7 ต.ค. เวลา 10:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เปิดมาตรการแบงก์ ช่วยเหลือลูกหนี้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

Money Trick รวมมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ผู้ประสบทอุทกภัยจาก 3 แบงก์รัฐ
เริ่มที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำโครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย สำหรับผู้ประสบอุทกภัยทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
สำหรับลูกค้าปัจจุบันสามารถขอลดเงินงวดและลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นระยะเวลา 1 ปี พักชำระหนี้นาน 3 เดือน และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 0% ต่อปี ในช่วง 3 เดือนแรก
ส่วนเดือนที่ 4-12 คิดอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี และลดเงินงวดลง 50% ของเงินงวดที่ชำระอยู่ในปัจจุบัน โดยเมื่อครบระยะเวลาให้ความช่วยเหลือแล้วก็จะกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เดิม
โครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย
สำหรับลูกค้าทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ที่ต้องการกู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม มีวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท ระยะเวลากู้ 40 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ปลอดชำระเงินงวด ในช่วง 3 เดือนแรก
ส่วนเดือนที่ 4-24 คิดอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี, ปีที่ 3 ดอกเบี้ย 3.24% ต่อปี, ปีที่ 4 4.14% ต่อปี และปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญา ดอกเบี้ย 6% สำหรับลูกค้ารายย่อย ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอเข้าร่วมโครงการได้ที่สาขาธนาคารทั่วประเทศ
ธนาคารออมสิน มีมาตรการช่วยเหลือโดยการพักหนี้อัตโนมัติ – พักจ่ายเงินต้นและไม่คิดดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 3 เดือน ช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ซึ่งทางธนาคารออมสินบอกว่ามาตรการนี้จะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อน แบ่งเบาภาระของลูกหนี้กว่า 110,000 บัญชี คิดเป็นเงินต้นรวมกว่า 43,000 ล้านบาท
สำหรับมาตรการพักหนี้อัตโนมัติ จะเป็นการพักจ่ายเงินต้นและไม่คิดดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อพักชำระหนี้ให้กับสินเชื่อ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท และสินเชื่อรายย่อยทุกประเภท
โดยลูกหนี้ที่จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมมาตรการนี้ ต้องมีภูมิลำเนา ที่อยู่ หรือที่ประกอบอาชีพในพื้นที่ประสบภัย ตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งธนาคารจะส่ง SMS หรือจดหมายแจ้งการพักชำระหนี้ให้กับลูกค้า โดยจะมีผลในงวดเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2567 และหลังจากนั้นเราก็จะต้องกลับมาชำระหนี้ตามปกติตั้งแต่งวดเดือนมกราคม 2568 เป็นต้นไป
มาตรการพักหนี้อัตโนมัติ
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องกู้เงินเพื่อนำไปบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ ก็สามารถยื่นขอสินเชื่อฉุกเฉิน สูงสุดรายละไม่เกิน 10,000 บาท ไม่ต้องหลักประกันหรือผู้ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0% สำหรับ 3 เดือนแรก หลังจากนั้นเดือนที่ 4 เป็นต้นไปอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.60%
หรือกรณีที่อยากขอสินเชื่อวงเงินสูงขึ้นเป็นรายละไม่เกิน 50,000 บาท แบบมีหลักประกัน อัตราดอกเบี้ย 3 เดือนแรก 0% เช่นกัน รวมถึงมีมาตรการสินเชื่อเคหะสำหรับผู้ที่ต้องการซ่อมแซมฟื้นฟูที่อยู่อาศัย วงเงินกู้ 100% ของราคาประเมิน อัตราดอกเบี้ยพิเศษเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.233% ต่อปี สามารถขอสินเชื่อได้ที่สาขาธนาคารภายใน 30 วัน นับจากวันที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดมาตรการฟื้นฟูและเสริมสภาพคล่องเกษตรกร ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำในการนำไปซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ฟื้นฟูการผลิตที่ได้รับความเสียหาย วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท ผ่าน 2 โครงการด้วยกัน
มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติ
คือโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เสริมสภาพคล่องให้เกษตรกรในด้านค่าใช้จ่ายทั่วไป ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค วงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท ดอกเบี้ย 0% 6 เดือนแรก และเดือนที่ 7 เป็นต้นไปดอกเบี้ย MRR ปัจจุบัน 6.975% ระยะเวลากู้ไม่เกิน 3 ปี ขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568
และโครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต สำหรับเป็นเงินทุนในการซ่อมแซมบ้าน เครื่องมืออุปกรณ์การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท ดอกเบี้ย MRR -2 ระยะเวลากู้ไม่เกิน 15 ปี
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/monetary/233832
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา