18 ต.ค. เวลา 07:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ผลกระทบภัยแล้ง! ส่งผลกระทิสด “แพงขึ้น” 19.08 บาท/ผล

“พาณิชย์” แจงราคากะทิสดปรับตัวสูง จากผลผลิตน้อยช่วงภัยแล้ง สั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบราคาใกล้ชิดไม่ให้กระทบประชาชน
กระทรวงพาณิชย์ เผยขณะนี้มะพร้าวผลแก่และกะทิสดราคาปรับตัวสูงขึ้น กระทบต่อราคาอาหารและขนมหวานหลายชนิดที่ใช้กะทิเป็นวัตถุดิบที่สำคัญ เนื่องจากผลผลิตในปี 2567 น้อยกว่าความต้องการใช้ จากภาวะฝนแล้งต่อเนื่อง รวมทั้งโรคแมลงศัตรูมะพร้าวระบาด ย้ำกรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดติดตามสถานการณ์ราคาใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชนผู้บริโภค
วิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และโฆษกกระทรวงพาณิชย์
นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีข่าวปัญหามะพร้าวผลแก่และกะทิสดในจังหวัดตรังมีราคาแพง กระทบราคาอาหารและขนมหวานหลายชนิดที่ใช้กะทิเป็นวัตถุดิบที่สำคัญ จึงมอบหมายให้กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์ราคามะพร้าวผลแก่และกะทิสดอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนผู้บริโภค พร้อมให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญ โดยส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจสุ่มตรวจสอบร้านค้าอย่างต่อเนื่อง
จากการตรวจสอบสถานการณ์มะพร้าวผลแก่และกะทิสด พบว่ามะพร้าวผลแก่เป็นสินค้าที่ออกสู่ตลาดตลอดทั้งปี โดยช่วงออกมาก (เม.ย. - ก.ค.) ราคาที่เกษตรกรขายได้เคลื่อนไหวอยู่ในเกณฑ์ต่ำ เฉลี่ย 5-9 บาท/ผล และช่วงออกน้อย (ส.ค. - มี.ค.) ราคาปรับสูงขึ้น เฉลี่ย 18-28 บาท/ผล
สำหรับปี 2567 กระทรวงเกษตรฯ คาดว่าจะมีมะพร้าวผลแก่ในประเทศประมาณ 0.86 ล้านตัน น้อยกว่าปีที่ผ่านมา (0.94 ล้านตัน) และน้อยกว่าผลผลิตย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี (ปี 64-66) ร้อยละ 8.51 และ 7.53 ตามลำดับ เนื่องจากภาวะฝนแล้งต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำฝนไม่เพียงพอกับความต้องการของมะพร้าว รวมทั้งโรคแมลงศัตรูมะพร้าวระบาด (แมลงดำหนาม หนอนหัวดำ และด้วงแรด)
ขณะที่ความต้องการใช้อยู่ที่ 1.19 ล้านตัน โดยเป็นความต้องการใช้ของตลาดผู้ค้าส่ง/ตลาดสด ร้อยละ 35 และโรงงานกะทิสำเร็จรูปร้อยละ 65 ทั้งนี้โรงงานฯ ได้นำเข้ามะพร้าวผลมาใช้ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ช่วยให้ภาวการณ์ขาดแคลนมะพร้าวผลภายในประเทศผ่อนคลายได้ระดับหนึ่ง
แนวโน้มราคามะพร้าวผลแก่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีก่อน ตามปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดน้อยปัจจุบัน (16 ต.ค. 67) ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 19.08 บาท/ผล
กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจะติดตามสถานการณ์มะพร้าวแก่และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญต่อเนื่อง หากพบผู้ประกอบการดำเนินการใด ๆ โดยจงใจที่จะทำให้ราคาสูงเกินสมควร หรือทำให้ปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้าหรือบริการใด จะดำเนินการตามกฎหมาย ประชาชนสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือทางแอพลิเคชั่น Line@MR.DIT และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ..... นายวิทยากร กล่าว
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/economic/234886
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา