12 ต.ค. เวลา 12:34 • การ์ตูน

EP : 878 THE SLEEPER ..... repost

การ์ตูนสายแปลงร่างที่ผมอ่านมาตลอดหลายสิบปีมีอยู่หลายเรื่องที่ผมชอบนะครับ และหากมองในช่วงที่ผ่านมาในการ์ตูนสายนี้ สายแอคชั่นที่ให้ตัวเอกมีความสามารถพิเศษที่เหนือมนุษย์จะจากอะไรก็แล้วแต่ตามเรื่องราวนั้น ในช่วงที่ผ่านมาจะพยายามมองหาความสามารถที่ไม่ซ้ำหรือมีสิ่งที่นำมาผสมและเล่าเรื่องให้แตกต่างจากคนอื่นๆ อยู่ไม่น้อย หลายเรื่องก็ทำได้ดี บางเรื่องก็มีแหวกแนวบ้าง
บางเรื่องแม้จะหาความใหม่มาผสมไม่ได้ก็พยายามหยิบความคุ้นเคยมาเล่นในเนื้อหาในแบบของตัวเอง ซึ่งก็น่าเห็นใจไม่น้อยครับ เพราะการ์ตูนสายนี้ถูกหยิบมาเล่ามาเขียนกันตลอด จนต้นเรื่องหรือสิ่งที่จะหยิบมาเล่ามันช้ำ และ ซ้ำ กันจนเป็นเรื่องปกติครับ เพราะฉะนั้นผมถึงมองว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายในการเขียนการ์ตูนแนวนี้และให้มีเอกลักษณ์ มีเนื้อหาเฉพาะของตัวเอง ไม่ซ้ำกับเรื่องอื่นๆ เพราะจะว่าไปการ์ตูนแนวนี้ก็ถือเป็นการ์ตูนสายหลักในวงการมังงะเช่นกันครับ
“THE SLEEPER” เป็นการ์ตูนเก่าเรื่องนึงที่ผม(เพิ่ง)หยิบมาอ่านครับแม้จะเขียนมานานแล้ว ด้วยความเป็นการ์ตูนเงียบๆ ซึ่งผมว่าคงมีคนสนใจเรื่องนีไม่ได้มากอะไรนัก และเมื่อผมหยิบมาอ่านกลับพบว่า ภายใต้เนื้อหาแนวตัวเอกแปลงร่างหรือมีพลังพิเศษเหนือมนุษย์นั้น เนื้อหาและสิ่งที่ต้องการนำเสนอกลับเต็มไปด้วยความน่าสนใจไม่ใช่น้อยและก็ไม่แปลกใจเลยที่เรื่องนี้ไม่ค่อยมีใครพูดถึงทั้งๆที่หากวัดกันที่ไอเดียแล้ว เรื่องนี้ไม่แพ้เรื่องใดเลยก็ตาม เพราะอะไรนะเหรอ เอาเป็นว่าผมจะเล่าให้ฟังแล้วกันนะครับ...
