19 ต.ค. 2024 เวลา 08:41 • ไลฟ์สไตล์

เมื่อผมลุกให้คนอื่นนั่งในรถสาธารณะ ก็เพื่อตัวผมเอง

มีบางเรื่องที่อยากเล่า
19 ตุลาคม 2567
ในยุคผมเติบโตมาเป็นวัยรุ่น
เราถูกหล่อหลอมจากคำว่า “สุภาพบุรุษ”
ที่หมายถึง ต้องช่วยเหลือ ต้องเสียสละให้ผู้อ่อนแอกว่า เช่น สตรี เด็ก ผู้พิการ คนชรา
เราถูกหล่อหลอมจากการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่ ที่คอยช่วยโลก ปกป้องผู้คนจากเหล่าร้าย คนพาล
เราถูกหล่อหลอมจากนวนิยายกำลังภายใน ที่ “วีรบุรุษ” เฝ้าผดุงคุณธรรม โดยไม่ต้องการผลตอบแทน หรือ เป็นที่รู้จักใดๆ
ดังนั้น เรื่องพื้นฐานที่ทำได้ คือ เสียสละจากเรื่องใกล้ตัว เช่น เมื่อขึ้นรถเมล์ ก็ลุกให้คนอื่นเราคิดว่าอ่อนกว่าได้นั่ง โดยไม่อิดออด
และคนที่ได้รับการสละที่นั่งก็จะแสดงน้ำใจกลับ โดยการช่วยถือของเช่น กระเป๋านักศึกษา กระเป๋านักเรียน จนกว่าใครจะลงก่อน
และการทำตัวแบบนี้ ก็อยู่ใน DNA จนถ้าไม่ทำ ก็จะรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี มีเสียงก่นด่าตัวเองอยู่ในหัว
ผมทำแบบนี้ ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ในไทย หรือ ต่างประเทศ
ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว
ในเส้นทางช่วงวันหยุดที่คนไม่ได้มากนัก
ผมนั่งรถไฟสายยามาโนเตะ ในกรุงโตเกียว
ออกจากที่พักเพื่อไปเจอเพื่อนๆแถวชิบูย่า
ระหว่างที่นั่งทอดอารมณ์ในขบวนรถไฟ
ก็สังเกตเห็นคู่สามีภรรยาหนุ่มสาวคู่หนึ่งขึ้นมา
พอภรรยาขึ้นขบวนรถ ก็ทรุดตัวลงนั่งบนพื้นรถไฟ เอามือกุมท้องสีหน้าไม่สบาย โดยมีสามีก้มตัวลูบหลังพูดจาปลอบใจ
ผมเห็นดังนั้น ก็ลุกขึ้นยืน แล้วบอกสามีเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า ขอให้ภรรยาเขามานั่งที่ผมได้เลย
เขาโค้งขอบคุณ ประคองภรรยาไปนั่ง
แล้วผมก็ลุกเดินไปยืนอีกตู้โบกี้
พอถึงสถานีชิบูย่า ผมเดินออกมาจากขบวนรถ
ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินตามหลัง พร้อมเสียงทักเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า คุณครับ ขอโทษครับ
ผมหันกลับไป ก็เห็นคู่สามีภรรยาคู่นั้น
สามีสาวเท้าเร็วๆนำหน้า มีภรรยาค่อยๆเดินตามมา
พอผมหยุดหันหน้ามามองเขาทั้งคู่
แล้วภรรยาก็เดินตามมาทัน
เขาทั้งคู่ โค้งอย่างสวยงาม หลายครั้ง พร้อมกล่าวขอบคุณซ้ำๆหลายครั้ง
ผมได้แต่โค้งตอบ พร้อมบอกว่า ด้วยความยินดี
และในใจผมก็บอกกับตัวเองว่า
“ที่ผมทำลงไปก็แต่เพื่อตอบสนองตัวผมเอง เท่านั้นเอง”
Credit photo istockphotos
#ลุกให้คนอื่นนั่ง
โฆษณา