8 ต.ค. เวลา 08:38 • ความคิดเห็น
โห.. คำถามนี้เป็นคำถามที่ดีเหมือนกันนะครับ คือผมเองก็ไม่ได้ออกจากศาสนาพุทธหรอกนะครับ แต่ผมเคยมีแฟนเป็นคริสเตียนครับ เธอก็ไม่ได้ออกจากคริสเตียนมานับถือพุทธ แล้วผมก็ไม่ได้ออกจากพุทธไปนับถือคริสเตียน แต่ผมก็ไปโบสถ์ร้องเพลงกับแฟนได้นะ
ผมมองว่าคนที่ออกจากศาสนาพุทธไปนั้น ผมคิดว่าเขาคนนั้นไม่ได้ศึกษา หรืออาจจะเกิดความเข้าใจผิดในศาสนาพุทธแน่นอนครับ และค่อนข้างที่จะมั่นใจเกือบ 100% เหมือนกัน ถ้าหากผมเอาตัวเองเป็นที่ตั้งจากอดีตสมัยก่อนผมก็เคยเข้าใจว่าศาสนาพุทธนั้นเลอะเทอะงมงาย โดยที่ผมไม่ได้ศึกษาอย่างแท้จริง บวกกับพ่อแม่ผมก็ไม่เคยอธิบาย เพราะท่านเองก็ไม่ได้เข้าใจศาสนาพุทธ ก็เลยทำให้ผมคิดว่าศาสนาพุทธนั้นค่อนข้างบ้าบอน่ะครับ
ผมจะเล่าเรื่องแฟนเก่าของผมที่เป็นคริสเตียนนะครับ
เดิมทีผมพยายามที่จะไม่อธิบาย หรือชี้นำใดๆให้แฟนผมเลย เพราะกลัวว่าจะกระทบกระเทือนกับหลักความเชื่อของแฟนผม แต่ก็ใช้ชีวิตอยู่กินด้วยกันได้นะครับ ไม่มีปัญหาอะไรเลย ผมมองว่าอุปนิสัยคนที่เป็นคริสเตียนนั้นเป็นคนที่มีอุปนิสัยน่ารักแล้วก็มีความสุภาพเรียบร้อยมาก ผมชอบตรงนี้มากเลยครับ มันก็เลยอยู่กินด้วยกันได้เป็นปกติ โดยเฉพาะพุทธกับคริสเตียนแล้วไม่ใช่ศัตรูกันเลยครับ เราจะสังเกตว่าคริสเตียนกับพุทธไม่เคยมีปัญหาอะไรกันเลย
เวลาส่งลูกไปโรงเรียน ผมก็อวยพรลูกด้วยหลักความเชื่อของคริสเตียนนะครับ ผมก็จะพูดว่าพระเจ้าอวยพรนะ เดินทางปลอดภัย หรือการอธิษฐานก่อนกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน แรกๆก็เขินนิดนึง หลังๆมาก็คล่องเลยครับ การจับมือร้องเพลงหรือนั่งล้อมวงขอบคุณพระเจ้า ก็เป็นสิ่งที่ผมมีความสุขดีนะครับ แต่จิตใจผมก็ยังเป็นพุทธศาสนาอยู่ดีอ่ะนะ
มันมีอยู่วันหนึ่งนะครับ ที่ผมนั่งสมาธิก่อนนอนทุกครั้ง แล้วก็แฟนผมก็จะค่อนข้างหงุดหงิด ที่เห็นผมทำแบบนั้น คือมักจะพูดประชดผมว่า ขี้เกียจทำการบ้าน ไม่มีความสุขเลย เราไม่ขวางทางธรรมเธอก็ได้ ออม อะไรแบบเนี้ย😆 ผมก็พูดติดตลกขำๆกันไป 2 คน อาไรเล่า แค่นี้เอง
