6 ต.ค. เวลา 13:39 • หุ้น & เศรษฐกิจ

จดสรุป CV MEDEZE 6-10-2024

ผมเลิกเขียนแล้วก็จริง แต่เนื่องจากวันนี้ผมไป CV บริษัทนี้มา และต้องช่วยสมาคมจดสรุปอยู่แล้ว ก็เลยเอามาแชร์ครับ
- มีบริษัทที่สิงคโปร์ ทำให้สามารถไปลงทุนต่อยอดในประเทศอื่น ๆ ได้ง่ายกว่า ให้ที่สิงคโปร์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ เพราะสามารถครอบคลุมได้ทั่วโลกมากกว่า
- 15 ต.ค. 2567 เข้าตลาด
⁃ GPM สูงเพราะเรามีอินโนเวชั่นของตัวเอง เรามี Economies of Scale
⁃ คุณหมอได้เงินเริ่มต้นจากแม่ 10 ล้านบาท
⁃ เป็นบริษัทที่ 5 ในไทยที่เข้าวงการ แต่เป็นเจ้าแรกที่นำระบบอัตโนมัติมาใช้ เครื่องราคาแพง จนถึงปัจจุบันเราก็ยังเป็นเจ้าเดียวที่ใช้อยู่
⁃ ถ้าเก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า 110 องศา จะสามารถเก็บได้นานเป็น 1,000 ปี
⁃ Stem cell เป็นองค์ความรู้ของหมอสู
⁃ เมื่อ 14 ปีก่อนเราเห็น trend ว่า Aging Population เราจึงได้เริ่มต้นธุรกิจนี้
⁃ ในปี 2016 เริ่มตั้งบริษัทวิจัยร่วมด้วย ในไทยเน้นด้านปฏิบัติการ ที่สิงค์โปรเน้น innovation
⁃ ปัจจุบันมีการใช้ stem cell มากกว่า 1 ล้านเคสแล้ว
⁃ สามารถทำกระจกตาสำรองได้แล้ว
⁃ วางแผนอยากเป็น Global Company
⁃ เชื่อว่าทุก 7 ปี บริษัทจะมีการเปลี่ยนแปลง
⁃ รายได้และกำไร ใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
⁃ จดลิขสิทธิ์แบรนด์ในประเทศต่าง ๆ 22 ประเทศ
⁃ เป็น AA category ของที่สิงค์โปร
⁃ เรากล้ารับประกันคุณภาพ ในช่วง 30 ปี
⁃ Stem Cell รักษาได้เฉพาะโรคที่เกิดจากความเสื่อม
⁃ เราแช่แข็งที่อุณหภูมิ -196 องศา ไปอีก 60 ปี
⁃ เซลล์ 1% สามารถเพิ่มเป็น 100% ได้ภายใน 5 วัน
⁃ Stem Cell เอาไว้ฟื้นฟูร่างกายทั้งหมด เป็น Anti-aging
⁃ เรามีเครื่อง Quantum 3 เครื่อง เป็นเจ้าเดียวในเอเชีย
1
⁃ เครื่อง Quantum เพิ่ง launch เมื่อ 3 ปีก่อน สามารถเพาะเลี้ยงเซลบ์ได้ 1,000 ล้านเซลล์ ในเวลาแค่ 7 วัน
⁃ มี AABB สามารถนำ stem cell ไปใช้รักษาได้ทั่วโลก
⁃ ได้รางวัลจาก Frost and Sullivan มาต่อเนื่องหลายปีแล้ว
⁃ Hobby ของคุณหมอคือการผ่าตัด
⁃ ได้ BOI จากตัวเซลล์รากผม เป็น New S curve
⁃ Hair Clonning เพิ่มปริมาณเส้นผมขึ้นมาใหม่ได้เลย
⁃ ได้นวัตกรรมแห่งชาติไปแล้ว
⁃ Hair Clonning คืออนาคต
