ทริปชื่นชมบอสตัน เมืองในตำนาน ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และกิจกรรมหลากหลาย (Fall Foliage EP.2)

ทริปชมใบไม้เปลี่ยนสีในภูมิภาคนิวอิงแลนด์ เริ่มต้นด้วยการออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิเที่ยวบิน 20:00 น. โดยสายการบินกาตาร์แอร์เวย์
โดยช่วงแรกบิน 7 ชั่วโมง แวะพักที่โดฮา 2 ชั่วโมงครึ่ง ได้ใช้ห้องรับรองของสายการบิน ซึ่งต้องถือว่าดีมาก ได้ใช้บริการอาบน้ำ โดยมีห้องอาบน้ำนับ 10 ห้อง สะอาดและหรูหรา
ห้องรับรองชั้นธุรกิจ แยกเป็นสองโซนคือโซนที่เป็นเครื่องดื่มและอาหารว่างเบาๆ และโซนบุฟเฟ่ต์รวมทั้งอาหารตามสั่ง
บรรยากาศโดยรวมต้องถือว่าดีมาก มีที่นั่งหลากหลายรูปแบบ นั่งเดี่ยวทำงานคนเดียวเป็นสัดส่วน ที่นั่งคุยเป็นกันเอง หรือโซนทานอาหารเป็นเรื่องเป็นราว รวมทั้งมี Quiet Zone ที่สามารถนอนหลับได้ด้วย
ต้องถือว่าสมบูรณ์แบบ แล้วก็คงไม่แปลกใจว่า ทำไมสายการบินนี้จึงติดอันดับโลก
นอกจากนั้นแล้ว บรรยากาศในสนามบินที่โดฮา กาตาร์ ก็มีความสวยงาม จากการปรับปรุงครั้งใหญ่ มีภาพกราฟฟิก ร้านค้า ทางเดิน ตลอดจนนำต้นไม้ขนาดใหญ่และเล็กเข้ามาอยู่ในสนามบิน สร้างความเขียวขจีร่มรื่นเป็นธรรมชาติเป็นอย่างมาก
รวมทั้งการบริการของพนักงาน ล้วนมีคุณภาพระดับสูง
จากโดฮา บินสู่บอสตันใช้เวลาราว 13 ชั่วโมง การบริการบนเครื่องยังคงเยี่ยมเหมือนช่วงแรก ด้วยเครื่อง Airbus A -350 โดยช่วงแรกใช้ A-380 บอกได้เลยว่า สภาพภายในเครื่องที่ใหม่สะอาดและบริการไม่แตกต่างกันเลย
เครื่องลงที่ Boston เวลา 8 โมงเช้า โชคดีมากที่เราลงเป็นไฟท์แรก จึงไม่มีคิวเลย สามารถผ่านตม.ภายในเวลาเพียง 5 นาที แล้วก็ได้รับกระเป๋าครบถ้วนหลังผ่านตม.ราว10 นาที ผ่านออกมาแบบไม่มีขั้นตอนตรวจตราอะไรให้จุกจิกกวนใจเลย แต่ค่ารถเอาไว้เข็นกระเป๋าแพงไปนิดนึงตั้ง6 ยูเอสดอลล่าร์
เมื่อออกมาทางด้านหน้าสนามบินอากาศแจ่มใสมาก แสงแดดสว่างไสวภายใต้ฟ้าสีครามสด อากาศเย็นสบายที่ 15 องศาเซลเซียส
เราเรียกแท็กซี่แทนอูเบอร์ที่มีปัญหาเรื่องการกำหนดจุดนัดพบ
จุดที่เรียกแท็กซี่ ก็สะดวกมาก มีเจ้าหน้าที่สาวใจดี คอยประสานเรียกรถ แท็กซี่ให้ด้วย
เราได้รถคันใหญ่ สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางใหญ่ 3 ใบ และ Carry on 2 ใบได้อย่างสบายมาก
เมื่อขึ้นรถแล้ว ก็แจ้งว่าจะไปโรงแรม Godfrey ใจกลางเมืองบอสตัน ใกล้กับ
Orpheum Theatre สถานที่แสดงคอนเสิร์ตของ Calum Scott ซึ่งเป็นนักร้องยอดนิยมชาวอังกฤษ ที่โด่งดังขึ้นมาในวงการเพลง จากคนธรรมดาที่เข้าแข่ง Britain’s Got Tarent มีเพลงโปรดหลายเพลงเลยทีเดียว
