9 ต.ค. เวลา 17:03 • การเมือง
กรุงเทพ

มหานครไม่ติดทะเลแต่มีเบ็ดตกปลาเต็มเมือง

เมืองใดหนอมีแผ่นดินติดทะเลเพียงน้อยนิด เมืองใดหนอเจริญรุ่งเรืองแบกเศรษฐกิจเกือบทั้งประเทศเอาไว้ เหตุใดหนอเมืองนี้ถึงมีเบ็ดตกปลาเยอะขนาดนี้ กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศที่บอกว่ามีส่วนที่ติดทะเลยังพูดได้ไม่เต็มปาก กลับเต็มไปด้วย "เบ็ดตกปลา" แต่เบ็ดเหล่านี้ไม่ใช่เครื่องมือที่เอาไว้จับปลาหรือล่าสัตว์ในน้ำ
พวกมันคือเครนก่อสร้างที่ชูขึ้นเหนือพื้นดินเหมือนจะตกปลาจากท้องฟ้า แทนที่จะจับปลา มันกำลังดึงเอาอาคารสูงขึ้นจากพื้นดินทีละชั้น ทีละตึก เครนเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาและขยายตัวอย่างรวดเร็วของเมืองใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยการก่อสร้างไม่หยุดยั้ง ตึกระฟ้าใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทุกวันส่งผลให้กรุงเทพเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล ทว่าความเป็นเมืองที่ขยายตัวแบบนี้จะพาเรามุ่งไปทางไหน?
กรุงเทพ แม้จะไม่ติดทะเล แต่ก็มีเงาของวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ในอนาคตที่คืบคลานเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที การเพิ่มขึ้นของจำนวนตึกสูง บดบังท้องฟ้าที่เคยเปิดโล่ง กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่จะส่งผลต่อสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ ขณะที่เครนยังคงทำงานไม่หยุด ความเป็นเมืองที่แออัดและมลพิษที่เพิ่มขึ้นจากการก่อสร้างอาจเร่งให้กรุงเทพจมลงเร็วขึ้น น้ำทะเลที่สูงขึ้นและการทรุดตัวของแผ่นดินเป็นสัญญาณเตือนถึงอนาคตที่อาจไม่น่ารื่นรมย์นักหากเราไม่เริ่มตระหนักถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน
แต่เครนก่อสร้างเหล่านี้ ก็อาจจะเป็นภาพสะท้อนของความหวังและความพยายามของคนกรุงเทพที่ไม่หยุดนิ่ง เครนที่ยกขึ้นสูงไม่ได้หมายถึงเพียงการสร้างตึก แต่มันเป็นสัญลักษณ์ของการแสวงหาชีวิตที่ดีขึ้น
กรุงเทพเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มีความฝัน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกๆ วัน ตึกสูงเหล่านั้นเป็นตัวแทนของโอกาสใหม่ๆ ที่คนหลากหลายเข้ามาค้นหา เมืองที่ดูเหมือนจะไม่มีวันพักผ่อนนี้ ยังเต็มไปด้วยผู้คนที่ดิ้นรนและต่อสู้เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นจากคนที่เข้ามาหางานทำ คนที่มาเรียนหนังสือ หรือคนที่มาเสี่ยงโชค กรุงเทพฯ เป็นสถานที่ที่มอบโอกาส(ปลอม?)ให้กับทุกคน
เบ็ดตกปลาที่ไม่เพียงแต่หมายถึงเครนก่อสร้างที่ดึงตึกสูงขึ้นมา แต่ยังเป็นภาพเปรียบเทียบกับการที่มัน "ตก" คนจากต่างจังหวัดเข้ามาสู่เมืองด้วย "เหยื่อ" แห่งความฝัน โอกาส การงาน เงินตรา และความมั่นคง กรุงเทพฯ เปรียบเสมือนทะเลแห่งโอกาส แต่ในความจริง คนจำนวนมากที่เข้ามาอาจไม่ได้รับสิ่งที่พวกเขาคาดหวัง หลายคนจบลงด้วยการต้องดิ้นรนในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายกว่าเดิม ความฝันกลายเป็นสิ่งที่หลอกลวง
เมื่อมองเห็นเครนที่ยกวัสดุขึ้นสูง ราวกับว่าเรากำลังสร้างอนาคตที่ยิ่งใหญ่สำหรับเมืองของเรา แต่คำถามที่ตามมาก็คือ เรากำลังสร้างเมืองแบบไหน? เรากำลังสร้างตึกระฟ้าที่มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ละเลยการดูแลสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของผู้คนหรือไม่? หรือเราจะใช้การพัฒนานี้เป็นโอกาสในการสร้างกรุงเทพที่ยั่งยืนกว่าเดิม?
แม้ว่าอนาคตจะไม่แน่นอน และแม้กรุงเทพอาจจมลงใต้น้ำในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า แต่ก็ยังมีความหวัง หากเราสามารถหาวิธีที่จะเติบโตไปพร้อมกับธรรมชาติและปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อม เราอาจจะสามารถสร้างเมืองที่ไม่เพียงแต่เจริญเติบโต แต่ยังสามารถรองรับคนรุ่นต่อๆ ไปได้อย่างยั่งยืน
ตึกสูงอาจเป็นสิ่งที่เรามองเห็นเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้า แต่ในขณะเดียวกัน เราควรหันกลับมามองโลกธรรมชาติด้วย เราไม่สามารถสร้างทุกอย่างขึ้นไปสูงโดยไม่คำนึงถึงรากฐานของเมืองที่เรายืนอยู่
ท้ายที่สุดแล้ว เมืองที่เต็มไปด้วย “เบ็ดตกปลา” แห่งนี้ กำลังบอกเราให้มองหาสมดุลระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์ เมื่อเรามองเห็นเครนที่ชูขึ้นฟ้า มันอาจจะดึงเราขึ้นไปสู่อนาคตที่ดูสดใส แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องระวังไม่ให้เราสร้างมากเกินไปจนทำให้เมืองนี้จมลง ไม่ให้เราสร้างจนมันจมลงใต้ความทะเยอทะยานของตัวเอง เราต้องการความสมดุลระหว่างการพัฒนาและการดูแลสิ่งแวดล้อม ไม่ให้ความอุตสาหะของคนข้างล่างกลายเป็นแผ่นดินรับน้ำหนักตึกสูงเหล่านี้
โฆษณา