Q1: เงิน IPO เอาไปทำอะไรบ้าง
A1: เงิน IPO 100 ล้านบาทจะไปลงในพวกด้านเซลล์รากผม จ้างบุคลากร เป็น B2B จับมือกับคลินิกต่าง ๆ
เอาเส้นผม 50 เส้นมาสกัดสร้างเซลล์รากผม ประมาณปีหน้าโปรดักน่าจะออก
ได้ BOI ด้วย 10 ปี
Robotic ใช้เงิน 400 ล้านบาท คิดว่าตลาด stem cell จะเติบโตมากขึ้น คิดว่าจะมาช่วยแก้ปัญหา bottleneck ได้ ได้รับ อย เรียบร้อยแล้ว
ปีหน้าน่าจะได้สั่งเครื่องเข้ามา คิดว่าจะเปิดเครื่องได้ในปี 2569
Partner น่ารักมาก ตกลงราคากันแล้ว ไม่ได้ปรับขึ้นราคา
Robotic กำลังขอ BOI อยู่
Q2: คิดว่า ทั้ง 2 โปรเจค จะได้ irr เท่าไร
A2: ตัว hair โมเดลไม่ต่างกัน margin สูง irr สูง เกิน 50%
Robotic GPM กับ NPM ก็ไม่ต่าง แต่ capacity ต่างเยอะ double ได้เลย cost ในการเลี้ยงเซลล์จะต่ำลง แล้วมีความเป๊ะกว่า
เราเอาคนออกจากกระบวนการผลิตเพาะเลี้ยงเซลล์ ป้องกันการปนเปื้อน ลดการสูญเสีย
Q3: FA อยู่กับบริษัทมานานกว่า 5 ปี คิดว่า MEDEZE มีดีอะไร
A3: โครงสร้างบริษัท มีทั้งในส่วนประเทศไทย และสิงคโปร์
บริษัทเคยคิดว่าจะเข้าในตลาดหุ้นไทยหรือสิงคโปร์ดี แต่เข้าไทยเพราะตลาดไทยมีสภาพคล่องกว่า
เจ้าของบริษัทมีความทะเยอทะยานมาก เชื่อมั่นในตัวเองสูง อยากทำให้บริษัทไประดับโลกให้ได้
บ้านคุณหมอทำไฟแช็ค ส่งออกไปทั่วโลก
Medeze มี R&D อยู่ 2 บริษัท คือในไทยและสิงคโปร์ แต่ที่สิงค์โปรช่วย drive เยอะกว่า
R&D ในเมืองไทย ช่วยดูเรื่อง process เพื่อทำให้กำไรดูดีขึ้น
บริษัทนี้พยายามจะปรับปรุงในเรื่องของ bottom line
ผลของการลงทุน break cost ได้ดีพอสมควรเลย
ผลประกอบการก็ดูดี โต double digit บริษัทมี Barrier to Entry
มีคนที่รู้จริงในอุตสาหกรรมนี้น้อย แต่เจ้าของสามารถหาคนเก่ง ๆ มาทำงานด้วยได้
ธุรกิจนี้ยาก แต่ MEDEZE สามารถแข่งขันได้ และทำได้ดีด้วย เลยทำให้ GPM กับ NPM สูง
คือเราเริ่มอะไรก่อนคนอื่น ทำให้คู่แข่งจะเข้ามาแข่งด้วย ก็ช้าเกินไปแล้ว
บริษัทลงทุนใน government bond เป็นเวลา 30 ปี ค่อนข้างมีความมั่นใจได้ว่า บริษัทจะอยู่ไปได้อีกยาว ๆ
Q4: หุ้นถูกหรือแพง
A4: คิดว่าวิธีการ valuation ตัวนี้ยาก เพราะไม่มีตัวเปรียบเทียบตรง ๆ ก็เลยพึ่งพา PEG
เอา CAGR มาดู พบว่า EPS โตได้ประมาณ 40%
ตอนแรกหยวนต้าให้ 12 บาทกว่า แต่เจ้าอื่นก็ให้ประมาณ 11 บาท
Q5: พี่เชาว์คิดยังไง ได้จองด้วย