“THE SLEEPER” เป็นเรื่องราวของ เด็กหนุ่มอายุ 13 ปีชื่อ “มาคิบะ ฮิซึจิ” ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือประวัติการเกิดของเขา เพราะเขานั้นได้เกิดมาบนโลกใบนี้ ขณะที่เครื่องบินโดยสารที่แม่ของเขาใช้เดินทางนั้น ตกลงพื้น ทำให้ผู้โดยสารทั้งลำตายเกือบหมด ยกเว้นแม่ของเขาและเขาเองที่คลอดออกมากลางซากเครื่องบิน แม้เขาจะรอดมากับแม่ แต่แม่ของเขากลับต้องเจอสภาพเจ้าหญิงนิทราติดเตียงอยู่โรงพยาบาลมาตลอด 13 ปี แต่ยังโชคดีที่ตัวเขานั้นได้รับการดูแลที่ดีจากน้องสาวของแม่เขาตลอดมาแทน
หากมองจากประวัติการเกิดที่เรียกว่าเป็นโศกนาฏกรรมได้แล้ว ตัว “ฮิซึจิ” ก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเป็นที่น่าประทับใจกับผู้คนทั่วไปเลย ด้วยรูปร่างที่เล็ก และดูเซ่อซ่า ที่สำคัญเขามีบางอย่างติดตัวมาที่น่าแปลกประหลาด ก็คือ เขาสามารถ “หลับ” ได้ตลอดเวลา แม้จะเป็นเวลาที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เช่น กำลังกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ระหว่างลอยตัว เขาก็หลับซะงั้น ด้วยบุคลิกและการนอนหลับได้ทุกที่แบบนื้ทำให้เขาโดยล้อและดูถูกจากเพื่อนรอบข้าง
ยังโชคดีมากที่เขามีพี่สาวที่เรียนด้วยกันด้วยอย่าง “อุซึซึ” คอยป้องกันและกระตุ้นให้เขาตื่นตัวและปรับปรุงตัวตลอด แม้สำหรับตัว อุซึซึ แล้ว น้องชายคนนี้ช่างแตกต่างจากเธอยิ่งนักก็ตาม เพราะเธอทั้งน่ารัก รูปร่างดี ความสามารถด้านกีฬาและการเรียนก็ยอดเยี่ยม จนไม่มีอะไรให้ตำหนิได้เลยก็ตาม เพราะฉะนั้นส่วนนึง ตัวอุซึซึ จึงรู้สึกทั้งรักและอยากปกป้อง ขณะเดียวกันก็รำคาญความเป็นตัว “ฮิซิจิ” นี้ไปพร้อมๆกันตลอดเวลา
และแล้ววันนึง อยู่ๆตัว “ฮิซิจิ” ก็เริ่มฝันถึงบางสิ่ง บางอย่างขึ้นมา ในฝันนั้นช่างชัดเจนเสมือนความจริง อาจเป็นเพราะนิสัยของเขาที่ดูล่องลอยในโลกของความจริงทำให้ความฝันชัดเจนแบบนี้ก็เป็นได้ แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ช่วงเวลาต่อไปนี้สิ่งที่เรียกว่า “บากุ” ซึ่งอยู่ติดตัวเขามาตลอด 13 ปี กำลังจะตื่นขึ้นมา และพาเขาเข้าสู่โลกของความฝัน โลกไร้จิตสำนึก และการกัดกินอีโก้ที่ชั่วร้ายจากมนุษย์ เพราะนี่คือชะตากรรมที่ตัวเขาได้ถูกกำหนดขึ้นมาตั้งแต่วันนั้น... วันที่เขาเกิด...ใน ... “THE SLEEPER”
