นักโทษประหารหญิงวัย 91 ปี
“แบลนช์ เทย์เลอร์ มัวร์ (Blanche Taylor Moore)” คือนักโทษประหารหญิงที่มีอายุมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา และอาจจะมากที่สุดในโลก โดยในปัจจุบัน (ค.ศ.2024) เธอมีอายุมากถึง 91 ปี
เหตุใดคุณยายวัยใกล้ฝั่งเช่นนี้จึงกลายเป็นนักโทษประหารผู้ก่อคดีร้ายแรงได้?
ผมจะเล่าให้ฟังครับ
แบลนช์ เทย์เลอร์ มัวร์ (Blanche Taylor Moore)
มัวร์เป็นหญิงชาวอเมริกันที่เกิดในปีค.ศ.1933 (พ.ศ.2476) มีพ่อเป็นขี้เหล้าซึ่งบังคับให้มัวร์ขายตัวตั้งแต่ยังวัยรุ่น โดยเงินที่ได้มานั้น ผู้เป็นพ่อก็จะนำไปจ่ายหนี้พนัน
เมื่อมีอายุได้ 19 ปี มัวร์ได้แต่งงานกับชายที่ชื่อ “เจมส์ นโปเลียน เทย์เลอร์ (James Napoleon Taylor)” และได้ทำงานที่ห้างสะดวกซื้อ “Kroger”
หลังจากทำงานได้ไม่นาน มัวร์ก็ก้าวหน้าในอาชีพการงานอย่างรวดเร็ว ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าแคชเชียร์ โดยมัวร์นั้นขยันขันแข็ง ทำงานหนัก หากแต่เพื่อนร่วมงานมักกล่าวว่ามัวร์นั้นเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น และยังเป็นคนที่ตีสองหน้า
ห้าง Kroger
มัวร์เริ่มเล่นชู้กับผู้จัดการห้างที่ชื่อ “เรย์มอนด์ เรด (Raymond Reid)” ในปีค.ศ.1962 (พ.ศ.2505) และหลังจากที่สามีของมัวร์เสียชีวิตในปีค.ศ.1973 (พ.ศ.2516) มัวร์และเรดก็ได้มีความสัมพันธ์กันอย่างเปิดเผย
แต่ในไม่ช้า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มจืดจาง และก็เริ่มมีสัญญาณว่ามัวร์กำลังเริ่มมีความสัมพันธ์กับ “โรเบิร์ต ฮัตตัน (Robert Hutton)” ผู้จัดการระดับภูมิภาคของ Kroger
หากแต่ความสัมพันธ์ของมัวร์กับฮัตตันก็จบลงอย่างรวดเร็วเมื่อมัวร์ได้ทำการยื่นฟ้องทั้งตัวฮัตตันและ Kroger ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ
ผลที่ได้ก็คือ ฮัตตันต้องลาออก ส่วน Kroger ได้ไปพูดคุยและตกลงนอกศาลกับมัวร์ โดยยอมจ่ายค่าเสียหายเพื่อให้เรื่องจบเป็นเงินจำนวน 275,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 9.1 ล้านบาท)
มัวร์ลาออกจากงานในปีค.ศ.1985 (พ.ศ.2528) ก่อนที่ในอีกไม่กี่เดือนต่อมา เธอจะชวนเรดซึ่งความสัมพันธ์จืดจางไปแล้ว ไปทานอาหาร ซึ่งเรดก็ตอบตกลง
วันต่อมา เรดก็มีอาการป่วย อาเจียนอย่างหนักและท้องเสียอย่างรุนแรง และในเดือนต่อมา เรดก็ต้องหยุดงานเป็นเวลากว่าสี่สัปดาห์เพื่อรักษาตัว