A5: ดู 3 dimensions
มี moat ไหม คิดว่าตัวนี้มี
โตขนาดไหน ตัวนี้ยังไปได้อีกยาวไกล
ราคาแพงไปไหม P/E 30 เท่า ตัวนี้ยังถือว่าไม่แพง
คิดว่าเหมือนได้ซื้อหุ้น Nvidia ในตอนปี 1999
Q6: ถามพี่หลิน มองตัวนี้ยังไง
A6: คิดว่าเป็นเรื่องดีที่ประเทศไทยมีบริษัทแบบนี้ คิดว่าเรื่อง valuation เป็นเรื่องศิลปะ แล้วแต่ละคนมอง
Q7: ถามพี่วัฒนา
1
A7: เก็บ stem cell แล้ว เหมือนทำประกัน ถ้ามีเงินก็ทำ
Q8: ถามหมอเบนซ์
A8: คิดเหมือนพี่วัฒนา เก็บไปก็เหมือนซื้อประกัน ถ้าไม่ได้มีปัญหาทางการเงินก็ควรเก็บ ถ้าอนาคตเทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนา ก็เผื่อไว้ได้ใช้
Q9: ถามพี่จิม
A9: เป็น high growth มี strong financial มี high margin ยังมี low penetration คิดว่ายังมีโอกาสในการเติบโตได้เยอะ
มี secure bond มี growth เผื่อความปลอดภัยไว้พอสมควร
Q10: ขายหุ้นแล้ว หักค่าใช้จ่ายไป ได้เงิน 100 ล้าน ไปทำผม 400 ล้าน ไปทำ robotic อีก 1,000 กว่าล้านจะเอาไปทำอะไร
A10: ตอนนี้เราใช้คน ถ้ามี robotic เราก็จะใช้ robotic ทั้งหมด ถ้าขอ boi ได้ 10 ปี
ตอนนี้จากยอด 100 ล้าน และเพิ่มไปเป็น 1,000 ล้าน มันจะไม่ต้องเสียภาษีเลย ลองไปคำนวณดูว่า tax saving จากการมีตัวนี้ คำนวณรวมกับว่าตัดค่าเสื่อมเครื่องกี่ปี สุดท้าย bottom line จะเป็นเท่าไร
เงินที่เหลืออีก 1,000 กว่าล้าน ไปเป็น working cap แล้วเอาพวกเงินสดจากการดำเนินงานไปลงทุนเพิ่มก็ได้
เอาเป็นว่า 1,000 ล้านนี้ยังไม่ยอมตอบ เดี๋ยวรอหลังวันที่ 15 ต.ค. 2567 เดี๋ยวหลังเข้าตลาด จะมีอะไรใหม่ ๆ ให้เห็นมาเรื่อย ๆ เดี๋ยวจะจัด Roadshow ให้ทุก 6 เดือน
Q11: เราไม่มีหนี้จริงหรือ
A11: หนี้ของเรา จะเป็นหนี้ของ banking ที่ลูกค้ามาเก็บ ปีนึงทยอยรับรู้ไม่ถึงปีละ 100 ล้านบาท กับอีกส่วนนึงคือ priority package ใน government bond ประมาณ 400 กว่าล้าน จะเป็นเงินจากใน priority package เราจะเอาเงินจาก government bond ไป reinvest ตลอด
Cord blood มีลูกค้าเกือบ 10,000 ราย ยังไม่มีลูกค้าที่เป็นโรคที่เราระบุไว้ 4 โรคเลย บริษัทสร้างกระแสเงินสดได้ดีมาก ทำให้ไม่มีหนี้เงินกู้เลย ดอกผลจาก government bond ก็จะเอาไปซื้อประกันเพิ่ม เพื่อช่วยในการ cover บริษัท
