ประวัติอัลมัรฮุมบาบอเลาะห์ ซาเราะห์ อัลญารูมีย์ รอฮีมาฮุลลอฮฺ โต๊ะครูผู้ก่อตั้งปอเนาะ
Almarhum.Tuanguru.Hj.Abdullah Sarah Al-jarumi Rohimahullah
จากคำบอกเล่าของ.. บาบอรอซีดี ปอเนาะตือปุส
ท่านอัลมัรฮุมบรมครูอับดุลลอฮ์เลาะห์ ซาเราะห์ อัลญารูมีย์ รอฮีมาฮุลลอฮฺ มีชื่อว่า อับดุลลอฮฺ บิน อิดรีส บิน อิสมาอีล บิน วันมุฮัมหมัด อัลญารูมีย์ (เชคญารูม) โดยท่านได้สืบเชื้อสายมาจาก ซัยค์อิบรอฮีม อัล-ฮัดรอมี(เยเมน) รอหีมาฮุลลอฮฺ
ซึ่งมีอุลามาอฺ์อาวุโสของแผ่นดินมลายูมากมายนักทั้งจากฝั่งมาเลเซียและฝั่งฟาฏอนีย์ ที่สืบเชื้อสายมาจากท่านซัยค์อิบรอฮีม อัลฮัดรอมีย์ ไม่ว่าจะเป็นสายตระกูลซัยค์ต่วนมีนาล สายตระกูลซัยค์อิดรีสโต๊ะราญอ
จัมมู(เจ้าเชื้อสายยะหริ่ง) สายตระกูลซัยค์วันอับดุลลาตีฟโต๊ะดูกูและตะโละมาเนาะ และสายตระกูลซัยค์ญารุม
ท่านบาบอเลาะห์ ซาเราะห์ อัลญารูมีย์ ได้ถือกำเนิดที่หมู่บ้าน มืองูบาซาเราะห์ ต.กระโด อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ค.ศ.1943 มารดามีชื่อว่า มัยมูนะห์ บินตี เจะนิ บิน เจะเตะห์ โดยที่ท่านเป็นบุตรคนที่ 3 จากพี่น้องทั้งหมด 11 คน
เริ่มแรกท่านได้รับการศึกษาจาก บรมครูฮัจยีอุมัร บ้านโฆล(ใกล้ๆกับบ้าน ปูเลา รอตัน ซาเราะห์)
หลังจากนั้นท่านก็ได้ศึกษาต่อที่ปอเนาะบือแนบาแด กับท่านบรมครู ฮัจยีอิสมาอีล บิน อิดรีส หรือที่รู้จักกันในนาม ปะดอแอบือแนบาแด และ ท่านบรมครู ฮัจยี อับดุรรอซีด บิน อับดุลลาตีฟ หรือที่รู้จักกันในนามเปาะซูเซะ บือแน
บาแด เป็นระยะเวลา5ปี
หลังจากนั้นท่านได้ไปศึกษาต่อที่ปอเนาะดาลอกับ ท่านบรมครู อัล-อาลามะห์ ซัยค์อับดุรเราะห์มาน(โต๊ะดาลอ) และท่านบรมครู อัล-อาลามะห์ ซัยค์ฮูเซ็น กะลูบี รอฮีมาฮุลลอฮฺ เป็นระยะเวลา 11ปี ในขณะเดียวกันท่านก็ได้เข้าไปศึกษากับท่านบรมครู อัล-อาลามะห์ ซัยค์ยาซีน รอฮีมาฮุลลอฮฺ ที่ปอเนาะโตะโคะ ตาลีอาย อีกด้วย
#*บรรดาคณาจารย์ของท่าน ณ ดินแดนฟาฏอนีย์
1.ซัยค์อัล-อาลามะห์ ฮัจยีอุมัร บ้านโฆล
Shyke Al-Alamah Hj.Umar Bangol
2.ซัยค์อัล-อาลามะห์ ฮัจยีอิสมาอีล บิน อิดรีส หรือที่รู้จักกันในนาม ปะดอแอบือแนบาแด
Tuanguru h.j ismael bin idris (padaeil benaebadam)
3.ซัยค์อัล-อาลามะห์ ฮัจยี.อับดุรรอซีด บิน อับดุลลาตีฟ หรือที่รู้จักกันในนามเปาะซูเซะ บือแนบาแด Tuanguru hj.abdulroseed bin abdullatif (Poksu sef)
