18 ต.ค. เวลา 06:32 • หนังสือ
เรื่องอ่านพระไตรปิฎกนั่น มันไม่ยากมีตาดี อ่านออกเขียนได้ ก็จดจำได้ ปัญหาก็คือ เมื่ออ่านแล้ว เรามีการประพฤติปฏิบัติ ตามรอยของพระ รอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ว่าศีลสมาธิปัญญา ที่มันไม่ได้อยู่เราใช้สายตา เป็นอัตตาไปยึดเอาตัวหนังสือมานึกคิด บางเรื่องก็เป็นเรื่องราวของ ของพระพุทธเจ้า ที่ท่านตรัสสอน พระอัครสาวกของท่าน
คราวนี้สิ่งที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัส นั่น พระสุรเสียงของท่านก็ นั่นเหมือนดวงอาทิตย์ ที่แผ่รังสี เจ็ดสีเจ็ดแสงกระจายออกไป ไปสู่สิ่งที่เรียกว่า วิญญาณ ..วิญญาณหูของพระสาวกของท่าน ซึ่งพระสากของท่านก็เคยสะสมบุญกุศลบารมี มาจนเต็ม มาฟังธรรม ฟังในสิ่งที่ยังปกปิดจิตของตนเอง พอฟังแล้ว ท่านก็นำไปพิจารณา ปฏิบัติธรรมขึ้นมา จนบรรลุ ยุติสิ่งที่ให้เกิด สิ่งที่เป็นมนทินของจิต ที่มีกรรม ต้องมาเกิดแก่เจ็บตาย
เมื่ออ่านพระไตรปิฏก ก็อย่าลืมอ่านชาดกของตัวเอง สะสมอะไรมา .สะสมบุญมามาก หรือ ว่าสะสมกรรมมามาก ก็คือ เรื่องของศาสนาพุทธ ท่านชี้ให้สร้างบุญกุศลบารมี หนีเวรกรรม ลดละโลกโกรธหลง เพื่อยุติการเกิด หรือ ให้เกิดน้อยลงไป จิตออกจากกาย ก็ไปพักจิต ที่ที่มีความสุข เป็นเทพยดาอินทร์พรหม เพื่อหนีห่างจากดินแดนนรก ไปพักจิตด้วยบุญกุศลที่สร้างมาพยุงจิต .พักแล้วก็ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ เรื่งสร้างใหม่ ..ต่อเนื่องเป็นชาติๆ ไปพักที่ดุสิตดาวดึงส์ เพื่อจะเกิดมาเป็นมนุษย์สะสางเป็นชาติสุดท้าย
หากเราอ่านพระไตรปิฏก แล้วบุญก็ไม่รู้จัก บาปกรรมที่นำเกิดก็ไม่รู้จัก แล้วเราจะอ่านพระไตรปิฎกไปทำไม อ่านแล้วไม่นำมาสร้าง ไม่พิจารณา นำสร้างสิ่งที่เป็นคุณ มันก็หลีกหนีเวรกรรมไม่ได้เลย
โฆษณา