Structure นี้ ทำเพื่อให้ฐานะทางการเงินการลงทุนของบริษัทมีความสอดคล้องมากขึ้น เราซื้อ government bond เมื่อปีที่แล้ว ประมาณ 400 กว่าล้านบาท คิดว่าสุดท้ายอัตราดอกเบี้ยของไทยจะต้องทยอยลดลง
ถ้าเรามี government bond แบบนี้ ถ้าดอกเบี้ยลดลง เราจะได้ประโยชน์ แต่คิดว่าเงินควรเก็บเอาไว้ เพื่อเอามาจ่ายในส่วน priority package แต่เราไม่ได้จะมาเก็งกำไรอะไร คงไม่ได้เอาออกมาขาย
Q12: ธุรกิจผูกอยู่กับ Stem Cell ในโลกนี้มีพัฒนาการ แนวโน้มจะถูกเอามาใช้เป็นอย่างไร
A12: มีการ approve จากหลาย ๆ ประเทศ กระบวนการเลี้ยงมีผลต่อการนำไปใช้อย่างมาก
อย่างน้อย ได้ 3 R
Reduce การอักเสบ
Rejuvination
Repair ต้องใช้เซลล์ตัวเอง
ในระยะกลางสามารถทำเป็นอวัยวะขึ้นมา เราก็อยากจะทำเป็นอะไหล่ขึ้นมา คือ MFC STEM CELL
ลองไปดู biotech ใน nasdaq ว่าต่างจาก MEDEZE อย่างไร ที่ไม่มีหนี้ การเติบโตเท่านี้ NPM เท่านี้
คุณหมอเจ้าของมีความเข้าใจทั้งวิทยาศาสตร์และธุรกิจดีมาก
Q13: เป้าปีหน้าที่จะโต คิดว่ากี่เปอร์เซ็นต์ และจะโตจากอะไรบ้าง
A13: พูดไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ใน Filing แต่คิดว่าโตไม่น้อยกว่าเฉลี่ย 3 ปีที่ผ่านมา
Q14: ปัจจุบันลูกค้าต่างประเทศกี่เปอร์เซ็นต์ แล้วเป้าระยะยาวคิดว่าเป็นเท่าไร
A14: ก่อน Covid 20% แต่หลัง Covid อยู่ที่ 8-9% แต่เริ่มจะกลับมาแล้ว แต่คิดว่าอนาคตเราจะใหญ่สุดในเอเชีย
คิดว่าภายใน 2 ปี จะกลับไปโตได้แบบ pre-covid
Q15: ลูกค้าในแต่ละปี เป็นลูกค้าเก่าใหม่ เท่าไร
A15: ลูกค้าเก่า 30%
Q16: ลูกค้าที่บินมา เป็นกี่เปอร์เซ็นต์
A16: ที่รายได้โตหลัก ๆ มาจากการเพาะเลี้ยง
สัดส่วนต่างชาติ ถ้าทำได้ อยากจะไปเปิด biobank ในทุก ๆ ประเทศ เพื่อให้มีประสิทธิภาพการเก็บดีที่สุด เพราะถ้าบินเกิน 2 ชั่วโมง คุณภาพเซลล์ที่เก็บจะต่ำลง
เราเขียน program ERP ของเราเอง จด copywrite แล้ว จะเอาไปใช้กับทุกประเทศ เงินจะถูก console มาในประเทศไทยหมดเลย แต่เดี๋ยวอีก 6 เดือนจะมาบอกอีกที
Q17: stem cell เคยไปรักษาใครมาบ้างหรือยัง แล้วคิดว่าเมื่อไรจะเอาไปใช้ได้เมื่อไร
A17: ตอบไม่ได้ sensitive ไป
Q18: การโต 30-40% ต่อปี คิดว่าโตได้แน่ ถ้ามีลูกค้าใหม่ ดูมองไม่ออกว่าจะทำยังไง
A18: เข้าตลาด คนรู้จักมากขึ้น ได้ 3% ของประชากร เราก็ทำไม่ไหวแล้ว แค่ปีหน้าเพิ่มอีก 0.1% ก็โตเป็น 100% แล้ว