4.ซัยค์อัล-อาลามะห์ ฮัจยี.อับดุลกอเดร์ ปอเนาะสือกัม หรือที่รู้จักกันในนาม อาเยาะห์เดร์ สือกัม
Tuanguru hj.abdulgoder (Ayah der sekam)
5.ซัยค์อัล-อาลามะห์.ฮัจยี.อับดุลลอฮฺ ญาบี ปอเนาะปอฮนดูเรียน ยะหา เจ้าของตำรา อุมดะห์ฯ ซาเราะห์ฟารีดะห์
Tuanguru hj.abdullah yabi (Babalah yabi)
6.ซัยค์อัล-อาลามะห์.ฮัจยี อะหมัด ปอซัน
Tuanguru hj.ahmad posan (baba ma posan)
7.ซัยค์อัลลามะห์ ฮาญีอับดุรเราะห์มาน ปอเนาะปายอนากอ เจ้าของตำรามุคตะศ้อร อัซซาฟี วิชาอะรุด
Tuanguru hj. abdulrohman(Pondok payanako)
8.ซัยค์อัลลามะห์ นิอับดุรเราะห์มาน ปอเนาะฆือล่องมานี
Tuanguru.hj.niabdulrohman(gelong mani)
#*ออกไปศึกษาต่อที่เมกกะห์..ซาอุ
หลังจากนั้นท่านได้ไปศึกษาต่อที่แผ่นดินฮะรอม มหานครมักกะห์ และก่อนที่ท่านจะเดินทางไปศึกษาต่อนั้น ท่านได้แต่งงานกับสตรีนางหนึ่งที่ทางครอบครัวได้จัดหาให้ ซึ่งมีชื่อว่า อามีนะห์ บินตี มุฮัมหมัด ซึ่งก็มาจากตระกูลของซัยค์ญารุมเช่นกัน แต่ทว่าหลังจากที่ท่านได้ศึกษาที่มหานครมักกะห์ได้ไม่นาน ภรรยาของท่านก็เสียชีวิตลง
โดยท่านได้มีบุตรีกับนางอามีนะห์คนนี้ด้วยกัน 1 คน และเนื่องจากท่านเป็นเขยอันเป็นที่รักใคร่ของครอบครัวพ่อตาแม่ยาย ทางครอบครัวของพ่อตาแม่ยายจึงได้ยกลูกสาวอีกคนซึ้งมีชื่อว่า อาซียะห์ ให้แต่งงานกับท่าน เพื่อทดแทนภรรยาที่ได้เสียชีวิตไป และได้มีบุตรและบุตรีกับภรรยาคนนี้ด้วยกันอีก 11 คน
#*การศึกษา ณ มหานครมักกะห์
ท่านได้ศึกษากับอุลามาอฺมลายูนามอุโฆษที่ได้พำนัก ณ แผ่นดินมักกะห์ และอุลามาอฺอาหรับหลายท่านด้วยกันเช่น
1.ซัยค์อัลลามะห์ ครูเซ็น สุราษฎ รอฮีมาฮุลลอฮฺ
2.ซัยค์อัลลามะห์ ครูลี ไชยา รอฮีมาฮุลลอฮฺ
3.ซัยค์อัลลามะห์ ซอและห์ เจ๊ะเฮ รอฮีมาฮุลลอฮฺ
4.ซัยค์อัลลามะห์ อับดุลญาลีล อินโดนีซีย์ รอฮีมาฮุลลอฮฺ
5.ซัยค์อัลลามะห์ อับดุลการีม อัลบันญารีย์ รอฮีมาฮุลลอฮฺ
6.ซัยค์อัลลามะห์ ดาวุด อัลกลันตานีย์ รอฮีมาฮุลลอฮฺ
7.ซัยค์อัลลามะห์ ฮะซัน อัซซังกีตีย์ รอฮีมาฮุลลอฮฺ
8.ซัยค์อัลลามะห์ ฮาบีบ อัซซัยยิด อาลาวีย์ อัลมักกีย์ รอฮีมาฮุลลอฮฺ
9.ซัยค์อัลลามะห์ ฮาบีบ อัซซัยยิด มุฮัมหมัด บิน อาลาวีย์ อัลมักกีย์ รอฮีมาฮุลลอฮฺ
10.ซัยค์อัลลามะห์ อับดุลลอฮฺ อัลละหฺญี รอฮีมาฮุลลอฮฺ เจ้าของตำรา กอวาอิด ฟิกกียะห์
