6 ต.ค. เวลา 02:21 • หุ้น & เศรษฐกิจ

#55/67

จากที่เขียนไว้ก่อนหน้า ได้ราคาเป้าก็ขายครับ เราขายสินค้าในร้านก็ต้องแปะราคาไว้ลูกค้ามาซื้อก็ขายตามราคาที่ 8 ก็เหมือนกันเราตั้งราคาขายไว้กำไรเป้าหมายไว้เมื่อถึงราคาเราก็ขายต่อให้ราคาจะขึ้นไปต่อก็ไม่เป็นไรเพราะเราได้เป้าหมายของราคาแล้วส่วนเงินที่ได้มาก็ต้องดูว่าเราจะเก็บไว้หรือนำไปซื้อตัวสินค้าที่ยังไม่ขึ้น
ส่วนทางร้านตอนนี้ได้ราคาเป้าหมายก็ขายไปแล้วก็ไปซื้อสินค้าที่ราคายังไม่ขึ้นหรือยังขึ้นไม่มาก มองว่าในส่วนของดัชนีถ้าย่อคงไม่มากเพราะอย่างน้อยก็มีกองทุนวายุภักษ์ที่จะเข้ามารองรับ แต่กองทุนที่เข้ามาคงไม่ซื้อทีเดียวทั้งหมดคงจะทยอยซื้อและก็ต้องคำนึงถึง performance ของกองทุนด้วย
ถ้าซื้อแพง performance ก็คงไม่ดี คงรอจังหวะซื้อเมื่อสินค้าถูก ดังนั้นจึงมองว่าถ้าย่อลงย่อได้ไม่มากเพราะมีกองทุนคอยหนุนอยู่ แล้วถ้าขึ้นล่ะจะไปได้ไกลแค่ไหนก็อย่างที่บอกไว้เมื่อคราวก่อนๆคือมองภาพรวมแล้วเศรษฐกิจไทยไม่โตโดดเด่นดังนั้นแรงขับเคลื่อนก็ได้แต่จากการที่กระตุ้นในระยะสั้นของรัฐบาลแต่ในระยะยาวนั้นมองว่ายังไม่มีปัจจัยหนุนจึงมองว่าถ้าขึ้นก็คงไม่มากคงเหวี่ยงตัวในช่วงแคบๆแบบนี้
ดังนั้นสินค้าในร้านตั้งเป้ากำไรไว้จะได้อาบน้ำได้ไว้สัก 3% 5% 10% หรือมากกว่าหรือน้อยกว่านั้น ถึงเวลาราคาขึ้นมาได้ระดับนั้นเราก็ขายหรือทยอยขายแล้วแต่สถานการณ์ในจังหวะนั้นๆ แต่สิ่งที่สำคัญก็คืออย่าโลภ เพราะถ้าโลภอาจจะไม่ได้กำไร เช่นเมื่อราคาถึงเป้าแล้วไม่ขายก็รอว่าจะได้กำไรมากขึ้นแต่สุดท้ายราคากับย่อตัวลงมาต่ำกว่าเป้าหมายกำไรที่ได้ตั้งไว้ ก็ขายไม่ได้เผลอๆอาจจะขาดทุน
ดังนั้นขายสินค้าเราซื้อของมาขายไม่ได้ซื้อของมาเก็บ ได้ราคาที่แปะไว้ก็ขายครับ ส่วนเงินที่ได้มาจะพักไว้ก่อนหรือเอาไปซื้อสินค้าอื่นที่ราคาถูกหรือยังขึ้นไม่มาก เพื่อรอจังหวะขายก็แล้วแต่สถานการณ์แล้วแต่การตัดสินใจของแต่ละท่าน แล้วถ้าไม่รู้ว่าจะรอเพื่อไปเก็บตัวไหนหรือซื้อสินค้าประเภทไหนเข้าร้าน ก็ดูจากธุรกิจของประเทศไทย ซึ่งหลักๆก็คือการท่องเที่ยว ภาคบริการและสินค้าเกษตรแต่สินค้าเกษตรนั้นสำหรับทางร้านไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นัก
เนื่องจากมีปัจจัยดินฟ้าอากาศโรคระบาดมาเกี่ยวข้องจึงทำให้คาดการณ์ได้ยากถึงแม้ว่าจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีมาช่วยก็ตาม สินค้าที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม การขนส่ง ค้าปลีก ร้านอาหาร
กลุ่มอุตสาหกรรมสุขภาพ เช่นโรงพยาบาล บริษัทผลิตยาหรือนำเข้าเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางด้านการแพทย์ อาหารเสริม อันนี้คือหลักๆที่ทางร้านซื้อเข้า แต่ก็ต้องดูปัจจัยของแต่ละตัวด้วยนะครับว่าราคาสูงเกินไปหรือเปล่ายังแพงไปไหม และดูปัจจัยในเชิงพื้นฐานประกอบ
แต่หลักสำคัญของร้านนี้คือว่าถ้าแพงไม่ซื้อเพราะซื้อเข้ามาต้นทุนเราสูงขายต่อยากครับอันนี้คือสำคัญ
อีกอย่างคือต้องมีปันผลเพราะถ้าเกิดเราเกิดการผิดพลาดซื้อเข้ามาแล้วอย่างน้อยขายยากก็ยังมีปันผลให้เราระหว่างที่รอขายเหมือนเหมือนกับฝากประจำไว้ก่อน
แต่ถ้าไม่มีเงินปันผลแต่เรากลับซื้อในราคาสูงและขายออกยากอันนี้เท่ากับเงินเราจมครับเพราะไม่รู้เมื่อไหร่จะปล่อยออกแถมไม่มีดอกเบี้ยให้
ให้ดีและเราต้องรู้ตัวเองว่าเราเป็นสไตล์ไหนร้านเราเป็นสไตล์ไหน แต่ละคนไม่เหมือนกันมีสไตล์บุคลิกเฉพาะตัวที่แตกต่างกันดังนั้นซื้อขายสินค้าประเภทไหนอย่างไรแบบไหนก็ต้องให้ถูกจริตของตัวเอง รายละเอียดต่างๆของสินค้าการเลือกสินค้าหรือการซื้อของร้านมีเขียนไว้ใน series ลองหาดูได้ครับ
โฆษณา