ช่วงที่รักษาตัวในโรงพยาบาล มัวร์ก็มักจะเอานมปั่นกับอาหารที่เรดชอบมาฝากเป็นประจำ ก่อนที่อีกห้าเดือนต่อมา เรดจะเสียชีวิต โดยคาดว่าสาเหตุมาจากโรคกิแลง บาร์แร ซินโดรม (Guillain-Barré Syndrome)
โรคกิแลง บาร์แร ซินโดรม (Guillain-Barré Syndrome) เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบเฉียบพลันที่เส้นประสาทส่วนปลายโดยไม่เกิดความเสียหายต่อสมองหรือไขสันหลังจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ส่งผลให้เกิดการอ่อนแรงของกล้ามเนื้ออย่างเฉียบพลัน
เรดเสียชีวิตโดยทิ้งพินัยกรรมไว้ ซึ่งมัวร์คือผู้จัดการมรดก และได้นำพินัยกรรมนั้นไปแสดงให้ลูกๆ ของเรดดู โดยในพินัยกรรมระบุว่าเรดต้องการจะให้แบ่งมรดกคนละครึ่งระหว่างมัวร์กับลูกๆ ของเรด
ข้อสังเกตอย่างหนึ่งก็คือ เรดเพิ่งจะลงนามในพินัยกรรมนี้เพียงหนึ่งเดือนก่อนจะเสียชีวิต
หลังจากเรดเสียชีวิต มัวร์ก็ได้เริ่มมีความสัมพันธ์กับบาทหลวงที่ชื่อ “ดไวท์ มัวร์ (Dwight Moore)” และทั้งคู่ก็แต่งงานกันในเวลาไม่นาน
แต่หลังจากที่มัวร์ไปฮันนีมูนกับหลวงพ่อดไวท์ ปรากฎว่าหลวงพ่อดไวท์ก็ล้มป่วยอย่างหนัก ซึ่งอาการเหล่านี้เพิ่งเกิดขึ้นหลังจากที่มัวร์ทำแซนด์วิชไก่ให้หลวงพ่อดไวท์ทาน
โรงพยาบาลได้ทำการเจาะเลือดและเก็บตัวอย่างเลือดของหลวงพ่อดไวท์ และพบว่าในร่างกายของหลวงพ่อดไวท์นั้นมีปริมาณสารหนูที่สูงมาก
แต่นับเป็นโชคดีที่หลวงพ่อดไวท์ไม่เสียชีวิต และโรงพยาบาลก็ได้แจ้งเรื่องนี้ให้ทางตำรวจทราบ ตำรวจจึงเริ่มทำการสืบสวน และในที่สุด มัวร์ก็ถูกจับกุม
ตำรวจได้ทำการสอบสวนและทำการตรวจสอบศพของเรด พ่อบุญธรรมและแม่บุญธรรมของมัวร์ รวมทั้งสามีคนแรกของมัวร์
ผลปรากฎว่า ศพทั้งหมดนั้นล้วนแต่มีปริมาณสารหนูในร่างกายสูง ผิดปกติ
มัวร์ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและพยายามวางยา ซึ่งก่อนที่จะขึ้นศาล ทนายของมัวร์ก็ได้นำจดหมายของชายไร้บ้านผู้หนึ่งที่เขียนขึ้นโดยยอมรับว่าเป็นผู้วางยาคนทั้งหมด โดยสาเหตุก็เพราะว่าหลงรักมัวร์
แต่จากการพิสูจน์ ก็ทำให้ทราบว่าจดหมายนี้แท้จริงแล้วมัวร์เป็นคนเขียนขึ้นเอง
ค.ศ.1990 (พ.ศ.2533) มัวร์ถูกตัดสินให้ประหารชีวิต
ในทุกวันนี้ มัวร์ยังคงอยู่ในเรือนจำในรัฐนอร์ทแคโรไลนา และเป็นนักโทษประหารหญิงที่มีอายุมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน คือ 91 ปี
นี่ก็คือเรื่องราวของคุณยายฆาตกรซึ่งแตกต่างจากภาพจำคุณยายใจดีของใครหลายๆ คน
- 15
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
