policy โดยอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศคนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เขาให้ความเห็นที่น่าสนใจดังนี้ - อ้างอิง: [9]
ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน โดยเฉพาะในทางการเมือง บางครั้งสิ่งที่ดูเหมือนชัยชนะทางทหารหรือทางการเมืองอันน่าตื่นตะลึงในตอนแรก อาจแฝงไปด้วยเมล็ดพันธุ์แห่งปัญหาที่ร้ายแรงกว่าซึ่งงอกเงยขึ้นตามกาลเวลา
ความท้าทายสำหรับผู้นำที่ประสบความสำเร็จคือการใช้ข้อได้เปรียบชั่วคราวเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ในระยะยาว แต่การจะทำเช่นนั้นได้นั้นต้องรู้ว่าเมื่อใดควรหยุดและเมื่อใดควรเปลี่ยนจากการสู้รบเป็นการแก้ไขข้อขัดแย้ง น่าเศร้าที่ไม่มีสัญญาณใดๆ บ่งชี้ว่าเนทันยาฮูมีทักษะเหล่านั้นหรือมีความสนใจแม้แต่น้อยในการได้มาซึ่งทักษะเหล่านั้น
เรียบเรียงโดย Right Style
3rd Oct 2024
  • แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: peacehistory-usfp.org / Stephen Jaffe, AFP / Anja Niedringhaus, AP / Andrea Dicenzo, AFP / Reuters>
โฆษณา