6 ต.ค. เวลา 06:11 • ความคิดเห็น
ไทย
ขอบคุณมากๆครับ และเป็นบทความที่มีประโยชน์ที่สามารถใช้ได้จริง จนทำให้ผมหวนนึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระเจ้าแผ่นดินทุกพระองค์ที่ทรงห่วงแหนประสกนิกร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร(ในหลวงรัชกาลที่ 9) ที่ทรงศึกษาและ “จุดประกาย” โครงการต่างๆ ไว้มากมาย เช่น...
โครงการ การสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำ เช่น เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก เพื่อบรรเทาปัญหา น้ำท่วม น้ำแล้ง และปัญหาดินเปรี้ยว
และ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยในช่วงฤดูน้ำหลาก บริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสักตอนล่างและลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ส่งผลถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล
โครงการก่อสร้างทางผันน้ำ ทรงมีหลักการว่า จะผันน้ำในส่วนที่ไหลล้นตลิ่งออกไปจากลำน้ำโดยตรง ปล่อยน้ำส่วนใหญ่ที่มีระดับไม่ล้นตลิ่งให้ไหลอยู่ในลำน้ำตามปกติ เช่น
การผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ทางตะวันตกผันเข้าแม่น้ำท่าจีน แล้วผันลงสู่ทุ่งบริเวณจังหวัดสุพรรณบุรี ก่อนระบายออกสู่ทะเล
ด้านตะวันออกผันน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์ เข้าสู่ คลอง 13 จากนั้นระบายออก คลอง 14 น้ำส่วนหนึ่งจะถูกผันไปลง แม่น้ำบางปะกง อีกส่วนหนึ่งไปลงคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ผ่านสู่ คลองชายทะเล
หรือผันน้ำออกสู่ทะเลโดย คลองสนามบิน
โครงการสร้างคันกั้นน้ำ หรือ การปรับปรุงสภาพลำน้ำ เช่น โครงการคลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ความยาว 600 เมตร
ช่วยย่นระยะทางระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงโค้งกระเพาะหมูที่ยาว 18 กม. เหลือ 600 เมตร สามารถบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ได้
โครงการแก้มลิง ทรงเปรียบเทียบการกินอาหารของลิง หลังจากที่ลิงเคี้ยวกล้วยแล้วจะยังไม่กลืน แต่จะเก็บไว้ในแก้มทั้งสองข้าง แล้วค่อยๆดุนกล้วยมากินในภายหลัง ทรงรับสั่งว่า
“...ถ้าไม่ทำโครงการแก้มลิงน้ำท่วมนี้จะเปรอะไปหมด อย่างที่เปรอะในปีนี้ เปรอะไปทั่วภาคกลาง จะต้องทำ “แก้มลิง” เพื่อที่จะเอาน้ำนี้ไปเก็บไว้ และเอาน้ำออกเมื่อมีโอกาส...” ซึ่งในหลวงรัชกาลปัจจุบันก็ยังทรงตรัสถึงอยู่บ่อยครั้ง
2
จากการศีกษาโครงการต่างๆทำให้ผมได้ทราบว่าท่านทรงเป็น “ครูของแผ่นดิน” อย่างแท้จริง และขอเพียงลูกศิษย์ลูกหา
1
โดยเฉพาะรัฐบาลได้ศึกษาและเดินตามรอยของพระองค์ท่าน ประเทศชาติก็จะไม่ลำบากทุกปีเหมือนๆอย่างในทุกวันนี้ และด้วยอานิสงส์ดังนี้ประเทศชาติจะเจริญรุ่งเรืองขึ้น(กว่าเงิน(แจก)กระตุ้นเศรษฐกิจ)อย่างแน่นอน
2
โฆษณา