7 ต.ค. 2024 เวลา 07:34 • ประวัติศาสตร์

ประวัติเมืองเขมราฐ ตอนที่๑

Cr.ฉบับในงานพิธีพระราชทานเพลิงศพ พระศีลวิสุทธาจารย์
อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี เดิมชื่อเมือง "เขมราฐธานี" เป็นหัวเมืองชั้นนอก " ขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีประวัติความเป็นมาคู่กับเมืองอุบลราชธานี และบรรพบุรุษตระกูลเดียวกัน คือ พระวอ พระตา
พระวอ พระตา ภูมิลำเนาเดิมตั้งบ้านตั้งเมืองอยู่ที่ เมืองหนองบัวลำภู (นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน)
พระตา มีตำแหน่งเป็น นายกอง คุมกำลังไพร่พลอยู่ที่บ้าน หินโงม เมืองหนองบัวลำภู พระวอ เป็นผู้ช่วย ในปีพ.ศ.๒๒๙๕ พระเจ้าองค์หล่อ ชิงราชสมบัติครองกรุงศรีสัตนาคนหุต จากพระเจ้าแสนเมือง พระเจ้าองค์บุญโอรสของพระเจ้าแสนเมือง ได้หลบหนีเอาตัวรอดพร้อมกับพระอนุชา มาอาศัยอยู่กับ พระวอ พระตา
พระวอ พระตา ได้ถวายอารักขาเลี้ยงดูพระเจ้าองค์บุญและพระอนุชาเป็นอย่างดี ตั้งแต่ทรงพระเยาว์
จนเป็นหนุ่ม ครั้น พ.ศ. ๒๓๐๓ พระเจ้าองค์หล่อสิ้นพระชนม์ ไม่มีโอรสสืบราชสมบัติ พระวอ พระตา จึงได้อัญเชิญพระเจ้าองค์บุญกลับคืนไปครองกรุงศรีสัตนาคนหุตและถวายพระนามว่าพระเจ้าสิริบุญสารเมื่อพระเจ้าสิริบุญสารครองราชย์สมบัติได้ทรงแต่งตั้งให้พระอนุชาดำรงตำแหน่งมหาอุปราช และทรงแต่งตั้งตั้งให้ พระวอ พระตา เป็นเสนาบดี
ต่อมา พระวอ พระตา เห็นว่าพระเจ้าสิริบุญสารไม่ทรงตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม และมีเรื่อง
บาดหมางใจกันรุนแรง คือ
๑. มีคนยุยง พระเจ้าสิริบุญสารให้ระแวงพระทัยว่า พระวอ พระตา จะชิงราชสมบัติ
๒. พระเจ้าสิริบุญสาร ให้พระวอ พระตา ส่งลูกสาวไปเป็นพระชายา (ซึ่งเป็นอุบายเพื่อผูกญาติกับพระวอ พระตาให้จงรักภักดีต่อพระองค์) แต่พระวอ พระตาเห็นว่าพระเจ้าสิริญสารไม่ไว้วางพระทัยทั้งๆที่ถวายความจงรักภักดีมาโดยตลอดจึงเสียใจไม่ยอมถวายลูกสาวให้พระเจ้าสิริบุญสาร พระเจ้าสิริบุญสาร
ซึ่งระแวงพระทัยอยู่แล้ว เมื่อ พระวอ พระตา ไม่ยอมถวายลูกสาวให้แต่โดยดีก็ยิ่งระแวงพระทัยยิ่งขึ้น
๓. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสมหาเถร) ได้กล่าวไว้ในหนังสือตำนานวัดสุปัฏนารามว่า พระเจ้าสิริบุญสาร
ทรงตั้งอยู่ในความเป็นหนุ่มบางครั้งก็ทำตัวไม่เหมาะสม พระวอ พระตา ก็เอาใจใส่ตักเตือนอยู่เสมอแต่ไม่เป็นผล จึงไม่พอใจในวิธีการปกครองของพระเจ้าสิริบุญสาร
ด้วยเหตุผลหลายประการดังกล่าวแล้วพระวอพระตา จึงได้อพยพไพร่พล ออกจากกรุงศรีสัตนาคนหุต
(เวียงจันทร์) เมื่อวังคาร ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๓ ปีเถาะจ.ศ.ศ.๑๑๒๑ (พ.ศ. ๒๓๐๒) เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม
คือบ้านหินโงม(เมืองหนองบัวลำภู) นครเชื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน ซึ่งบัดนี้เป็นที่ตั้งของ จังหวัดหนองบัวลำภู
พระเจ้าสิริบุญสาร ส่งกองทัพมาปราบ พระวอ พระตา เป็นเวลานานถึง ๓ ปี ก็ไม่สามารถจะชนะกันได้ พระวอ พระตา เห็นว่ากองกำลังของฝ่ายตนน้อยกว่าคงจะต้านทานไม่ได้ในที่สุด จึงได้แต่งเครื่องบรรณาการไปอ่อนน้อมต่อพม่า และขอกำลังทัพมาช่วย ฝ่ายพม่าจึงแต่งตั้งมองระแงะเป็นแม่ทัพคุมกำลังกองทัพมาช่วย พระวอ พระตา เพื่อรบกับกรุงศรีสัตนาคนหุต
แต่เมื่อพระเจ้าสิริบุญสารทราบเรื่อง จึงแต่งตั้งเครื่องราชบรรณาการให้แสนท้าวพระยานำไปดักรอกองทัพของพม่า แล้วพูดจาเกลี้ยกล่อมให้พม่าเข้าเป็นพวกเดียวกัน ในที่สุดกองทัพพม่า ร่วมเข้ากับกองทัพเวียงจันทร์ โอบล้อมเข้าตีเมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบานแตก พระตา ได้รับบาดเจ็บสาหัสและสิ้นใจในเวลาต่อมา
โฆษณา