11.ซัยค์อัลลามะห์ อามีน อัลกัตบีย์ รอฮีมาฮุลลอฮฺ
12.ซัยค์อัลลามะห์ อับดุลลอฮฺ สะดาวา อัลฟาฏอนีย์ รอฮีมาฮุลลอฮฺ
13.ซัยค์อัลลามะห์ อับดุลลอฮฺ อัลกาตีรีย์ รอฮีมาฮุลลอฮฺ
14.ซัยค์อัลลามะห์ มังซูร อัลอินดูนีซีย์ รอฮีมาฮุลลอฮฺ และอีกหลายๆท่าน
#*บรรดาลูกศิษย์ของท่านบาบอเลาะห์..
ส่วนหนึ่งที่กล่าวมานั่นเปิดปอเนาะอยู่แถบปาตานี..มาเลเซียและอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น
1.ต่วนฆูรูอะห์หมัดรีฏออุดดีน
Tuanguru Ahmad ridouddin
2.บาบออับดุลกอเดร์ บินฮาญีอาลี ปอเนาะฮูตัน ฮาฆุส นราธิวาส.
Tuanguru.baba Abdulqodir hj.alee PondokHutae hagus Maiken patani
3.บาบอศอและห์ ปูเจ ปอเนาะอัซซากอฟะห์ กัวลากือรัย ร้ฐกลันตัน.
Baba.Soleh Pujea Pondok.Assaqofah kuala kerai klantan malaysia
4. บาบอยะห์ยา บินมูฮัมหมัด ฮูซัยน์ ปอเนาะ มูก็อรรอบีน นราธิวาส
Tuanguru.Yahya b.muhammad Husein Pondok muqorrobin Naratiwat patani.thailand
5.บาบออาบูกูตัยบะห์ รอชีดี อับดุลเราะห์มาน อัลฟาฎอนี
Tuanguru.Abuqutaibah Rosidee Abdulrohman
บาบอ อาบูกูตัยบะห์ รอซีดี ตือปุส
6.บาบออับดุลเลาะห์ ปอเนาะปูโกะสะนอ เคดาห์ มาเลเซีย
Tuanguru Abdulloh Pondok pukoseno kedoh
7.บาบออาชิกอีลาฮี ปอเนาะกุบะห์ ปันดัง รัฐเคดาห์
Tuanguru.Asielahee Pondok kubah kedah
8.บาบออุสมาน บินยูโซฟ ปอเนาะ ตันญง โกตาบารู มาเลเซีย Tuanguru.Usman b.Yusuf Pondok.tanyong kotabaruMalaysia
9.บาบอฮายี อิสมาแอล บินฮาญี อาวัง
Tuanguru.hj.Ismael b.Hj.Awang
10.ซัยค์ตาญุดดีน บินมูฮัหมัด ญาลีล กำปง กามูติง ไตเปง มาเลเซีย
Shyke.Tayuddin b.muhammad.Yalil kamuting Taipeng malaysia
11.บาบอยูโซฟ ปอเนาะ ตนยง โกตาบารู มาเลเซีย
Tuanguru.Usuf Pondok Tonyong katabaru.Ml
12.บาบอรอมลี ตาก็อดดัม บาบอลี ปือเกา
Baba.Romlee Taqoddam Baba.Lee Bergao
13.บาบอศอลาฮุดดีน.อะห์หมัด.ปอเนาะอิดรีซิยยะห์ ฟาฎอนี
Tuanguru.Solahuddin Ahmad.pondok Idriciyah
14.บาบอดาว์ด บินอับดุลรอชีด
Tuanguru.baba.Dawud b.Abdulroseed
15.บาบออะห์หมัด รังโกะ
Tuanguru Ahmad.Rinko'e
16.บาบออะห์หมัด โคกสุมุ เป็นเขยของท่าน
Baba.Ahmad Goksumu Menantu.Baba
17.บาบออับดุล รออุฟ ปอเนาะ เปอมาตัง เคดาห์ .ม.ซ
Baba.Abdulrouf Pondok.pematang Kedah Ml.
