14 ต.ค. เวลา 23:58 • ความคิดเห็น

ข้อคิดจากกระต่าย

กระต่าย เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดเล็ก กินพืชเป็นอาหาร มีขนปุกปุยทั่วตัว มีหางกลมสั้น มีใบหูยาวที่ฟังเสียงต่างๆ ได้ดี และมีประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นที่ดีมาก กระต่ายเป็นสัตว์ที่ตื่นตกใจง่ายและมีความว่องไวปราดเปรียวในการระแวดระวังภัย
นอกจากนี้แล้วตาของกระต่ายยังมีหนังตาหรือเปลือกตาถึง 3 ชั้นด้วยกัน ซึ่งตาของกระต่ายจะกลมโตสามารถเหลือบมองภาพด้านหลังได้โดยที่ไม่ต้องหันหัวเลย กระต่ายจึงเป็นสัตว์ที่มีระบบการมองเห็นที่ดีกว่าสัตว์ชนิดอื่น และจะยิ่งมองได้ชัดเจนมากขึ้นเมื่ออยู่ในที่มืด แต่มันจะมองเห็นสีได้เพียงแค่ 2 สี คือ สีเขียวและสีน้ำเงินเท่านั้น
กระต่ายเป็นสัตว์ที่ผูกพันกับมนุษย์เป็นเวลานาน ทั้งเป็นอาหารและเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยง โดยชาวจีนและชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่ากระต่ายเป็นเทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ มีหน้าที่ปรุงยาอายุวัฒนะ การมอบกระต่ายหรือสัญลักษณ์ของกระต่ายจึงถือเป็นการมอบความปรารถนาดีให้โชควาสนาแก่กัน
นอกจากนี้หากเรามองไปที่พฤติกรรมธรรมชาติของกระต่าย เราก็จะเรียนรู้อะไรได้จากมัน
ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นของกระต่าย คือ ความเงียบและสัญชาตญาณที่เฉียบคม ในขณะที่สัตว์อื่นๆ มักจะใช้พลังใช้กำลังหรือเสียงเพื่อเอาตัวรอด กระต่ายกลับเลือกที่จะนิ่งเงียบและระวังตัวอยู่เสมอ ซึ่งมันสอนให้เรารู้ว่า ความเงียบมีประโยชน์อย่างไร ในยุคที่ผู้คนต่างรีบเร่งและพูดมากมาย การรู้จักฟังเสียงรอบข้างและเฝ้าดูสิ่งที่เป็นไป สามารถทำให้เราตัดสินใจได้ถูกต้องและชาญฉลาดกว่า
กระต่ายแม้มันจะดูบอบบางและตัวเล็ก แต่พวกมันมีความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ ความสามารถในการเอาตัวรอดจากผู้ล่านั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันเกิดจากสัญชาตญาณ ความระมัดระวัง และการเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว กระต่ายรู้ตัวดีว่ามันไม่ใช่สัตว์ที่แข็งแกร่ง มันจึงจำเป็นต้องใช้สมองและสัญชาตญาณตลอดเวลาเพื่อต่อสู้กับอันตราย
การวิ่งหนีของกระต่ายมันจึงไม่ได้แสดงถึงความขลาด แต่มันเป็นการยอมรับข้อจำกัดของตัวเองและรู้ว่าเมื่อไรควรถอย เพราะเราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ การยอมรับความเปราะบางข้อจำกัดของตัวเองเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเอาตัวรอดและเติบโตก้าวผ่านความยากลำบากไปได้
กระต่ายจึงไม่เป็นเพียงสัตว์ตัวเล็กน่ารักเพียงเท่านั้น แต่มันยังแสดงการเอาตัวรอดบนโลกใบนี้ให้เราเห็นได้อย่างดีครับ
โฆษณา