“THE SLEEPER” เป็นการ์ตูนที่มีพล็อตเรื่องหรือไอเดียที่มีความเฉพาะของตัวเองสูงมากครับ แม้ส่วนนึงการหยิบจับเรื่องความฝันและอีโก้ของมนุษย์เราจะเป็นสิ่งที่เราๆท่านๆ พอเคยได้เห็นมาบ้างหลายเรื่องแล้วก็ตาม แต่เรื่องนี้สามารถสร้างโลกแห่งความฝันและความเป็น THE SLEEPER ออกมาได้มีเอกลักษณ์และโดดเด่นมากๆ อย่างแรกคือเนื้อเรื่องของเรื่องนี้ครับ จะว่าไปโครงเรื่องของเรื่องนี้เต็มไปด้วยความดราม่าระดับครอบครัวจนถึงระดับสังคมของมนุษย์ผสมกันเต็มไปหมดเลยครับ
เอาแค่จุดกำเนิดของพระเอกเราผมก็ว่าดราม่าเริ่มต้นได้น่าสนใจแล้วนะ แต่พอมาอ่านจริงๆ จะพบดราม่าซ้อนดราม่ากันไปหลายอย่าง และซ้อนกันไปจนถึงสุดท้ายของเรื่องเลยด้วยครับ ปมหลายอย่างไม่คิดว่าเรื่องจะใส่เข้ามา แม้ในแง่มุมนึง มองจากตัวผมที่ชอบความดราม่าอยู่แล้ว ยังรู้สึกเลยว่าเรื่องนี้ใส่กันมาแบบจัดหนักแบบนี้เลยเหรอ บางส่วนก็เล่นแค่ให้พอรู้
แต่บางส่วนก็ทำให้เรารู้สึกเลยว่ามันหนัก อาจจะเพราะด้วยแก่นของเรื่องนี้ คือการนำเสนอจิตด้านลบของมนุษย์ หรือ ตัวตนที่สะท้อนออกมาในความไร้สำนึก ก็เป็นได้ ทำให้เนื้อหารอบๆตัวเรื่องจึงนำเสนอเกี่ยวกับไปทางสายมืดมากกว่าจะให้ออกมาแนวให้กำลังใจหรือสอนสิ่งดีๆให้เราอ่านกันนะครับ
แม้เรื่องจะนำเสนอออกมาแนว ตัวเอกพิฆาตอีโก้ที่ชั่วร้ายจากโลกของจิตไรสำนึก และนำเสนอออกมาแบบจบในตอนอารมณ์เรื่องละตอน ปีศาจละตอน มีพล็อตแต่ละตอนชัดเจนก็ตาม แต่การนำเสนอแบบตอนในเรื่องนี้ผมว่าแค่โยงหรือแสดงให้เห็นว่าเนื้อหาจริงๆ เขากำลังพูดถึงอะไร เพราะมันมีประเด็นหลักรวมถึงความดราม่าหลักของเรื่องที่เปิดเอาไว้ตั้งแต่ตอนต้นเรื่องให้ได้เห็นอยู่แล้วว่า
ท้ายสุดและสุดท้ายเรื่องต้องทำประเด็นไหนให้มันเคลียร์ เพราะต้องยอมรับจริงๆว่า เนื้อเรื่องที่เรื่องนี้หยิบยกมาเล่านั้น สับสน และเต็มไปด้วยแนวคิด รวมถึงมีสิ่งที่อยากเล่าชัดเจนอยู่แล้วมากๆ ในแบบที่ อ. ผู้เขียนอยากให้เป็น หรืออยากเล่าครับ ผมจะรู้สึกว่าเรื่องนี้ อ. ไม่ถือกับไม่แคร์คนอ่านนะครับ
เพราะส่วนนึงก็พยายามนำเสนอออกมาแนวที่คนอ่านน่าจะเข้าใจ หรือรับได้ไม่ยากนัก แต่ตัวสิ่งที่หยิบมาเล่าทั้งเรื่องนี้แหล่ะ ที่ไม่เป็นมิตรกับคนอ่านทั่วไปเท่าไหร่ เพราะมันหนักพอสมควรครับกับสิ่งที่เรื่องหยิบมาเล่าในเรื่องนี้
ปกติฮีโร่ในเส้นทางแบบนี้คงหนีไม่พ้นการนำเสนอแบบมีตัวร้ายที่มีปัญหาทางจิต และให้ตัวเอกออกไปสู่รบและคลายความมืดมิตรในจิตใจให้กับกลายเป็นคนดี หรือแม้แต่หายไปจากโลกนี้ซึ่งเรื่องนี้ก็วิ่งมาทางนี้เช่นกันครับ
แต่ด้วยเรื่องมาเน้นหนักวิธีการเล่าและสิ่งที่วิ่งอยู่บนเส้นปัญหาต่างๆของตัวร้ายแต่ละตอนแบบจริงจังและหนักๆ ทำให้เรื่องต้องสร้างโลกไร้จิตสำนึกเอามาเชื่อมต่อกับแนวคิดของความฝันในแบบฉบับของ อ. เขา ซึ่งมันดูวุ่นวายไม่ใช่เล่น ขณะเดียวกันมันก็ดูมีหลักการและมีเหตุผลในการซับพอร์ตแนวความคิดแบบนี้ของ อ. เช่นกันครับ
