Maine Lobster ทริปชิมอาหาร อาจถือได้ว่า อร่อยมากติดอันดับหนึ่งของสหรัฐอเมริกา (Fall Foliage EP.3)
เช้านี้ตื่นขึ้นมาเร็วมาก ประมาณตี 4 แต่ถือว่านอนค่อนข้างพอแล้ว คือประมาณ 6 ชั่วโมง นอกจากนั้นระหว่างอยู่บนเครื่อง สามารถปรับตัวนอนหลับได้ค่อนข้างดี รวมระยะเวลาการนอนประมาณ 7-8 ชั่วโมง สำหรับการบินไฟลท์ 23 ชั่วโมง
อาหารเช้ามื้อนี้ เป็นไปแบบง่ายมาก แต่เป็นของชอบคือบะหมี่จากเมืองไทย โรยหน้าด้วยหมูหยองเจ้าโปรดแถวเสาชิงช้า เอร็ดอร่อยเป็นที่น่าพอใจ ตามด้วยแอปเปิ้ลลูกโตน่าทานที่ซื้อมาจากตลาดนัดของ Harvard เมื่อวันก่อน
จากนั้นก็เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม โดยขออนุญาตฝากกระเป๋าสัมภาระไว้ก่อน
ฟ้าดูมืดครึ้ม มีฝนปรอยปรอยมาตั้งแต่เมื่อคืน แต่ก็โชคดีมาก เพราะเราจะต้องเดินทางไปรับรถเช่าที่ห่างออกไป 12 นาที อยู่อยู่ฝนก็หยุดขึ้นมาเฉยเฉย
แต่เพื่อความปลอดภัย เราจึงถือร่มกันฝนไปด้วย คือกันไม่ให้ฝนตก แล้วก็ได้ผลจริงๆ
ตลอดทางเดิน 12 นาทีนั้น แม้ฟ้าจะครึ้มมาก แต่ไม่มีฝนตกเลย
หลังจากรับรถเช่าจาก Hertz ซึ่งเราเป็น Gold Member เพราะใช้บริการมาตลอด เนื่องจากราคาที่จองทางออนไลน์จากเมืองไทยในทุกครั้งจะเข้าใจง่าย เพราะรวมทุกอย่างไว้แล้ว ไม่ต้องมาเลือก option โน่น นี่ นั่น หน้าเคาน์เตอร์ชวนให้ปวดหัว และเสียเวลาในการตัดสินใจ
ได้รับบริการที่ดีมาก พอบอกว่ามีกระเป๋าใหญ่ 3 ใบ และ Carry on อีก 2 ใบ ทำให้ทางบริษัทอัพเกรดรถเราใหญ่ขึ้นทันทีเป็นเอสยูวี (SUV) โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เยี่ยมมากๆเลย
เมื่อติดตั้งมือถือกับรถยนต์ทั้งสองเครื่องแล้ว ไว้ช่วยคนขับและผู้ช่วยนำทางคนละหนึ่งเครื่อง ซึ่งของผู้ช่วยยังสามารถใช้ถ่ายวิดีโอและถ่ายรูปในระหว่างทางได้ด้วย
ขับรถตาม Google Maps ย้อนกลับโรงแรมใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็ถึง ตอนนี้ฝนเริ่มตกแล้ว คล้ายจะรู้ว่าเราไม่ต้องเดินแล้ว
ขนกระเป๋าขึ้นรถที่จอดหน้าโรงแรมพอดี เลยทำให้สะดวกมาก พนักงานมาช่วยเราขนกระเป๋าใส่ท้ายรถเอสยูวีได้ทั้งห้าใบ
จึงทำให้เหลือพื้นที่เบาะหลังทั้งหมด ไว้วางข้าวของต่างๆนาๆ ทั้งเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ หมวก กล้อง ของขบเคี้ยว และอื่นๆสารพัด
เมื่อเริ่มออกจากบอสตัน ฝนก็เริ่มโปรยปรายมากขึ้น เราจึงเปลี่ยนแผนทันที ตามสไตล์การท่องเที่ยวเฉพาะตัว คือยืดหยุ่นภายใต้แผนต่างๆที่วางไว้ ล่วงหน้า
เราเปลี่ยนจากการขับรถในเส้นทางรอง เพื่อดูชนบท ไปเป็นขับรถบนทางหลวงระหว่างมลรัฐ (Interstate) เพราะไม่มีแสงแดด
อย่างไรก็ตาม ยังคงได้บรรยากาศที่สวยงามมาก มีหมอกจางจาง ฝนโปรยปราย แต่ใบไม้เปลี่ยนสีตลอดสองข้างทางแล้ว ถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียว
เรามุ่งหน้าไปสู่รัฐ Maine ซึ่งอยู่ทางเหนือสุดและตะวันออกสุดของประเทศ