18.เชค อับดุลรออุฟ เคดาห์ มาเลเซีย
Shyke.Abdulrouf Kedah.Malaysia
19.บาบอซัยดี ปอเนาะ ปายอ นีดัม ปันดัง เคดาห์
Baba.Saidee Pondok.Paya Nidam Kedah.M.l
20.บาบอรุสลี มันบุก รัฐเคดาห์ มาเลเซีย
Baba Ruslee Mambuk Kedah Malaysia
21.บาบอนีซอมและมามานาปีเซาะห์ ปอเนาะปันตัยเมอรดีกอ รัฐเคดาห์ มาเลเซีย
Baba Nizom dan Mama H.jah Napisohpondok PantaiMerdeka Kedah Malaysia
ในปี ค.ศ.1974 ท่านก็ได้เดินทางกลับสู่มาตุภูมิ และปี ค.ศ.1975 ท่านก็ได้สานต่อปอเนาะอันเป็นเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษของท่านที่ได้ปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานพอสมควร โดยท่านได้ดำเนินตามแนวทางการสั่งสอนของท่านครู(โต๊ะดาลอ) ทีว่า “จงเผยแพร่ศาสนาของอัลลอฮฺตะอาลา ด้วยหัวใจที่อิคลาศและอย่าได้ให้คนนอกมาวุ่นวายยุ่งเกี่ยวกับการงานศาสนาของพระองค์”
ท่านได้ทำการสอนวิชาต่างๆโดยใช้ตำราที่เป็นที่ยอมรับและรู้จักกัน กีตาบญาวีเช่น ฟารีดะห์ (faridah) ดุรุสสะมีน (durussamin) สีรอญุลฮุดา (siroyulhuda) อะกีดะตุนนาญีน (akidatulnajin) บุฆยะตุตตุลลาบ (buqyatultulab) ฟุเราะมาสาอีล (furohmasael) บะหรุลมาซีย์ (bahrulmasie) เป็นต้น
ส่วนกีตาบอาหรับเช่น กีฟายะตุลเอาวาม(kifayatul awwam) อับดุสสลามabdusalam มะตั่นซานูซีย์(matansanusi) อากออิดนะสาฟียะห์ (agoeid nasafiyah) ดุซูกีย์ (dusuki) บัยญูรีย์ (balyuri) ตุหฟะตุลมุรีด (tuhfatulmureed) อิอานะห์ (eiarnah) อิกน๊าก (eiknak) ตะหรีร (tahrir) ฮาซียะห์ก้อลยูบีย์ (asiyah golyubi) เป็นต้น
และยังมีอีกมากมายนักตำราที่ท่านได้ทำการสอนตลอดชั่วอายุขัยของท่าน โดยโปรแกรมการสอนของท่านนั้นจะเริ่มตั้งแต่ 7.30น. จนถึง เที่ยงคืน บางครั้งแม้กระทั่งท่านเพิ่งกลับมาจากเดินทางไกลแต่ยังมีเวลาสำหรับการสอนของช่วงนั้นๆอยู่ ท่านก็จะทำการสอนในทันทีโดยที่ท่านยังไม่ได้พักผ่อนจากการเดินทางไกลนั้นเลย
#ผลงาน
