17 ต.ค. เวลา 08:45 • ไอที & แก็ดเจ็ต

มิจ VS เอไอ งานนี้ใครจะชนะ?

“คุณมีหนี้ค้างชำระ”
“คุณเป็นผู้ต้องสงสัยว่าพัวพันกับฟอกเงิน”
“คุณเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลใหญ่”
สารพัดมุกที่หลอกให้เราตายใจจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เริ่มไต่ระดับความแอดวานซ์ขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้คนที่ไม่ได้ชั่งใจหลงตกเป็นเหยื่อ 😢
🚨 เชื่อหรือไม่ว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของคนไทยกว่า 9,360 คน พบกว่า 1 ใน 4 หรือ 28% ของผู้ตอบแบบสอบถามตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพในช่วง 12 เดือน
🚨โดย 1 ใน 3 สูญเสียเงินให้มิจฉาชีพภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากนั้น และ 1 ใน 4 ของคนไทยโดนมิจฉาชีพหลอกเงินโดยเฉลี่ย 36,000 บาทต่อรายเลยทีเดียว
ไม่ใช่แค่ในไทยเท่านั้น แต่ทั่วโลกต่างประสบปัญหาการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเช่นกัน แถมยังอัปเลเวลการหลอกลวงด้วยการนำ AI มาปลอมเสียง หรือใช้ deepfake เพิ่มความเนียนเข้าไปอีก หลายหน่วยงานจึงทดลองหาวิธีการป้องกันต่าง ๆ ให้ได้ผล หนึ่งในนั้นคือการนำ AI มาช่วยคัดกรอง แก้เผ็ดเหล่ามิจฉาชีพเช่นกัน
ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Macquarie ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ได้พัฒนาและเปิดตัว “APATE.AI” ระบบ AI นำร่องเพื่อป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์ 📞
APATE.AI เป็น AI แชทบอทที่จะช่วยคัดกรองเบอร์โทรที่น่าสงสัยและรับสายแทนเรา จากนั้นจะหลอกให้มิจฉาชีพคุยกับแชตบอตด้วยเสียงเสมือนที่นำโมเดลของ ChatGPT มาใช้ โดยยังสามารถสร้างบุคลิก และน้ำเสียงได้หลายรูปแบบ
ทีมวิจัยยังเผยว่า บทสนทนาที่ APATE ใช้คุยและสร้างตัวตนนั้น อ้างอิงกับบทสนทนาจากมิจฉาชีพจริง ๆ ที่ไม่ใช่เพียงแค่ทางโทรศัพท์เท่านั้น แต่ยังมาจากอีเมล และข้อความในโซเชียลมีเดียด้วย
ซึ่งจากการทดลอง APATE.AI สามารถหลอกให้มิจฉาชีพเสียเวลาได้ประมาณ 5 นาที และตั้งเป้าว่าจะทำให้ได้ถึง 40 นาที พร้อมหวังว่า APATE.AI จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อสู้กับการหลอกลวงทางโทรศัพท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ว่า APATE.AI จะยังคงต้องพัฒนาต่อไป แต่สำหรับคนไทยที่ยังมองหาวิธีรับมือกับมิจฉาชีพและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็สามารถคัดกรองเบอร์โทรที่ไม่รู้จักได้ ด้วยการใช้ Whoscall แอปพลิเคชันที่ช่วยกรองสายที่น่าสงสัย ผ่านระบบ AI เพื่อหลีกเลี่ยงการรับสายแปลก ๆ ได้เช่นกัน
โฆษณา