แนวความคิดที่ใช้สนับสนุนความคิดของเรื่องราวของโลกเดอะสลิปเปอร์นั้น สำหรับผมถือว่าสร้างเอาไว้ได้ดีนะครับ ไม่ว่าจะเป็นตัว “บากุ” คู่หูของ “ฮิซิจิ” เอง หรือ “โลกแห่งความฝัน” ที่เชื่อมต่อกับ “โลกไร้จิตใต้สำนึก” ผ่าน “อีโก้ เกท” เพื่อไปกินอีโก้ที่ชั่วร้ายที่เป็นอาหารของ “บากุ” ผมว่าเซ็ทติ้งเอาไว้ได้ดีและน่าสนใจนะครับ การรวมร่างระหว่างตัว “ฮิซิจิ” เด็กที่นอนหลับได้ง่ายกับ “บากุ” สิ่งมีชีวิตปริศนาที่คอยกัดกินอีโก้ที่ชั่วร้าย
ซึ่งอยู่ในโลกแห่งความฝันของตัว “ฮิซิจิ” เองเพราะเหตุการณ์ตอนเกิดของเขาเป็นสาเหตุนั้น แม้มันจะเป็นเรื่องปกติในแง่ของตัวเอกทั่วไปที่จะต้องมีวิธีแปลงร่างกันก็ตาม แต่การสร้างให้โลกที่พวกเขามีพลังและออกไปต่อสู้นั้น กับเชื่อมโยงกับเรื่องราวด้านมืดที่เกี่ยวข้องกับ “กิเลศ” และ ตัวตนที่หลุดจากความมีเหตุผลหรือเรียกว่าอีโก้ แบบนี้นั้นโดยส่วนตัวผมเก็ตไอเดียนี้นะครับ
ถือว่าเป็นการหยิบจับแนวฮีโร่ให้ออกมาอีกแนวนึงแทนที่จะนำเสนออะไรเป็น “สสาร” ที่เราจะเห็นได้ชัดเจนของการมีตัวตนของฮีโร่หรือผู้มีพลังพิเศษ ซึ่งเป็นทางที่ปกติจะถูกนำมาเสนอครับ
ทำให้จริงๆแล้วฮีโร่รายนี้นั้นเป็น ฮีโร่ที่ออกแนวเงียบๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นการแปลงร่าง การต่อสู้ ทุกอย่างเกิดขึ้นในโลก ไร้สำนึก ที่แม้จะเชื่อมต่อกับอีโก้ของตัวบุคคลทั่วไป และ โลกไร้สำนึกนั้นมันก็คือโลกจำลองเสมือนจริงกับโลกที่เรารู้จักกันทุกอย่างเพียงแต่โลกนี้สะท้อนความต้องการ อีโก้ของแต่ละคนเป็นรูปร่างที่แท้จริงตามอีโก้ก็ตาม แต่ทุกการกระทำที่ผ่านที่แห่งนี้มันไม่ได้ถูกทำให้เห็นในแง่สสารที่เราเห็น สัมผัสมันได้
และแม้ตอนท้ายเมื่อเรื่องจบ มนุษย์ที่เชื่อมต่ออีโก้และมีบทบาทในตอนๆนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงเพราะอีโก้ความเป็นตัวตนของตัวเองได้ถูกเกี่ยวข้องไป แต่ตัวตนของ THE SLEEPER ในเรื่องไม่มีใครได้ล่วงรู้และไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยครับ เพราะฉะนั้นตัวตนฮีโร่ในเรื่องนี้จึงมีความเงียบ ในแง่การแสดงตัวและตัวตนแตกต่างจากฮีโร่ในเรื่องอื่นๆครับ
เรื่องการใส่รายละเอียดของโลกแห่งความฝันรวมถึงโลกไร้สำนึก ผมว่าเรื่องใส่มาได้ดีในระดับที่ผมเข้าใจและยอมรับในทฤษฎีส่วนของตัวของผู้เขียน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญของแก่นหลักในเรื่องนี้ ถือว่าโอเคครับ ตัวละครอย่างการรวมร่างของ บากุและพระเอกเรา รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ ก็ถือว่าแน่นและสนุก