แต่แล้วเราก็ประสบปัญหาเรื่องรถแท็กซี่ โดยคนขับหลงทางออกจากสนามบินไปนอกเมือง สังหรณ์ใจแต่แรกแล้ว ตอนที่คนขับถามแบบไม่รู้จักชื่อโรงแรมนี้
ขนาดถึงขั้นต้องบอกเลขที่และถนนกันเลย ทีแรกก็คิดว่าไม่มีปัญหา ดีที่ผู้เขียนเฉลียวใจว่า ทำไมวิวสองข้างทางไม่ใช่เมือง
พอเปิด Google Maps ดู จึงเห็นว่าผิดทางแล้ว ถึงขั้นต้องจอดรถ แล้วตั้งจุดหมายโรงแรมกันใหม่เลยทีเดียว
ในใจก็คิดว่า หรือคนขับเห็นว่าเราเป็นคนเอเชีย เลยตั้งใจขับรถออกนอกเส้นทางจะได้คิดค่าโดยสารเพิ่มขึ้น แต่พอเราทัก เค้าก็ดูจะยอมรับผิด และเสนอว่าจะปิดมิเตอร์ แล้วคิดค่าโดยสารเท่าที่จุดเราจอดกัน
เมื่อคำนวณดูค่าโดยสาร ก็เห็นว่าไม่แตกต่างจากค่าโดยสารตามปกติสักเท่าใด ก็เลยโอเค ถือว่ายกประโยชน์ แห่งความสงสัยให้กับจำเลยหรือคนขับ ว่าแกหลงจริงๆ จะได้สบายใจ เที่ยวต่อได้อย่างมีความสุข
เมื่อมาถึงโรงแรม จากที่ได้ติดต่อไว้ก่อนแล้วว่า ถ้าห้องว่างตอนเช้า ช่วยดูแลให้เราเช็คอินเลย เพราะไฟลท์มาถึง 8 โมงเช้า เรามาถึงโรงแรมประมาณ 9 โมง
แล้วโชคก็เข้าข้าง ได้ห้องพักตอน 9 โมงเช้าเลยจริงๆ ทำให้เราได้เข้าห้องพักเพื่ออาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อเตรียมท่องเที่ยวเมืองบอสตัน เมืองเก่าแก่ที่คนไทยรู้จักกันดีของสหรัฐอเมริกา
ด้วยบรรยากาศที่ชวนเที่ยวอย่างมากคือ อากาศเย็นสบายประมาณ 15 องศาเซลเซียส ไม่มีฝน แสงแดดสวย มีลมพัดเย็นสบาย
ทำให้เราเดินเที่ยวด้วยความสุขกาย สบายตา สบายใจ และสบายตัวเป็นอย่างมาก
ภาพบอสตันในอดีตสมัยที่เคยมาเรียน ก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ทุกอย่างต้องเรียกว่าเกือบจะคงที่ มีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก
เราเริ่มต้นด้วยการเดินเท้าเพื่อไปยืนยันตั๋วคอนเสิร์ตก่อน เพราะอยู่ห่างจากโรงแรมระยะเดินเพียง 5 นาที พอดีเช้าไปหน่อย กว่า Box office จะเปิดก็ราว 11 โมงเช้า
เราจึงแวะมาเดินเล่นที่ Boston Common กันก่อน ถ่ายรูปมาอวดแฟนแฟนด้วย
บริเวณนี้มีสนามเขียวขจี ต้นไม้เริ่มมีบางต้นเปลี่ยนสีแล้ว แดงครึ่งต้นบ้าง เต็มต้นบ้าง สีเหลืองก็มีเช่นกัน
มีบางครอบครัวพาเด็กมาเดินเล่น วิ่งเล่น วัยรุ่นก็มี และแน่นอนมีนักท่องเที่ยวมากันเป็นกลุ่ม มีมัคคุเทศก์หรือไกด์แต่งตัวแบบผู้ดีอังกฤษด้วย ได้บรรยากาศดี
อาคารรัฐสภาหรือ State Capital สวยงามโดดเด่นมากด้วยโดมสีทอง ในยามต้องแสงอาทิตย์จะสวยงามจับใจ
เราเดินชื่นชมพร้อมถ่ายรูปรอบรอบ Common ด้วยความตื่นตาตื่นใจ มีรถโรงเรียนหรือบัสมาจอดหลายคัน เพราะมีกิจกรรมของนักเรียน
