16 ต.ค. เวลา 09:23 • ข่าวรอบโลก

อนาคต “สาธารณรัฐออสเตรเลีย” ใกล้เข้ามาทุกที

พระราชกรณียกิจของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ในการ “เยือนออสเตรเลีย” (18-23 ตุลาคม 2024) (พร้อมกับควีนคามิลลา) ตามธรรมเนียมปฏิบัติของกษัตริย์อังกฤษก่อให้เกิดเรื่องอื้อฉาวมากมาย บางสื่อในอังกฤษเองก็เรียกว่าเป็น “การเยือนครั้งสุดท้ายอำลา”
พรรคแรงงานอยู่ในอำนาจบริหารที่นั่น และพวกเขามีทัศนคติที่เย็นชาต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียคนปัจจุบัน “แอนโทนี แอลบานีส” ยังเคยสนับสนุนแนวทางในการเปลี่ยนให้ออสเตรเลียกลายเป็นสาธารณรัฐ (โดยไม่ต้องการมีประมุขเป็นกษัตริย์อังกฤษ) มาก่อนด้วยเช่นกัน
อ้างอิง: [1][2]
ผู้ว่าการรัฐทั้ง 6 ของออสเตรเลียยังปฏิเสธที่จะเข้าเฝ้ากับพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 อย่างชัดแจ้ง กลุ่มสนับสนุนให้ออสเตรเลียเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐในพื้นที่ท้องถิ่นก็กำลังจัดการชุมนุมต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ครั้งใหญ่ หลังจากการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ออสเตรเลียก็ถูกกลืนเข้าไปกับวาระการประท้วงต่อต้านอังกฤษด้วยการเผาธงชาติอังกฤษ - อ้างอิง: [3][4]
3
เครดิตภาพ: The Project
ทัศนคติของคนออสเตรเลียต่อพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ที่มีเรื่องอื้อฉาวมากมาย (รวมถึงข่าวลือเรื่องคอร์รัปชันตั้งแต่สมัยพระองค์เป็นมกุฎราชกุมาร) ทำให้มีคนออสซี่เพียง 40% เท่านั้นที่ยอมรับว่าพระองค์เป็นประมุขของประเทศ - อ้างอิง: [5][6][2]
สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดมากขึ้นเมื่อสงครามในฉนวนกาซาเริ่มปะทุขึ้น ผู้ประท้วงที่สนับสนุนกลุ่มปาเลสไตน์ได้ตัดเศียรรูปปั้นของอดีตกษัตริย์อังกฤษคือ พระเจ้าจอร์จที่ 5 (ในเมลเบิร์น) ซึ่งในรัชสมัยของพระองค์ได้มีการออกคำประกาศ “ปฏิญญาบัลโฟร์ ปี 1917” (Balfour Declaration: 1917) สมัย WWI - อ้างอิง: [7]
“ปฏิญญาบัลโฟร์” เป็นแถลงการณ์สาธารณะที่ออกโดยรัฐบาลอังกฤษในปี 1917 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยอังกฤษประกาศสนับสนุนการจัดตั้ง “ดินแดนสำหรับชาวยิวในปาเลสไตน์” ซึ่งในขณะนั้นเป็นภูมิภาคของออตโตมันที่มีประชากรชาวยิวเป็นส่วนน้อยอาศัยอยู่ - อ้างอิง: [8]
รูปปั้นของพระเจ้าจอร์จที่ 5 ถูกตัดเศียร เครดิตภาพ: AAP Image
ในช่วงต้นปี 2024 มีผู้คนมากกว่าแสนคนออกมาประท้วงเพื่อเรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อ “วันชาติออสเตรเลีย” ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองการก่อตั้งอาณานิคมแห่งแรกของอังกฤษในทวีปออสเตรเลียเป็น “วันแห่งการรุกราน” ในเวลาเดียวกันอนุสาวรีย์ของ “เจมส์ คุก” และ “สมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย” ก็ถูกล้มลงจากฐาน – อ้างอิง: [9][10]
ภายใต้บริบทของการปฏิรูปเสรีนิยมที่กำลังเกิดขึ้นในทุกประเทศในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ ความรู้สึกของฝ่ายที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐจะยังคงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ “บาร์เบโดส”เพิ่งประกาศออกจากความเป็นเครือจักรภพไม่นานมานี้ ในปี 2025 จาไมกาก็จะเดินตามรอยเส้นทางเดียวกันนี้ และลอนดอนไม่พ้นที่ต้องชดใช้สำหรับเรื่องในอดีตสำหรับการค้าทาส การล่าอาณานิคม และความมั่งคั่งอื่นๆ ในอดีตของจักรวรรดิอังกฤษที่กอบโกยไปในอดีต - อ้างอิง: [11][12][13]
เครดิตภาพ: Daily Mail
เรียบเรียงโดย Right Style
16th Oct 2024
  • เชิงอรรถ:
<เครดิตภาพปก: X, The Telegraph>
โฆษณา