15 ต.ค. เวลา 11:00 • การตลาด

หลุมพรางของการทำ Martech ยุคนี้ ที่เราต้องไม่พลาด

Martech หรือ Marketing Technology เป็นเครื่องมือทางการตลาดสมัยใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการทำการตลาดในยุคนี้ โดยเข้ามาช่วยจัดเก็บข้อมูลทางธุรกิจและการตลาด วิเคราะห์ นำเสนอข้อมูล แม้กระทั่งการติดตามข้อมูลของคู่แข่ง ทำให้หลายธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ต่างให้ความสนใจ เพราะเครื่องมือนี้ จะช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกิจ ทำการตลาด รวมไปถึงการสร้างยอดขายได้เร็วและดีกว่าเครื่องมือเดิม
Martech แม้จะให้ประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขาย การรักษาฐานลูกค้าที่ซื้อซ้ำ การทำ Personalization หรือ การปรับกลยุทธ์ให้ตรงใจที่ลูกค้าต้องการ ฯลฯ แต่ก็ไม่ใช่ทุกเครื่องมือที่จะบันดาลให้ผู้ประกอบการหรือนักการตลาดได้ทุกสิ่งที่ต้องการทั้งหมด บทความนี้ จึงขอนำเสนอหลุมพรางของการใช้ Martech ที่ต้องระมัดระวัง ดังนี้
หลุมพรางที่ 1: ก่อนจะไปใช้เทคโนโลยีอะไร อย่าลืมพื้นฐานทางการตลาดที่สำคัญ
เรามักจะลืมพื้นฐานการตลาดที่สำคัญ คือ สินค้าของเราตอบโจทย์ลูกค้าได้หรือไม่? แต่กลับไปให้ความสำคัญกับเครื่องมืออย่าง Martech มากกว่า ซึ่งไม่ใช่พื้นฐานหลัก
เพราะถ้าหากสินค้าและบริการของเรา ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า ต่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าจากเครื่องมือหรือเทคโนโลยีการตลาดที่เราใช้ เขาก็อาจจะซื้อแค่ครั้งเดียว ไม่ซื้อซ้ำ เท่ากับเครื่องมือที่ใช้สูญเปล่าทั้งเงินและเวลา ดังนั้นควรกลับมาให้ความสำคัญที่พื้นฐานของธุรกิจ และตรวจสอบว่า สินค้าและบริการของเราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หรือไม่ เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น ก่อนที่จะไปมุ่งเน้นที่เทคโนโลยี Martech
หลุมพรางที่ 2: ใช้เทคโนโลยี ใช้ออนไลน์ แต่ลืมออฟไลน์
อาจเป็นความจริงที่ว่า ทุกธุรกิจต้องทำ “ออนไลน์” อย่างปฏิเสธไม่ได้ ทั้งกระบวนการดำเนินธุรกิจ ก็สามารถใช้เทคโนโลยี ช่วยอำนวยความสะดวกทำให้ประหยัดเวลาและลดต้นทุนในการเก็บข้อมูล กระบวนการทำงาน อีกทั้งกลุ่มลูกค้าก็ไปอยู่ที่ออนไลน์ แต่หากลองพิจารณาความจริง เราจะพบว่า “ออฟไลน์” หรือโลกจริงที่เราอาศัยอยู่ ก็สำคัญไม่แพ้กัน
ตัวอย่างเช่น ทำไมถึงยังมีการเปิดร้านอาหารใหม่ๆ ตามสถานที่ต่างๆ เพราะคนทำร้านอาหารรู้ว่า ลูกค้าอยากมาทานอาหารที่ร้าน เพื่อเสพทั้งรูป รส กลิ่น เสียง รวมถึงเสพบรรยากาศ ความสะดวกสบายจากการให้บริการที่ร้านอาหาร
แม้จะมีช่องทางสั่งอาหารแบบ Delivery แต่ก็ไม่สามารถตอบสนองสิ่งเหล่านี้ หรือการเก็บข้อมูลเชิงลึก (Insight) ที่เกี่ยวข้องกับความต้องการ ฟีดแบคต่างๆ หรือความเห็นเกี่ยวกับตัวสินค้าใหม่ๆ อาจจะต้องมาจากการเก็บข้อมูลสัมภาษณ์ พูดคุยกับลูกค้าโดยตรง ซึ่งจะทำให้เราได้ข้อมูลที่ดีกว่าการใช้แบบสอบถามผ่านช่องทางออนไลน์
เพราะการได้พูดคุยกับลูกค้าโดยตรง สามารถเห็นภาษากาย ออกแบบวิธีการสอบถามข้อมูลได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการถามคำถามต่อเนื่องจากสิ่งที่ลูกค้าตอบ เพื่อประโยชน์ของการนำมาใช้วิเคราะห์ปรับปรุงธุรกิจให้ดีขึ้นได้
หลุมพรางที่ 3: ใช้ Martech ตามกระแส แต่อาจจะไม่เหมาะกับธุรกิจของเรา
คำว่า “ตามกระแส” คือการเห็นว่า เครื่องมือนี้ดี ตรงกระแสที่หลายธุรกิจนิยมใช้กัน หรือไปติดตามข่าว แล้วมีคนบอกว่า เป็นเทรนด์ที่ดีห้ามพลาด ทำให้เรานำเครื่องมือหรือ Martech เหล่านั้น มาใช้โดยยังไม่ได้คิด วิเคราะห์ก่อนซื้อหรือเลือกใช้ว่า ตอนนี้ ธุรกิจเรามีเป้าหมายด้านการตลาดอย่างไร? เครื่องมือนี้ให้ประโยชน์อะไรบ้าง? และที่สำคัญ เครื่องมือนี้ให้ประโยชน์ที่ตรงกับเป้าหมายของบริษัทหรือไม่?
คำถามเหล่านี้ อยากให้คิด ไตร่ตรองก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้เครื่องมือ Martech ต่างๆ เพราะเราจะได้ไม่เสียเงินไปฟรีๆ รวมถึงเสียเวลา และอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าเผลอเลือกเครื่องมือที่ไม่เหมาะสม
ผู้ประกอบการหลายคนอาจจะคิดว่า ทำไมทำการตลาดไปแล้วเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ นั้นก็เพราะอาจจะตกหลุมพรางเหล่านี้ก็เป็นได้ ถึงแม้ว่าบทความนี้จะกล่าวถึงหลุมพรางของ Martech แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า Martech นั้นไม่ดี มีข้อควรมากมาย เพราะจุดมุ่งหมายของผู้เขียน คือ อยากให้ผู้ประกอบการได้เข้าใจเรื่อง หลุมพรางดังกล่าว เพื่อที่จะได้ทำการตลาดอย่างมีประสิทธิผลอย่างแท้จริง โดยไม่หลง แสง สี หรือกระแสการตลาดจนลืมแก่นของการทำธุรกิจ ว่าคือ การทำสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้านั่นเอง
แต่ถ้าเราปฏิบัติตามความจริงพื้นฐานทางการตลาด โดยให้ความสำคัญกับลูกค้าก่อนเสมอ สุดท้าย เราจะสามารถเลือกเครื่องมือ Martech ที่เหมาะสม เพื่อนำไปใช้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ธุรกิจตั้งเอาไว้
โฆษณา