19 ต.ค. เวลา 13:31 • ธุรกิจ

สรุปย่อ หนังสือ "AI ช่วยเขียนโค้ด" ทักษะใหม่ที่จำเป็นสำหรับโปรแกรมเมอร์ยุค AI

ติดอาวุธหนักให้นักพัฒนา กลายเป็น 10X ด้วยพลังของ AI
อินเทอร์เน็ต เว็บ โมบายแอพ ดิจิตอลแพลตฟอร์ม คลาวด์คอมพิวติ้ง..และเทคโนโลยีใดๆ ที่ผ่านมา ทุกเทคโนโลยีล้วนทำให้อาชีพไอที และโปรแกรมเมอร์ รุ่งเรืองจนเล่นตัวได้ยาวนานกว่า 5 ทศวรรษ นับตั้งแต่ยุคเมนเฟรม พีซี มาจนถึงยุคมือถือ
ทุกเทคโนโลยีที่ผ่านมา ซึ่ง "เรียนรู้เองไม่ได้ สร้างสิ่งใหม่เองไม่ได้ เขียนโค้ดเองไม่ได้" ..ต่างเสริมอำนาจการต่อรอง และทำให้โปรแกรมเมอร์เรียกร้องสิทธิเสรีภาพเหนือวิชาชีพอื่น เช่น สิทธิ WFH ทำงานที่บ้านได้อย่างไม่จำกัด และเมื่อบริษัทเรียกร้องให้ทำงานที่ออฟฟิศหลังยุคโควิด ก็เกิดยุค The Great Resignation ในช่วงปี 2021-2022 ลาออกเพื่อปกป้อง "สมดุลชีวิตและการงาน"
แต่สถานการณ์ตอนนี้..เปลี่ยนไป Google Microsoft Netflix Tesla และบริษัทไอทีต่างๆ เริ่มปลดโปรแกรมเมอร์ออก แล้วใช้เอไอทำงานร่วมกับโปรแกรมเมอร์ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงและไม่เล่นตัว..
ยุคนี้กลายเป็นยุค The Great Layoff โปรแกรมเมอร์ที่ชำนาญแค่บางภาษา และทำงานแบบ Full Stack ไม่ได้ พัฒนาโค้ดทั้ง front end และ back end ไม่ได้ ทำงานแบบทีมเวิร์คไม่เป็น เขียนคำอธิบายในพูลรีเคสต์ (pull request) ไม่รู้เรื่อง อาจจะถูกพิจารณา "คัดออก" ได้ง่ายกว่า
หลังการเกิด Copilot, LLMs หลากชนิด และเครื่องมือช่วยพัฒนาโค้ดด้วยเอไอจำนวนมาก งานโค้ดดิ้งที่ซับซ้อนน่าเบื่อหน่ายซึ่งต้องใช้ทักษะและความรู้ขั้นสูง กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น กระทั่งคนไม่รู้โค้ด ก็สามารถเขียนโค้ดเป็นได้แค่พร้อมท์ถาม ด้วยเอไอยุคใหม่ที่ใช้อินเทอร์เฟซแบบใหม่ Conversational Interface แทนที่จะหมกมุ่นใช้แค่อินเทอร์เฟซแบบ API อย่างเดียว (Application Programming Interface)
เอไอจะช่วยให้โปรแกรมเมอร์ธรรมดา กลายเป็นโค้ดเดอร์ระดับเซียน มีพลังเท่าโปรแกรมเมอร์ 10 คน และทำให้คนธรรมดา เขียนโค้ดเป็นโปรแกรมเมอร์ได้ !
- วิโรจน์ อัศวรังสี ผู้แปลหนังสือ AI-assisted Programming
AI ปฏิวัติวงการโค้ดดิ้ง! โปรแกรมเมอร์ยุคใหม่ไม่จำเป็นต้องรู้ลึกทุกภาษา แต่ใช้ AI เป็นทีมงานเสมือน 10 คน สร้างไอเดีย เขียนโค้ด แก้บั๊ก และพัฒนาข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างรวดเร็ว
เอไอช่วยเขียนโค้ดทั้ง 5 ระดับ ถ้าถึงระดับที่ 5 บริษัทอาจต้องการโปรแกรมเมอร์จำนวนน้อยมากๆ
AI ไม่เพียงเร่งการสร้างซอฟต์แวร์ซับซ้อน แต่ยังช่วยจัดการงานน่าเบื่อ เช่น ทำรายงานและคู่มือ อีกทั้งยังเรียนรู้นโยบายองค์กร ลดความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์ ทำให้โปรแกรมเมอร์และองค์กรไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์หรือการใช้โค้ดโอเพ่นซอร์สอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจส่งผลให้โค้ดที่พัฒนาสูญเสียความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ตามเงื่อนไขของโอเพ่นซอร์สบางประเภท
นี่คือจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่! โปรแกรมเมอร์ที่ใช้ AI จะทำงานได้เร็วกว่า จัดการโค้ดซับซ้อนได้ดีกว่า และทำงานเป็นทีมได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การใช้ AI ไม่เพียงยกระดับทักษะ แต่ยังเพิ่มโอกาสก้าวหน้าในอาชีพ สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างผู้ใช้และไม่ใช้ AI ในการทำงาน
ภายในเล่มจะแนะนำวิธีใช้เอไอหลายชนิด ตั้งแต่ LLM (ChatGPT, Gemini และ Claude), ระบบคลาวด์เพื่อโค้ด เช่น GitHub Copilot, Tabnine, Cursor และ Amazon CodeWhisperer ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ยังได้นำเสนอเทคนิควิธีเขียนโค้ดแบบโมดูล โดยใช้พร้อมท์ (prompt) รวมทั้งเรื่องราวต่างๆ ดังนี้:
• จุดแข็งจุดเด่นของแต่ละเครื่องมือพัฒนาโค้ด..ที่ใช้เอไอ
• ข้อดี ข้อเสีย และตัวอย่างการใช้งานระบบคลาวด์เพื่อโค้ด เช่น GitHub Copilot
• วิธีใช้ ChatGPT, Gemini, Claude และ LLM อื่นๆ เพื่อเขียนโค้ด
• การใช้เอไอใน "วงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์" ตั้งแต่สร้างข้อกำหนด วางแผน เขียนโค้ด ดีบั๊ก และทดสอบ
• การใช้วิศวกรรมพร้อมท์ (prompt engineering) เพื่อเขียนโค้ด ลดงานจำเจ
• วิธีใช้เอไอทั้งชนิด low code และ no code
หนังสือเล่มนี้ จึงทันสมัยและเป็น survival guide ของโปรแกรมเมอร์ในยุคนี้ ยุคที่การตกงานเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าการเล่นกล่องสุ่ม สำหรับสรุปเนื้อหาของ "แต่ละบท" ในหนังสือเล่มนี้ ลองอ่านเพิ่มเติมได้จากที่นี่
โฆษณา