แล้วเราก็เล่าเรื่องคุยกันเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าให้ฟัง เธอสนใจมากนะครับ เธอบอกว่าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพระพุทธเจ้าคือใคร แต่คิดว่าพระพุทธเจ้าก็คือพระเจ้าในศาสนาพุทธ ผมก็อธิบายว่าจริงๆแล้วไม่ใช่ พระพุทธเจ้าคือมนุษย์คนหนึ่งเป็นอดีตลูกชายกษัตริย์ที่ออกบวชเพื่อแสวงหาความจริงแท้ของชีวิต แล้วก็อธิบายว่าพิธีกรรมที่เราเห็นในประเทศไทยตอนนี้เป็นสิ่งที่ถูกประยุกต์และออกห่างจากคำสอนของพระพุทธเจ้า
ผมอธิบายเธอว่าคนไทยส่วนใหญ่ที่เขียนในบัตรประชาชนว่านับถือศาสนาพุทธ พวกเขาไม่ได้เข้าใจหลักคำสอนของศาสนาพุทธเลย เพียงแค่นับถือตามสำเนาทะเบียนบ้านเท่านั้น
แต่เธอก็มีคำถามอยู่ว่า ทำไมสิ่งที่เจ้าชายสิทธัตถะละทิ้งไปแล้ว แต่คนไทยกลับวิ่งเข้าหา และนำกลับมาปฏิบัติพิธีกรรมที่นอกเหนือจากศาสนาพุทธ
มันมีอยู่จุดหนึ่งที่แฟนของผมรู้สึกว่า ทรยศต่อความเป็นคริสเตียนของตัวเอง เพราะเธอจะเริ่มศรัทธาในศาสนาพุทธจากการที่ผมอธิบายรวมถึงการสอนลูกลูกของเธอจนถึงขั้นที่จะออกจากคริสเตียนเลยครับ ผมก็เลยหยุดอยู่แค่นั้นเพราะเกรงว่าความสัมพันธ์จะไม่ดี แล้วจะทำให้เธออึดอัด เพราะว่าในสังคมของเธอเป็นคริสเตียนทั้งหมดเลยครับ
เธอเคยบอกว่าผม เสียดายนะที่คนไทยเข้าใจหลักคำสอนศาสนาพุทธแบบผิดๆ ทำตามกันมาโดยที่ไม่มีสาเหตุ
เห็นไหมครับว่าคนที่อยู่นอกศาสนาพุทธอย่างแฟนผมยังมีปัญญาที่จะมองเห็นหลักความจริงแท้ตรงนี้เลยครับ
ก่อนที่จะเลิกกับแฟนของผม เธอบอกว่ารู้สึกผิดมาก แล้วก็สับสนมาก ว่าจะเอายังไงดีกับความเชื่อตรงนี้ ผมก็บอกว่าไม่ต้องไปสับสนอะไรหรอก ศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาอะไรเลยที่จะต้องแยกแปลกไปจากสังคมที่อยู่ในปัจจุบันของเราหรอก มันคือศาสตร์ในชีวิตของมนุษย์ทุกคนนั่นแหละ เราแค่ใช้ภาษาแยกมันเท่านั้นเอง เธอเป็นคริสเตียน เธอก็สามารถเรียนรู้ศาสตร์ชีวิตตรงนี้ได้นะ ขอให้เธอเดินทางในหนทางของพระเจ้าต่อไป ไม่ต้องกังวลหรือรู้สึกผิดอะไรเลย
แล้วผมก็คิดว่า คนที่ออกจากศาสนาพุทธไปนั้น ผมคิดว่าเขาไม่เข้าใจว่าศาสนาพุทธว่าคืออะไร นั่นแหละแน่นอน 100% เพราะเขาไม่รู้ เขาจึงออกไป มันเป็นความผิดของสังคมที่ขาดความรู้ รวมถึงผู้ปกครองที่ไม่อบรมสั่งสอน และหาความจริงที่เป็นความรู้ที่แท้จริงมาตอบลูกหลานไม่ได้ แล้วพวกเขาก็เข้าใจผิด จึงออกจากศาสนาพุทธไป ก็นั่นแหละครับ
โฆษณา