4 ต.ค. เวลา 15:14 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ

Do 335

เครื่องบิน Dornier Do 335 ผลิตในเยอรมนีโดยบริษัท Dornier ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเครื่องบินรุ่นนี้มีการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งใช้เครื่องยนต์สองตัวติดตั้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (push-pull configuration) ทำให้เครื่องบินมีความเร็วสูงมากเมื่อเทียบกับเครื่องบินใบพัดรุ่นอื่นในช่วงนั้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสงครามโลกครั้งที่สองจบลงก่อนที่จะมีการผลิตอย่างเต็มที่ ทำให้ Do 335 ผลิตออกมาเพียงประมาณ 37 ลำ เท่านั้น (รวมทั้งรุ่นทดสอบและรุ่นผลิตจริง) และไม่ถูกนำไปใช้ในปฏิบัติการทางทหารอย่างแพร่หลาย
Dornier Do 335 เป็นเครื่องบินขับไล่แบบใบพัดที่มีสมรรถนะโดดเด่นมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เนื่องจากการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยเครื่องยนต์สองตัวที่ติดตั้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้มันเป็นหนึ่งในเครื่องบินใบพัดที่เร็วที่สุดในยุคนั้น นี่คือสมรรถนะของ Do 335:
สมรรถนะของ Dornier Do 335
1. ความเร็วสูงสุด: Do 335 มีความเร็วสูงสุดประมาณ 765 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ประมาณ 475 ไมล์ต่อชั่วโมง) ที่ระดับความสูง 6,400 เมตร (21,000 ฟุต) ซึ่งทำให้มันเป็นเครื่องบินขับไล่ใบพัดที่เร็วที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สอง
2. พิสัยบิน (Range): พิสัยบินของ Do 335 อยู่ที่ประมาณ 2,100 กิโลเมตร (1,305 ไมล์) เมื่อเติมเชื้อเพลิงเต็มที่ ซึ่งถือว่ามีระยะปฏิบัติการที่ไกล
3. อัตราการไต่ระดับ (Rate of Climb): Do 335 มีอัตราการไต่ระดับที่ยอดเยี่ยมอยู่ที่ประมาณ 1,400 เมตรต่อนาที (4,500 ฟุตต่อนาที) ด้วยกำลังจากเครื่องยนต์สองตัว ทำให้มันสามารถไต่ระดับได้รวดเร็ว
4. เพดานบิน (Service Ceiling): Do 335 สามารถบินได้สูงสุดที่ระดับ 11,400 เมตร (37,400 ฟุต) ซึ่งสูงมากสำหรับเครื่องบินขับไล่ใบพัดในยุคนั้น
5. เครื่องยนต์: Do 335 ติดตั้งเครื่องยนต์ Daimler-Benz DB 603 จำนวนสองตัว ตัวหนึ่งติดด้านหน้าและอีกตัวหนึ่งติดด้านหลังของลำตัวในลักษณะ push-pull ซึ่งเพิ่มแรงขับและลดแรงต้าน ทำให้เครื่องบินมีความเร็วสูงและสมรรถนะในการบินที่ดี
6. การออกแบบปีก: Do 335 มีปีกขนาดใหญ่เพื่อรองรับน้ำหนักของเครื่องยนต์สองตัวและถังเชื้อเพลิง ซึ่งช่วยในการเพิ่มความมั่นคงในเที่ยวบินยาวและทำให้สามารถบรรทุกอาวุธได้มาก
7. อาวุธ: Do 335 ติดตั้งอาวุธปืนใหญ่อากาศ MK 103 ขนาด 30 มม. จำนวน 1 กระบอก ติดตั้งอยู่กลางลำตัว และ MG 151 ขนาด 20 มม. จำนวน 2 กระบอก บริเวณปีก นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งระเบิดหรืออาวุธอื่น ๆ ได้เช่นกัน
ข้อเด่น:
ความเร็วสูงและการไต่ระดับที่รวดเร็ว
อัตราพิสัยบินที่ไกลและความสามารถในการบินที่เพดานสูง