ตลอดระยะเวลาการสอน 41ปี ของท่าน ท่านได้ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพให้แก่สังคมมุสลิมมากมาย มีลูกศิษย์ที่เป็นบาบอนับร้อยคน เท่าที่รวบรวมบันทึกได้ ก็ปาเข้าไปตั้ง80คนแล้ว และที่ไม่ได้บันทึกไว้ก็มีอีกมาก และยังมีอีกมากมายนักในบรรดาลูกศิษย์ของท่านที่กลับไปรับใช้สังคมในฐานะอุสตาซ เจ๊ะฆู โต๊ะอิหม่าม คอเตบ บีหลั่น โต๊ะลือบัยและอื่นๆ
ท่านบรมครูบาบอเลาะห์ซาเราะห์ ได้เขียนตำราไว้เพียง 1 เล่มเท่านั้น ซึ่งมีชื่อว่า ตัซกีเราะห์ อัลฆ้อฟละห์ ฟี บายานี อัสรอรรีศศอลาต Taskiroh Al-qoflah Fi bayanee Asrorissolawat ซึ่งมีเนื้อหาที่ว่าด้วย ความเร้นลับในเรื่องของการละหมาดตั้งแต่การตักบีรจนกระทั่งถึงการให้สลาม.**ชื่อกีตาบเขียนผิดก็ขออภัยด้วยนะครับ วาลลอฮูอา'ลัม ผู้รู้โปรดแก้ไขในช่องคอมเม้นด้วยคับ
ท่านคืออุลามาอที่เลื่องลือท่านหนึ่ง ที่ทำการตอบโต้แนวทางของพวกวะห์บีในดินแดนฟาฏอนีย์ บาบอเลาะห์ท่านเป็นคนที่อาเล็มในวิชาความรู้ นาฮูและซอรอฟ และอูศูลลุดีน เป็นพิเศษกระทั่งท่านถูกให้ฉายาว่า “ซีบาแวะห์ “ เพราะความอาเล็มของท่านในวิชานาฮูซอรอฟจนถึงวาระสุดสุดท้ายของชีวิต
ท่านได้ทำการดีเบต กับท่านบรมฮัจยี อับดุลลอฮฺ บือนัง
กือบง ในเรื่อง การเลี้ยงอาหารอุทิศผลบุญให้ผู้ตาย การเฝ้ากุโบร์และอื่นๆ ซึ่งทำให้โต๊ะครูบือแนกือบงพ่ายแพ้ต่อท่าน จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วในขณะนั้น ซึ่งขณะนั้นท่านยังหนุ่มอยู่ และลูกชายคนโตของท่านเพิ่งมีอายุได้เพียง40วันเท่านั้น
ท่านเคยทำการสอน ณ แผ่นดินมักกะห์ด้วย
ท่านเคยดำรงตำแหน่ง ประธานสภาอุลามาอฺฟาฏอนีย์ ต่อหลังจาก ท่านบรมครู อัลลามะห์ ซัยค์ฮูเซ็น กะลูบี ดาลอ
และท่านได้กลับคืนสู่ความเตตาของอัลลอฮฺตะอาลา เมื่อ 12 /11/ 2014 สิริอายุรวม 71ปีเศษ
ปอเนาะบึนแนปาแด ยะรัง ปัตตานี
เรืองราวจากโต๊ะครู บาบอรอซีดี ตือปุส
ปอเนาะบือแนบาแด และ เพจ เดอะรีวิวนิว
ข้อมูลถูกผิดโปรดชี้แนะแนะนำให้ถูกต้องด้วยครับ(ผู้รู้)
วาลลอฮูอา'ลัม
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