ปรับแผนมุ่งสู่ Kittery ซึ่งมีร้านอาหารชื่อดังคือ Bob’s Clam Hut ขาย Maine Lobster ซึ่งถือว่าดีที่สุดในฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ดีกว่าบอสตัน
มาถึงร้านแล้ว ก็ต้องถือว่าไม่ผิดหวัง และโชคดีที่มาก่อนเที่ยงเล็กน้อย จึงมีคิวสั้นมากรอเพียง 5 นาทีก็ได้อาหารแล้วปกติคนจะมารอคิวนานมาก ใช้เวลาเป็นชั่วโมง น่าจะเป็นเพราะฝนตกและไม่ใช่วันหยุดด้วย
อาหารอร่อยมากๆ หน้าตาน่าทาน เราสั่ง Lobster Roll แบบ Butter และ Mayo นอกจากนั้นยังได้ Fries แบบมันฝรั่งปกติและมันหวาน (Sweet Potato) พร้อมซุปแสนอร่อย รวมค่าเสียหายไปทั้งสิ้น 80 เหรียญ ถือว่าไม่แพง เพราะเนื้อ Lobster ล้วนล้วน ที่ไม่ต้องเสียเวลาแกะ ถ้าอยู่เมืองไทยราคานี้เอาไม่อยู่แน่นอน
บรรยากาศในร้านดู Local แบบชายฝั่งแอตแลนติกของภูมิภาค NewEngland ซึ่งเป็นยุคอาณานิคมรุ่งเรือง จึงมีกลิ่นอายของยุโรปคือประเทศอังกฤษ
แล้วเราก็ขับย้อนกลับทางเดิม จากเมืองคิดKittery กลับมาเข้ารัฐนิวแฮมป์เชียร์
โดยวันนี้ถือว่าเราขับรถผ่านถึงสามมลรัฐคือ Massachusetts, New Hampshire และ Maine
ทิวทัศน์สองข้างทาง แม้จะยังไม่พีค แต่ก็มีสีสันที่ใกล้พีค ฝนที่โปรยปรายลงมา ทำให้ภาพใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งจะแตกต่างอย่างมากกับเวลามีแสงแดดจัดในวันพรุ่งนี้
เมื่อเราขับรถมาถึงเมือง North Conway ซึ่งอยู่ใกล้ปากทางเข้าสู่ถนนสายสวยงาม (Scenic Highway) ชื่อ Kancamagus
ก็ได้แวะไปเที่ยว Echo Lake ซึ่งมีผิวน้ำที่เรียบเหมือนกระจกในยามที่ไม่มีลมพัด จ่ายค่าเข้าชมคนละ 4 เหรียญ
โดยได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่อย่างละเอียดมากว่า ควรจะเดินชมทิวทัศน์รอบทะเลสาบประมาณ 1 ไมล์ ใช้เวลา 15-20 นาที ก็เพียงพอ ไม่ต้องเดินรอบใหญ่ แล้วแนะนำให้ใช้เส้นทางลัด ขับรถขึ้นไปไปยังจุดชมวิวแสนสวย Cathedral
เราจึงไปเดินรอบทะเลสาบ ซึ่งน้ำใสจริงๆ ต้นไม้หลากหลายพันธุ์กำลังเปลี่ยนสี เพื่อเตรียมทิ้งใบรองรับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง สีสันสดใส น่าตื่นตาตื่นใจ
จากนั้นเราขับรถขึ้นไปจุดชมวิว Cathedral ต้องบอกว่าโชคดีที่คนค่อนข้างน้อย แล้วฝนหยุดตกพอดีด้วย แม้มีหมอกอยู่บ้าง
แต่พอเราไปถึงเพียงครู่ดียว ก็เกิดปรากฎการณ์หมอกจางหาย ให้เราได้ถ่ายรูป และมีบางช่วงแสงแดดโผล่ออกมาอีกด้วย ทำให้สีสันสดใส
แต่เพียงชั่วครู่เดียว ก็มีเมฆและหมอกมาบดบังทิวทัศน์ภาพทั้งหมด สงสารนักท่องเที่ยวที่ตามขึ้นมาอีกสองคัน ที่ไม่มีโอกาสจะได้ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสี เพราะหมอกบดบังภาพทั้งหมดโดยสมบูรณ์
ก่อนที่จะเข้าเขตเมืองจะต้องผ่านสะพานมีหลังคา ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาคลุม (Covered Bridge) เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นของภูมิภาคนี้เลยทีเดียว
ปิดท้ายของวัน ด้วยการแวะ Outlet เพื่อซื้อของที่มีราคาถูก บวกกับรัฐนี้ไม่มีภาษีในการซื้อของอีกด้วย
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
