10 ต.ค. เวลา 16:39 • ความคิดเห็น
เรื่องราวของจิต ..จิตที่สะสมบุญกุศลบารมีมา พระพุทธเจ้า ท่านก็ใช้เวลาสะสมบุญกุศลบารมี มาตั้งแต่ สมัยพระพุทธเจ้าทีปังกร ท่านก็สะสมมาถึงสี่อสงไขย มันเป็นเวลายาวนาน สาวกของท่านก็สะสมมาเป็นเวลายาวนาน บางพระอวค์ ก็ยาวนาน ห้าอสงไขย ก่อนที่จะลงมาจุติท่านก็มาจากชั้นดุสิต ชั้นดาวดึง
มีพระท่านเล่าเรื่องชั้นดุสิต ไปดูเค้านั่งปฏิบัติธรรมกัน นั่งกันนิ่ง เป็นเหมือนเสา ไม่มีกระดุกกระดิกกันเลย ไปดูชั้นดาวดึงส์ ก็ไปเจอะเจอ องค์ท้าวสักกะเทวราช ท่านก็ให้เครื่องหมาย ให้ไปดูได้ทุกสถานที่ ท่านไปดู ..ไปพบเจอะเจอ ไปดูวิมานของเทพองค์นั้นองคนี้ ที่มนุษย์ พูดถึงกัน ท่านไปดูเพื่อที่จะหายสงสัย ..ไปนรก ก็ไปเดินสวนทางกับพระอเสขะ ที่เป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า ลงไปโปรดสัตว์ ลงไปเมืองบาดาล ป่าหิมพานต์ พบเจอกินนารี เรื่องของครุฑ ท่านก็เล่าให้ฟัง เป็นเหมือนนิทาน ไปดวงอาทิตย์ท่านก็ไปจนติดพื้น
ดาวอังคารท่านก็ไป พอนึกจะไป ที่นั่น ธาตทั้งสี่ก็ไปประกอบ เป็นรูปที่นั่นได้เลย เรื่องของแดนพระนิพพาน ท่านก็เข้าไปดู ซึ่งองค์ท้าวสักกะ ท่านก็เอามือมาหยิบถอดออกมา วางไว้ก่อนเข้าไปแดนพระนิพพาน แล้วเราก็ได้ถามถึงเรื่องราว สัตว์แดนนิพพาน ทีเค้าเรียกกัน ราชสีห์ สิงห์ อะไรทำนองนั้น เราถามว่า สัตว์นิพพาน ต้องลงมาเกิดอีกมั้ย ท่านบอกว่าต้องลงมาเกิด
แล้วเรื่องราวของพระอรหันต์ ท่านก็บอกว่า พระอรหันต์นั่น มีฤทธิ์ทุกพระองค์ แต่พระพุทธเจ้าท่านห้ามไม่ให้ใช้ฤทธิ์ ..แม้ในปัจจุบัน นี้พระอรหันตท่านก็ยังมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ต้นพุทธกาลก็ยังมีอยู่ แต่ท่านไม่ออกมาให้คนพบเห็น ..กายท่านเป็นแก้วไปแล้ว ผิวพรรณเหมือนเด็กแรกเกิด ..
เรื่องราวของเทพ ท่านมักใช้คำว่า หูทิพย์ตาทิพย์ ..เวลาสร้างบุญกุศล ทำดี มีแสงรัตนะเกิดขึ้น เทพเค้ามาดู มาอนุโมทนากัน เรื่องราวพวกนี้ มันค่อนข้างละเอียดอ่อนมากๆ ไม่สามารถที่จะพูดบอกกล่าวอะไรใครได้
เพราะมันเป็นเรื่องราวขของคำว่าบุญกุศลบารมี ที่สะสมมาเหมือนกัน ตลอดทั้งการฝึกหัด การที่ได้พบเจอพระที่ท่านเมตตา ช่วยชี้ ช่วยแก้ไข การวางจิตวางใจ ในการประพฤติปฏิบัติธรรม ที่มีการเรียนรู้เป็นขั้นเป็นตอน .ผู้ที่เป็นหูทิพย์ตาทิพย์ ท่านก็เห็นเรื่องราวของผู้ที่รู้จักใช้ธาตุนะโมเป็น เพราะผู้ที่เป็นหูทิพย์ตาทิพย์ ก็ต้องลงมาอาศัยธาตนะโม สร้างบุญกุศลบารมี
สมมุติว่า เค้าพาจิตเราไปเห็นสภาพ ไปรับรู้ความรู้สึก ไปอยู่ไปสัมผัส ในเมืองนรก จิตเราจะทนไหวมั้ย ไปเห็นภาพที่นายนิรบาล กำลังทรมาน ผู้ที่ตกนรก .สติของเราจะหวั่นไหวมั้ย จะเตลิดมั้ย..
เรื่องสถานที่ ตัดสินของจิต ที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้กายเป็นมนุษย์ ก็ไปสถานที่ตัดสินเดียวกัน ตัดสินในสิ่งที่เกิดมาใช้กายวาจาใจ ครั้งมีกายเป็นมนุษย์ ใช้ทำดีชั่วอย่างไร ก็ตัดสินไปสู่สถานที่ ที่ตนเองชอบ ชอบใช้นิสัยกายวาจาใจอย่างไร ก็ไปสู่สถานที่นั้น มีกายให้จิตไปอาศัยตามวาระของกรรม ตัดสินก็เป็นโกฎเป็นกัปป แล้วมาคุ้มมั้ย กับการมีกายมนุษย์ เพียงประมาณชั่วขณะหนึ่ง แปดสิบปีร้อยปี
กลับมาเรื่องของจิตที่มีบุญบารมี ..ก็มีจิตที่สะสมบารมี ไปอยู่ชั้นดุสิต ไปรอเกิดในต้นยุคศาสนาพระศรีอรยะเมตตไรย ..ที่ท่านว่า ยุคของท่านมีแต่จิตที่มีความเมตตาม เห็นอกเห็นใจกัน ใครจะไปเกิดในยุคท่าน ก็ให้ปฏิบัติธรรมไปตามพี่ชายท่านได้ชี้ทางไว้ให้
หมายเหตุ ..เรื่องราวที่เขียนเป็นเพียงเรื่องเล่าน่ะ พระที่ท่านบอกเล่า ก็ยังบอกว่า อย่าเชื่อฉันน่ะ ท่านบอกว่าให้ไปปฏิบัติขึ้นมา เราก็จะได้เรียนรู้ ..ทำให้ได้ ..ให้กายเป็นกายบุญ ให้จิตมีธรรม มีปัญญาเป็นธรรม ที่สำคัญ ลดละอารมณ์โลภโกรธหลงให้มันได้
โฆษณา