เรื่องไขมัน เราต้อง educate ทางสื่อมากขึ้น คิดว่าจะเป็น new s curve ของปีหน้า ที่ผ่านมามีประเด็นเรื่องทางการแพทย์ก็เลยยังทำการตลาดมากไม่ได้
แต่คิดว่าไขมันสามารถโตได้เกือบ 100% ในปีหน้า
เราเตรียมคนพร้อมแล้ว เติบโตแน่นอน แต่กังวลว่าจะทำไม่ไหวมากกว่า
Market Size ตอนนี้เรายัง capture ได้ไม่เยอะ แต่เข้าตลาดไป เราน่าจะทำได้ดีขึ้น
Q19: อะไรทำให้เราเก่งกว่าคนอื่น
A19: basic สำคัญเราต้องรู้จริง คุณหมอคิดค้นวิธีผ่าตัดใหม่ ๆ ให้โลกใบนี้มา 3-4 อย่างแล้ว
คุณหมอเลือกไปทำงานโคราช เพื่อจะได้ฝึกผ่าตัดเยอะ ๆ
เพราะ passion ของเราคือการรักษาคน ทำให้เราต้องศึกษา รู้ลึกรู้จริง เปิด R&D 2 แห่งเลย เพื่อจะได้รู้มากขึ้น คือความรู้ทั้งจากฝั่งไทยและสิงคโปร์
เบื้องหลังของธุรกิจนี้ยากมาก เพราะพึ่งพานักวิทยาศาสตร์เยอะ
Key strategy ของ biobank ต้องมี 3 ส่วนคือ นักธุรกิจ นักวิทยาศาสตร์ และคุณหมอ
Q20: เพราะอะไรลูกค้าอีกเกือบ 50% ไปเลือกคู่แข่ง
A20: น่าจะเป็นเรื่องความเข้าใจกัน บางคนคุยกับเราแล้วไม่เข้าใจ ไม่เชื่อเรา ไปเชื่อคู่แข่งมากกว่า ทั้งที่คู่แข่งบางเจ้าก็ลอกเลียนแบบเรา แต่ไม่มีใครสามารถรับประกันได้แบบเรา
Q21: เครื่อง AXP มีประเด็นที่ไม่สามารถหาช่างซ่อมได้ จะแก้ยังไง
A21: มีการวางแผนจะซื้อเครื่องเพิ่ม ตอนนี้มี 3 เครื่อง สมมติส่งไป maintain 1 เครื่อง ยังเหลืออีก 2 เครื่อง
ตอนนี้รุ่นแรกมี 1 เครื่อง รุ่น 2 มี 2 เครื่อง มีบริษัทแบบนี้เหลืออยู่เจ้าเดียว เพราะเจ้าอื่นเจ๊งหมดแล้ว ถ้าขาดหายไปน่าจะมีปัญาหากันทั้งโลก
Q22: อีก 5 ปีและ 10 ปี ข้างหน้า อยากเห็นบริษัทเป็นอย่างไร
A22: แรงขับเคลื่อนของผมคือความสำเร็จ ชอบความภาคภูมิใจ อยากเสพความสำเร็จต่อไปเรื่อย ๆ ยังมี passion ของการทำงานและการเติบโตต่อไป
อีก 5 ปีคิดว่า เติบโตแบบที่นักลงทุนคิดไม่ถึง
Q23: use case ของ stem cell มีโอกาสเสียชีวิตได้ จะกระทบเราไหม
A23: มี Meta Analysis พบแล้วว่า stem cell นั้นปลอดภัย
เคสที่เสียชีวิต พบว่าห้องแล็บไม่สะอาด หรือน้ำยาเลี้ยงเซลล์มาจากวัว ทำให้เกิดการแพ้ได้ ดังนั้นห้องแล็บต้องสะอาด
เรายังไม่มีภาวะการติดเชื้อในระบบเลย
เราไม่ได้เน้นเรื่องการปลูกถ่าย เราจะไม่เปิดโรงพยาบาล เราอยากเป็น backbone ด้านนี้
Q24: นำ้ยาเลี้ยงเซลล์ เอามาจากไหน
