8 ต.ค. เวลา 06:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

คอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักชัวรี่ฮอต พระราม4- สีลม ปล่อยเช่าได้สูงถึง 2,000 บาท/ตร.ม.

คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในโครงการที่สร้างแล้วเสร็จทำเลใจกลางเมือง (downtown) มียอดขายเฉลี่ยสูงถึงกว่า 93% ปล่อยเช่าได้สูงถึง 2,000 บาทต่อตารางเมตร
หากพูดถึง โครงการบนทำเล Super Core CBDตอนนี้คงหนีไม่พ้น- ที่พักอาศัย Ultra Luxury ย่านพระราม 4 - สีลม ซึ่งโครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่เติบโตต่อเนื่องซึ่งมี 2 เมกะโปรเจ็กต์ ที่น่าสนใจคือ One Bangkok และ The Residences at Dusit Central Park
ซึ่งความต้องการที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน อาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จํากัด หรือ CBRE Thailand เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดที่พักอาศัย ในครึ่งแรกของปี 2567
โครงการ The Residences at Dusit Central Park
โครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในโครงการที่สร้างแล้วเสร็จทำเลใจกลางเมือง (downtown) มียอดขายเฉลี่ยสูงถึงกว่า 93% โดยเฉพาะบริเวณเซ็นทรัล ลุมพินี และสีลม-สาทร มียอดขายกว่า 96% และ 94% ตามลำดับ ขณะที่โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่มียอดขายสูงถึง 86% ซึ่งสูงกว่าเซกเม้นต์อื่นในทำเลเดียวกัน
ซึ่งเมื่อพิจารณาโดยละเอียดจะพบว่า โครงการที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ที่บริหารโดยเครือโรงแรมระดับห้าดาว หรือ Branded Residences มียอดขายเฉลี่ยสูงถึง 90% และหากมองในแง่การลงทุนโครงการที่พักอาศัยในรูปแบบนี้ จะได้ผลตอบแทนจากการลงทุน (Yield) ที่สูงกว่าเซกเม้นต์อื่นๆ ซึ่งมีปัจจัยบวก คือ ทำเลที่ตั้งที่อยู่ใน Prime Location ขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยอย่างแท้จริง การออกแบบให้ได้ตามมาตรฐานของแบรนด์ ดีไซน์ที่ร่วมสมัย พร้อมเซอร์วิสระดับห้าดาว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
โดยโครงการที่ครบองค์ประกอบเหล่านี้ มีอยู่เพียงจำนวนน้อย จึงเป็นที่ต้องการในตลาดเช่าอย่างมาก โดยปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นผู้เช่าชาวต่างชาติอยู่ที่ร้อยละ 90 และผู้เช่าชาวไทยร้อยละ 10
เมื่อพิจารณาถึงการปล่อยเช่าโครงการบนทำเล Super Core CBD และเซกเม้นท์นี้พบว่ามีดีมานด์ที่สูงจากกลุ่มผู้เช่าที่มองหาที่พักอาศัยที่ดีที่สุดที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของตัวโครงการและเซอร์วิสซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าระดับบนต้องการ จึงสามารถสร้างผลตอบแทนต่อการลงทุน (Yield) ได้สูงถึง 7.9% ต่อปี ทั้งนี้เมื่อเทียบกับทำเลอื่นใน CBD ทำเลนี้ยังสามารถปล่อยเช่าได้สูงถึง 2,000 บาทต่อตารางเมตร
โครงการ One Bangkok
ยกตัวอย่างโครงการ เช่น Dusit Central Park เป็นโครงการมิกซ์ยูส ที่มีทั้งที่พักอาศัย สูง 69 ชั้น 406 ห้อง ห้องพักขนาด 2 – 4 ห้องนอน และเพนท์เฮ้าส์ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 118 - 900 ตารางเมตร และ “ดุสิต พาร์คไซด์ (Dusit Parkside)” เริ่มที่ชั้น 9 – 29 ห้องชุดขนาด 1 – 2 ห้องนอน และห้อง Special Units ที่ใช้สอยตั้งแต่ 55 – 250 ตารางเมตร
นอกจากนี้ ยังมีศูนย์การค้า (Central Park) อาคารสำนักงานให้เช่า (Central Park Offices) และโรงแรมระดับ 5 ดาว ก็คือ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ (Dusit Thani Bangkok) ที่เปิดให้บริการแล้วในวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา
และอีกเมกะโปรเจ็กต์ คือ One Bangkok ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชยกรรมแบบผสมบนพื้นที่ 104 ไร่ บนถนนพระรามที่ 4 และถนนวิทยุ หัวมุมแยกวิทยุ บนพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พัฒนาโดยบริษัท วัน แบงค็อก จำกัด ในเครือกลุ่มทีซีซี และบริหารงานโดยบริษัท วัน แบงค็อก โฮลดิ้งส์ จำกัด
กิจการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีกำหนดเปิดให้บริการระยะแรกในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 และกำหนดแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการในปี พ.ศ. 2570
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/trick-trend/234150
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา