Blockdit Logo (Mobile)
ลงทุนแมน
ยืนยันแล้ว
•
17 ต.ค. เวลา 03:30 • ธุรกิจ

Pat Flynn จากคนตกงาน สู่เศรษฐี 100 ล้าน แห่งวงการ Affiliate

ปัจจุบันนายหน้าขายของออนไลน์ หรือ Affiliate
กลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพยอดนิยม เพราะมีส่วนแบ่ง
รายได้เข้ามา โดยไม่จำเป็นต้องมีสินค้าเป็นของตัวเอง
1
ซึ่งบางครั้งก็ทำให้คนคนหนึ่ง รวยจนกลายเป็น
เศรษฐีร้อยล้านได้
เรากำลังพูดถึงคุณ Pat Flynn อดีตสถาปนิกที่ตกงาน
แล้วผันตัวมาทำอาชีพนายหน้าขายของออนไลน์ จนเป็นหนึ่งในคนรวยสุดจากวงการนี้ไปแล้ว
เส้นทางชีวิตของคุณ Pat Flynn เป็นอย่างไร ?
เขามีเทคนิคอะไร ที่ทำให้ประสบความสำเร็จในวงการ Affiliate
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
จริง ๆ คุณ Pat Flynn มีความฝันอยู่แล้วว่า สักวันหนึ่งเขาต้องเป็นนักธุรกิจให้ได้ แต่สุดท้ายแล้ว ความฝันกับความเป็นจริงก็อาจจะไม่เหมือนกัน
เพราะเขาเริ่มต้นอาชีพเป็นสถาปนิก และเพื่อให้มีรายได้
มากขึ้น เขาจึงไปสอบวัดความรู้ LEED ที่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการออกแบบอาคารสีเขียวของวงการสถาปนิก
เส้นทางสถาปนิก ที่มีใบรับรอง LEED กำลังจะสวยหรู
แต่โชคชะตาก็เหมือนเล่นตลกกับเขา เพราะในปี 2008
เขาถูกไล่ออกจากงานแทน..
ซึ่งนี่ไม่ใช่เพราะคุณ Pat Flynn ทำผิดอะไรเลย แต่ตอนนั้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังตกต่ำ วงการอสังหาริมทรัพย์ ล้มพังพินาศไม่เป็นท่า จากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์พอดี
คราวนี้เขากลายเป็นคนที่มืดแปดด้าน ทั้งตกงาน แถมยังต้องหารายได้เลี้ยงครอบครัวอีก
แต่ในความโชคร้าย ก็ยังมีแสงสว่างเล็ก ๆ อยู่ เมื่อเพื่อนสถาปนิกของเขา มาขอชีตสรุปเนื้อหาเตรียมสอบ LEED แล้วบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มันดีมาก
และไม่ได้บอกว่าเนื้อหาดีแค่อย่างเดียว แต่ยังถามว่า
จะขายเอกสารนี้ในราคาเท่าไรอีกด้วย
จากที่เคยมืดแปดด้าน คุณ Pat Flynn ก็เห็นโอกาสทำเงินจากการขายชีตสรุปตรงนี้ได้
เขาจึงเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกิจตรงนี้ว่าจะขายชีตสรุปนี้อย่างไร พร้อมกับการตั้งเป้าหมายว่า เมื่อใครก็ตามอ่านแล้ว จะต้องสามารถสอบผ่านได้
1
จนในที่สุดก็ออกแบบโมเดลธุรกิจแรก ด้วยการเปิด
เว็บไซต์ขึ้น ให้คนเข้ามา จากนั้นก็ซื้อผ่านบัญชี PayPal แล้วชีตสรุปชุดนี้ก็จะถูกส่งไปที่อีเมลของคนซื้อ
โดยชีตที่ว่านี้ มีราคาอยู่ที่ 19.99 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแค่เดือนแรก เขาสามารถทำเงินจากตรงนี้มากถึง 7,008 ดอลลาร์สหรัฐ เลยทีเดียว
หรือคิดเป็นเงินปัจจุบัน ก็อยู่ราว 334,000 บาท