A24: เราซื้อจากอเมริกาหมดเลย ได้มาตรฐานหมดเลย แต่ซื้อมาแล้วก็ต้องมาปรุงต่ออีก
สูตรเฉพาะของเรา ความเก่งของเราคือตรงน้ำยาเลี้ยงและการเพาะเลี้ยง
ถ้าเราสามารถควบคุมคุณภาพได้ดี เราจะยกระดับไปอีกขั้น
Q25: อนาคตจะถูก disrupt ด้วยการไปเก็บจากสัตว์แทนได้บ้างไหม
A25: ทุกคนเกิดจาก stem cell ถ้ามนุษย์ยังอยู่ stem cell bank ก็ยังอยู่ ร่างกายเราเองสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว เซลล์ของเราเองเหมาะกับตัวเราเองอยู่แล้ว ต่อให้ทำปลอมขึ้นมา ราคาก็แพงเว่อ
Stem cell จะไม่ถูก disrupt เลย และคิดว่า stem cell bank ยังสำคัญมาก
2
Q26: ในโลกนี้ ยังมีบริษัทที่ทำธุรกิจคล้าย ๆ เรา คิดว่าเค้าจะเข้ามาแข่งกับเราไหม
A26: ไม่เคยกลัวคู่แข่งเลย อยากให้มีคู่แข่งขึ้นมาเยอะ ๆ เลย อยากให้องค์ความรู้เติบโตขึ้น เพราะคุณหมอมองว่า MEDEZE ทำเจ้าเดียวไม่ไหวหรอก แค่ 3% ของทั้งหมด ก็เหนื่อยมากแล้ว
จุดสูงสุดของคุณหมอจริง ๆ คือการได้ทำงานวิจัยเผยแพร่ความรู้
Q27: ทุนจดทะเบียนเรา 500 ล้าน แต่ market share เรา 50% แต่เจ้าอื่นทุนจดทะเบียนน้อยกว่า แต่ทำไม market share เค้าก็ดูไม่น้อย มันแปลก ๆ
A27: คนอื่นยังไม่ได้เข้าสู่ระบบอย่างชัดเจน เรามาตรฐานสูงที่สุดแล้ว บางเจ้าใช้ทุนจดทะเบียนเดิมบ้าง ใช้เงินส่วนตัว ปน ๆ กันบ้าง
เข้าทุนจดทะเบียน 21 ล้าน ไม่มีทางจะเอาไปสร้างห้องแล็บได้เลย บริษัทอื่นเราไม่รู้เรื่องมาตรฐานบัญชีเค้า เพราะเค้าอยู่นอกตลาด
Q28: เห็นว่ามีสาขาที่ต่างประเทศ มีแผนยังไง
A28: เป็นตัวแทนของเรา กัมพูชา กับเวียดนาม ความเสี่ยงยังสูง ก็จัดจากเก็บที่นั่น แล้วค่อยส่งมาที่ประเทศไทย
Q29: พรบ การแต่งตั้งตัวแทน เราจะ manage ความเสี่ยงยังไง
A29: ร่าง พรบ เขียนเอาไว้ครอบคลุม ทางการแพทย์ไม่ควรมี dealer และ agent เลย เพราะทำให้ความสัมพันธ์ทางการแพทย์ของคุณหมอและคนไข้มันเพี้ยน
แต่ร่าง พรบ มันยังไม่จบ แต่ของเราส่วนใหญ่รายได้ก็มาจากลูกค้าทางตรง ไม่ได้ผ่านจาก dealer และ agent เยอะเท่าไร
Q30: เล่าเรื่องข้อจำกัดทางการโฆษณาให้ฟังหน่อย แล้วแผนในการ educate เป็นอย่างไร
A30: ทางการแพทย์ส่วนใหญ่ไม่สามารถโฆษณาได้เลย ได้แค่พวกยาหม่องอะไรแค่นั้น
ดังนั้น stem cell ก็โฆษณาไม่ได้ ห้ามบอกว่าเราเก่งขนาดไหน โฆษณาได้แค่โลโก้ หรือชื่อบริษัทแค่นั้น แต่โฆษณาเรื่องสรรพคุณไม่ได้
โฆษณา