รถโรงเรียนของสหรัฐทุกคัน เป็นสีเหลืองโดดเด่นมีรูปร่างเดียวกันทั้งหมด ดูจากภายนอกแล้วแข็งแกร่งทนทานมาก ทราบว่ารายละเอียดหรือสเปคในเรื่องความปลอดภัยนั้นสุดยอด ไม่เหมือนของไทยที่เพิ่งเป็นข่าวนักเรียนและคุณครูต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
เราเลือกเดินทางจาก Boston Common โดยรถไฟใต้ดินสายสีแดง นั่งไป 4 สถานี โดยผ่านเอ็มไอที (MIT)สถานศึกษาชื่อดัง มุ่งตรงไปยังมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University)
ทางมหาวิทยาลัยกำลังมีกิจกรรมออกร้าน มีร้านขายอาหาร เสื้อผ้า หนังสือเครื่องใช้ต่างๆ แบบตลาดนัดบ้านเราแต่สวยกว่า และยังมีขบวนพาเหรดให้ได้ได้ชมเป็นบุญตาอีกด้วย
อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนเลย ทำให้สามารถเดินชมงานได้อย่างเพลิดเพลิน เจริญใจ เราแวะซื้อฮอทดอกแท้ของอเมริกัน และของหวานเป็นแป้งโรยน้ำตาลไอซ์ซิ่ง อร่อยมากทั้งของคาวของหวาน
นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมแจก Hot Dog ฟรี เลยไปเข้าแถวลองรับมาชิมดู ปรากฏว่าอร่อยเท่ากันกับแบบเสียเงินเลย
เราเดินไปแสดงความเคารพและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่บริเวณ King Bhumibol Adulyadej Birthplace Monument สถานที่ที่พระองค์ประสูติ
ได้พบคนไทย ที่พาลูกมาเรียนมัธยมปลายที่นี่ด้วย พูดคุยกันอย่างถูกอัธยาศัย ด้วยความรู้สึกร่วมคือปลื้มใจที่คนไทยในต่างแดนยังสำนึกในสถาบันพระมหากษัตริย์ สำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
เดินไปเยี่ยมชมรูปปั้นผู้ให้กำเนิด Harvard University ซึ่งมีคิวถ่ายรูปด้วย และทุกคนก็จะเอามือสัมผัสที่รองเท้าข้างซ้ายจนเป็นมันแปล้บ โดยมีความเชื่อว่า ใครก็ตามที่สัมผัสตรงนี้ จะได้ย้อนกลับมาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้
สมัยเมื่อลูกยังเล็กมาก ตอนที่ผู้เขียนมาศึกษาต่อโรคภูมิแพ้ที่สหรัฐอเมริกา ลูกก็ได้แวะมาสัมผัสรองเท้าข้างซ้าย และสุดท้ายลูกก็ได้มาเรียนที่ Harvard จริงด้วย
วันนี้หมอติ้งไม่กล้าเอามือสัมผัส แต่ใช้นิ้วแตะ ให้เหตุผลว่า กลัวต้องมาเรียนหนังสือตอนสูงวัย ขี้เกียจเรียนแล้ว
ส่วนผู้เขียนเอามือไปสัมผัสเต็มๆ คงต้องติดตามกันต่อไปว่า จะมีเหตุอะไรทำให้ต้องกลับมาศึกษาที่ Harvard หรือไม่
ส่วนตอนค่ำ ก็เป็นการแสดงคอนเสิร์ตของ Calum Scott ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดัง ในบรรยากาศของการแสดงคอนเสิร์ตอยู่ในโรงละครหรือหอแสดงดนตรีที่เก่าแก่ของเมืองบอสตัน
ต้องบอกว่านักร้อง นักดนตรี ระบบเครื่องเสียงดีมากๆ บรรยากาศความขลังและเก่าแก่ของสถานที่มาประกอบด้วยแล้ว ทำให้ได้อรรถรสในการชมคอนเสิร์ตอย่างดียิ่ง จบออกมาด้วยความประทับใจ
โฆษณา