ซึ่งมากกว่ารายได้ต่อเดือน ตอนที่เขายังทำงานเป็นสถาปนิกถึง 3 เท่า
แถมเขายังหารายได้เพิ่มเติมจากการแปะลิงก์โฆษณาบนเว็บไซต์ของตัวเอง ทำให้มีส่วนแบ่งรายได้ เมื่อมีผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ของเขาคลิกเข้าไปดูในลิงก์นั้น
2
จากจุดเปลี่ยนตรงนี้เอง ทำให้เขาสนใจหารายได้จากธุรกิจออนไลน์จริงจังมากขึ้น โดยเปิดเว็บไซต์เพิ่มเติม
ที่ชื่อว่า Smart Passive Income
ซึ่งตอนแรกเป็นเว็บไซต์ที่เล่าเกี่ยวกับการหารายได้แบบ Passive Income ของเขา แต่เมื่อมีคนเข้ามาที่เว็บไซต์มากขึ้นเรื่อย ๆ เขาก็มองเห็นโอกาสทำเงินอีกครั้ง
โดยใช้โมเดลที่เรียกว่า นายหน้าขายของออนไลน์ หรือ Affiliate ในปัจจุบัน ที่เอาสินค้าต่าง ๆ มาโปรโมต ซึ่งเขาจะได้รับค่านายหน้า จากการที่ลูกค้าซื้อสำเร็จในแต่ละครั้ง
แต่สิ่งที่คุณ Pat Flynn ทำ ไม่ได้ยัดเยียดการขายของให้ลูกค้าแบบตรง ๆ เพราะเขาเลือกสินค้าที่ตัวเองใช้อยู่แล้ว พร้อมสอนวิธีด้วยว่า จะใช้สินค้าอันนั้นอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด
ยกตัวอย่างเช่น บริการเว็บโฮสติง Bluehost สำหรับคนสร้างเว็บไซต์ เขาสอนวิธีการใช้ด้วยตัวเองว่ามันดีอย่างไร
เริ่มตั้งแต่การใช้งานเริ่มต้น ไปจนถึงการใช้งานขั้นสูง
หรือถ้าหากผู้ใช้งานเจอปัญหาแบบนี้ เขาก็จะแนะนำว่าควรแก้ปัญหาอย่างไร จนทำให้ผู้ใช้งานไว้ใจ และตัดสินใจซื้อในที่สุด
ด้วยวิธีคิดแบบนี้เอง ทำให้คุณ Pat Flynn ขายสินค้า
อื่น ๆ ในแบบเดียวกัน แถมยังขยายช่องทางการทำ Affiliate ไปทั้ง YouTube Channel และ Podcast เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าให้กับตัวเอง
1
ซึ่งไม่ได้มีแค่คอนเทนต์สอนการใช้งานสินค้าแค่อย่างเดียว แต่ยังมีคอนเทนต์สัมภาษณ์และแนะนำแนวทางการทำธุรกิจ ให้สำหรับคนทั่วไปที่ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจนายหน้าขายของออนไลน์อีกด้วย
นอกจากนี้คุณ Pat Flynn ยังเขียนหนังสือที่บางคนอาจจะเคยเห็นผ่านตามาบ้าง อย่าง “วิถีผู้ชนะฉบับคนเก่งแบบเป็ด”
จุดเปลี่ยนและการเห็นโอกาสที่เข้ามา โดยไม่ปล่อยผ่านไป ทั้งหมดนี้เอง ก็ทำให้คุณ Pat Flynn กลายเป็นหนึ่งในเศรษฐีร้อยล้านแห่งวงการ Affiliate แม้ไม่ได้มีสินค้าเป็นของตัวเองเลยด้วยซ้ำ
ซึ่งมีการประเมินว่า คุณ Pat Flynn มีทรัพย์สินประมาณ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 100 ล้านบาท
แต่ถึงจะไม่มีสินค้าเป็นของตัวเอง อย่างหนึ่งที่
คนทำ Affiliate หรือไม่ว่าจะขายอะไรก็ตาม ต้องมีเลย ถ้าอยากประสบความสำเร็จ นั่นคือ ความจริงใจที่ต้องมีให้กับลูกค้า และช่วยให้ลูกค้าแก้ปัญหาด้วยสินค้านั้นได้
เพราะคนเรา คงไม่ชอบการขายของแบบยัดเยียด แต่จะซื้อของชิ้นนั้น ก็ต่อเมื่อเราเห็นคุณค่าหรือรู้สึกอยากได้มันจริง ๆ..
โฆษณา