การออกแบบเครื่องยนต์แบบ push-pull ลดแรงต้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสีย:
การออกแบบที่ซับซ้อนทำให้การผลิตยาก
ปัญหาด้านกลไกและความซับซ้อนในการบำรุงรักษาเนื่องจากการใช้เครื่องยนต์สองตัว
ผลิตในจำนวนน้อยและเข้าประจำการช้าเกินกว่าที่จะมีผลกระทบในสงคราม
Do 335 จึงเป็นเครื่องบินที่มีสมรรถนะสูงมากในยุคนั้น แต่อยู่ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง จึงไม่ทันได้มีบทบาทในสนามรบอย่างเต็มที่
T-6 Texan
หากคุณหมายถึง T-6 Texan II ซึ่งเป็นเครื่องบินฝึกสมัยใหม่ที่ใช้ในกองทัพอากาศและกองทัพเรือสหรัฐฯ มาเปรียบเทียบกับ Dornier Do 335 จะเห็นได้ว่าทั้งสองเครื่องบินนี้มีจุดประสงค์และยุคสมัยที่ต่างกันมาก:
1. Dornier Do 335
ประเภท: เครื่องบินขับไล่และทิ้งระเบิดใบพัดจากยุคสงครามโลกครั้งที่สอง
ความเร็วสูงสุด: 765 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (475 ไมล์ต่อชั่วโมง)
เครื่องยนต์: Daimler-Benz DB 603 สองเครื่องยนต์ (push-pull configuration)
เพดานบิน: 11,400 เมตร (37,400 ฟุต)
พิสัยบิน: 2,100 กิโลเมตร (1,305 ไมล์)
อาวุธ: ปืนใหญ่ 30 มม., ปืนกล 20 มม., และระเบิด
บทบาท: เครื่องบินขับไล่และทิ้งระเบิดที่ออกแบบมาเพื่อมีความเร็วและการไต่ระดับสูง ใช้ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง
2. T-6 Texan II
ประเภท: เครื่องบินฝึกแบบใบพัดสำหรับฝึกนักบินสมัยใหม่
ความเร็วสูงสุด: 585 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (364 ไมล์ต่อชั่วโมง)
เครื่องยนต์: Pratt & Whitney PT6A-68 Turboprop (เครื่องยนต์เทอร์โบพรอพ)
เพดานบิน: 9,448 เมตร (31,000 ฟุต)
พิสัยบิน: 1,667 กิโลเมตร (1,036 ไมล์)
อาวุธ: ปกติไม่มีการติดตั้งอาวุธ เพราะเป็นเครื่องบินฝึก แต่สามารถติดตั้งอาวุธได้สำหรับฝึกบินรบในบางรุ่น
บทบาท: ใช้สำหรับฝึกนักบินในขั้นพื้นฐานและขั้นกลาง ก่อนที่จะไปบินเครื่องบินรบจริง เช่น F-16 หรือ F-35
การเปรียบเทียบ:
ยุคสมัยและบทบาท: Dornier Do 335 ถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และมีบทบาทเป็นเครื่องบินขับไล่ที่มีความเร็วสูงมากสำหรับสู้รบ ขณะที่ T-6 Texan II เป็นเครื่องบินฝึกสมัยใหม่ ใช้ในกองทัพอากาศและกองทัพเรือสหรัฐฯ สำหรับการฝึกนักบิน
สมรรถนะ: Do 335 มีความเร็วสูงกว่าและออกแบบมาสำหรับการสู้รบจริง ส่วน T-6 Texan II มีความเร็วต่ำกว่าเพราะเน้นการฝึกฝนนักบิน โดยมีเครื่องยนต์แบบเทอร์โบพรอพที่ประหยัดและง่ายต่อการบำรุงรักษา
การออกแบบ: Do 335 มีการออกแบบที่ซับซ้อนกว่าเนื่องจากใช้เครื่องยนต์สองตัว ขณะที่ T-6 Texan II ใช้เครื่องยนต์เดียวและเป็นเครื่องบินที่ออกแบบมาให้เรียบง่ายเพื่อการฝึก
บทสรุป:
ทั้งสองเครื่องบินนี้ไม่สามารถเปรียบเทียบกันโดยตรงได้ เพราะมีบทบาทและสมรรถนะที่แตกต่างกันอย่างมาก Do 335 เป็นเครื่องบินรบในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ขณะที่ T-6 Texan II เป็นเครื่องบินฝึกสมัยใหม่สำหรับการฝึกนักบิน
ขอบคุณข้อมูลจาก Chat Gpt และภาพจากพี่ไพบูลย์
โฆษณา