รวมถึงเหล่าศัตรูต่างๆ ที่เรื่องหยิบเรื่องราวความดราม่า ความรักโลภโกรธหลง มาผสมกันออกมาเป็นอีโก้ให้พระเอกเรารวมร่างแล้วไปปราบ ซึ่งภาพรวมผมถือว่ามาในทางเดียวกันและนำเสนอออกมาได้ดีมีเอกลักษณ์ แต่เรื่องนี้ก็มีปัญหาของตัวมันเองอยู่ไม่ใช่น้อยที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้ไปไม่ถึงจุดที่จะบอกคนอื่นได้ว่าเรื่องนี้สนุกสมควรอ่านครับ
ในมุมมองผมปัญหาอย่างแรกของเรื่องนี้ก็คือเนื้อเรื่องนี่แหล่ะครับ แม้ผมจะค่อนข้างเก็ต จริงๆ ต้องบอกว่าชอบเนื้อหาที่นำเสนอออกมาโทนนี้ และเรื่องนี้ก็หยิบเรื่องราวมานำเสนอในแง่มุมและมุมมองเฉพาะของผู้เขียนได้ดี แต่เพราะแบบนั้น มันก็ยังไม่ใช่เรื่องที่สัมผัสได้ง่าย หรืออ่านแล้วเข้าถึงทุกคนครับ
เพราะผมมองว่า เรื่องนี้จริงๆ มันยากต่อการสื่อสาร แม้จะพยายามสื่อสารออกมาด้วยลักษณะของฮีโร่แปลงร่างแล้วก็ตาม และแม้ผู้เขียนจะใส่รายละเอียดที่โดยส่วนตัวผมอ่านแล้วเข้าใจ แต่ก็อย่างที่บอกว่าผมก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าเนื้อเรื่องแบบนี้ ทุกคนจะชอบนะครับ มันค่อนข้างเฉพาะและดูเลือกคนอ่านประมาณนึงเลยทีเดียว ในขณะที่ความหนักของเนื้อหา ดราม่าต่างๆที่เรื่องใส่มาให้อ่านกัน ดูเผินๆแล้ว มันไม่ต่างกับเรื่องอื่นๆที่เคยหยิบความดราม่าแบบนี้มาเล่าแล้วเช่นกัน
แต่ถ้าคนมีประสบการณ์อ่านมากซักหน่อยจะแยกได้ระดับนึงว่า ความดราม่าที่ใส่มาในเรื่องนี้เมื่อผสมกับการเล่าของเรื่องมันจะมีความหนักและสมจริงในเหตุผลของมันที่จัดว่าดี แต่ผมก็เช่นว่าหากผู้อ่านทั่วไปมาอ่าน หลายๆท่านอาจรู้สึกไม่ได้ว่ามันแตกต่างจากเรื่องอื่นอย่างไร ส่วนนี้เป็นเพราะการนำเสนออยู่ในบริบทแบบนี้มันไม่ง่ายและไม่เป็นวงกว้างสำหรับนักอ่านปกติครับ นั่นคือปัญหาอย่างแรกที่ผมเจอครับ
ปัญหาต่อมาคือเรื่องลายเส้นครับ จริงๆต้องถามว่าคุณชอบลายเส้นสไตล์นี้บ้างหรือเปล่า น่าจะดีกว่านะครับ ... เพราะสำหรับผม ผมว่าลายเส้นในเรื่องนี้ไม่ห่วย ไม่แย่นะ แค่มัน “ดิบ” ในแบบของเขา มันทำให้ภาพที่ออกมามันอาจดูว่าไม่สะดุดตาและเรียกความสนใจมากนักในแง่ลายเส้น แต่ตรงจุดนี้สำหรับผมแล้ว
ผมชอบงานดีไซน์การออกแบบของเรื่องนี้นะครับ เพราะด้วยตัวเนื้อเรื่องต้องการตอบสนองเรื่องราวตัวตนของมนุษย์ภายใต้จิตสำนึกของคนเราจริงๆ ภาพที่ดีไซน์ออกมาจึงออกมาได้น่ากลัวและดูแปลกรวมถึงพยายามสื่อสารให้มีความอัปลักษณ์สะท้อนจิตใจมนุษย์ที่มีปัญหา ซึ่ง “ผมชอบ” การออกแบบในเรื่องนี้นะครับ ตัวพระเอกเองก็ดีไซน์มาแบบแปลกๆ ไม่บอกว่าเท่หรือน่ากลัวออกกึ่งๆ มากกว่า
ซึ่งผมว่าจะออกแบบให้ดีให้เท่ก็ได้นะ แต่ผู้เขียนคงอยากจะให้มันออกมาในแง่ความไม่แน่นอนของจิตใจพระเอกมากกว่า เพราะฉะนั้นภาพรวมเรื่องดีไซน์ผมชอบและยอมรับได้และตัวละครมีเอกลักษณ์ที่เรื่องอื่นไม่มีอีกด้วย แต่ภาพรวมผมก็ยังคิดว่ามันดิบและดูไม่เรียกคนอ่านให้หยิบมาอ่านซักเท่าไหร่นะ
THE SLEEPER เป็นผลงานของ อ. โฮโซโนะ ฟุจิฮิโกะ ออกมาทั้งหมด 5 เล่มจบ กับทางค่าย สยามอินเตอร์คอมมิค และเป็นหนังสือเก่าออกมาตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งหากดูจากอายุของเรื่องนี้ที่ตีพิมพ์ในไทยก็เกือบ 20 ปีแล้ว ซึ่งในบ้านเราเรื่องนี้ค่อนข้างเงียบครับ มือสองในตลาดน่าจะมีไม่เยอะ ใครสนใจลองหาอ่าไนด้ครับ
โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบไอเดียของเรื่องนี้มากนะครับ แม้จะมีอายุกว่า 20 ปีแต่สำหรับผมแล้วพล็อตและสิ่งที่นำเสนอในเรื่องนี้ยังไม่เก่า และยังดูทันสมัยและใหม่อยู่เสมอ ซึ่ง อ. โฮโซโนะ สามารถเซ็ทโลกความฝันและไร้จิตสำนึกของเขาออกมาได้ดี ดูมีเอกลักษณ์ครับ กับการใช้ตัวเอกแนวแปลงร่างแต่ภารกิจเป็นเรื่องจิตใต้สำนึกและอีโก้แบบนี้
ซึ่งแม้มันจะแตกต่างจากฮีโร่แนวอื่น แต่การนำเสนอที่มีเอกลักษณ์ บนเนื้อหาที่เฉพาะและสามารถนำเสนอได้ขนาดนี้ ผมว่าโอเคนะครับ แต่ก็อย่างที่บอกว่า ภาพรวมมันเป็นการ์ตูนที่อ่านยาก เข้าถึงคนเฉพาะกลุ่มมากกว่าวงกว้าง แม้จะเป็นเรื่องฮีโร่ก็ตาม มันก็หมิ่นเหม่ที่หากใครมาหยิบอ่านแล้วจะรู้สึกว่าเรื่องนี้พูดอะไรไม่รู้ ไม่เห็นสนุกและพระเอกไม่เท่ ออกแบบประหลาด ซึ่งเข้าใจได้หากใครหยิบอ่านแล้วรู้สึกแบบนี้ครับ
เพราะฉะนั้นนี่เป็นการ์ตูนที่เลือกคนอ่านครับ ไม่ใช่ทุกคนที่อ่านแล้วจะชอบ คนไม่ชอบอาจจะเกลียดหรือไม่อ่านต่อ แต่คนที่ชอบอย่างผม ยกให้เป็นอีกเรื่องที่ควรหาอ่านครับ มันครบรอบด้านและสนุกในแบบตัวของมันเองครับ อยากจะรู้ว่าเป็นแบบไหนแนะนำให้หาอ่านก่อนแล้วค่อนบอกตัวเองว่า ชอบ หรือ ไม่ชอบ เรื่องนี้อย่างไรจะดีกว่าครับ .... ส่วนตัวแนะนำครับ
ภาพ 7.7/10
เรื่อง 9.4/10
ความประทับใจ 8.9/10
.
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #5เล่มจบ #SiamInterComics #การ์ตูนแนวฮีโร่ #การ์ตูนแนววิทยาศาสตร์ #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวต่อสู้ #8คะแนน # TheSleeper #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #สยามอินเตอร์คอมมิค #หนังสือการ์ตูนแนวจิตวิทยา #การ์ตูนแนวรวมดราม่า #เดอะสลิปเปอร์
โฆษณา