21 ต.ค. เวลา 11:06 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปภาวะตลาดประจำสัปดาห์ที่ 15 - 18 ต.ค. 2567

Overview
  • ดัชนี S&P 500 และ Nasdag ปิดบวกสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความผันผวนจากรายงานผลประกอบการ
  • TSMC รายงานผลประกอบการแกร่ง ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ปีนี้เป็น 30% หนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
  • ราคาน้ำมันร่วง 7% สัปดาห์นี้ จากอุปสงค์จีนอ่อนแอ และ IEA ปรับลดคาดการณ์
  • ทองคำปรับตัวขึ้น รับแรงหนุนจากแนวโน้มลดดอกเบี้ยของ Fed ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งในสหรัฐฯ และความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
  • BOT ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบาย หนุนตลาดหุ้นไทย
  • GDP จีน Q3 โตเหนือคาด แต่ชะลอจาก Q2 ขณะที่ภาคอสังหาฯ ยังซบเซา
สถานการณ์ตลาด
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกได้ โดยดัขนี S&P 500 และ NASDAQ ปิดบวก 0.9%และ 0.8% จากสัปดาห์ที่ผ่านมาตามลำดับ แม้จะมีความผันผวนระหว่างสัปดาห์
  • ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา
o ASMI รายงามผลประกอบการดีกว่าคาด แต่ยอดจองเครื่องจักรผลิตชิปออกมาต่ำกว่าคาด รวมถึงทางบริษัทมีการปรับลดรายได้คาดการณ์ในปีหน้าลงเป็นปัจจัยกดดันหุ้นในกลุ่ม Semiconductor อื่นๆ ให้มีการปรับตัวลดลงด้วย
๐ อย่างไรก็ดีในช่วงปลายสัปดาห์ TSMC รายงานรายได้และกำไรมากกว่าคาด รวมไปถึงบริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ปีนี้จะเพิ่มขึ้น 30% เป็นปัจจัยหนุนหุ้นชิป และ AI โดยรวม และทำให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ชิปที่อาจจะชะลอตัวลง
o Netflix รายงานผลประกอบการทั้งรายได้และกำไรออกมาดีกว่าคาด โดยมีจำนวนสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด และคาดการณ์รายได้ปีหน้าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 11-13% สร้างสัญญาณเชิงบวกให้กับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยรวมเช่นกัน
o หุ้นกลุ่มการเงินโดยรวม รายงานผลประกอบการดีกว่าคาด ไม่ว่าจะเป็น Goldman Sachs , Citigroup, Bank of America และ Morgan Stanley
๐ ตอนนี้มากกว่า 70 บริษัทใน S&P500 ได้รายงานงบ Q3/2024 ออกมาแล้วโดย 75% ของบริษัทที่รายงานงบแล้ว มีผลกำไรที่ดีกว่าคาด
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวมออกมาดี ทั้งตัวเลขยอดขายปลีก (Retail Sales) และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) สะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะเป็นแบบ Soft Landing โดย Fed น่าจะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ในปีนี้ครั้งละ 25 bps
  • ราคาน้ำมันปรับตัวลงกว่า 7% จากสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์น้ำมันของจีนที่ยังอ่อนตัว หลังจากตัวเลขนำเข้าน้ำมันดิบของจีน เดือน ก.ย.มีการปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันและทาง IEA(องค์กรพลังงานระหว่างประเทศ)ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลก จากปัจจัยหลักอุปสงค์น้ำมันของจีนที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งสอดคล้องกับกลุ่มโอเปคที่ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ของปีนี้ลงเช่นกัน นอกจากนี้ตลาดก็คลายความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันหลังอิสราเอลประกาศไม่มีแผนโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์และที่ตั้งแหล่งน้ำมันของอิหร่าน
  • ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งในสหรัฐฯ และความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 pbs ตามที่ตลาดคาด เพราะเศรษฐกิจยูโรโซนส่งสัญญาณค่อนข้างอ่อนแอ ประกอบกับเงินเฟ้อชะลอตัวลง โดยตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ย. อยู่ที่ 1.7% ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเป้าหมายที่ 2% แล้ว โดยรวมตลาดมองว่า ECB น่าจะลดดอกเบี้ยอีก 25 bps ในการประชุมเดือน ธ.ค.
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) มีมติ 5:2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 bps จากอัตราดอกเบี้ย 2.50% เป็น 2.25% ส่งผลให้ bond yield ไทยปรับตัวลง และตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น โดย BOT ให้เหตุผลว่าการลดดอกเบี้ยนี้เป็นการให้น้ำหนักกับเรื่องเสถียรภาพทางการเงิน กับการลดการะหนี้ครัวเรือนเป็นหลัก โดยเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อยังเป็นไปตามคาดการณ์
  • BOT มองเศรษฐกิจไทย ในปีนี้จะอยู่ที่ 2.7% และปีหน้าจะอยู่ที่ 2.9% ซึ่งแรงขับเคลื่อนหลักคือการท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน การใช้จ่ายภาครัฐ และการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น
  • ตลาดหุ้นจีนฟื้นตัวแรงในวันศุกร์ (18 ต.ค.) หลังทางการจีนประกาศเริ่มใช้มาตรการสนับสนุนตลาดหันมูลค่า 8 แสนล้านหยวน และผู้ว่าธนาคารกลางจีน(PBOC) ส่งสัญญาณอาจจะลดอัตราส่วนเงินสำรองขั้นต่ำ (RRR) ลงอีก 25 - 50 bps ภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงอาจลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 7-dayreverse repo ลง 20 bps และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ลง 30 bps อีกทั้งเช้าวันนี้ ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) 1 ปี และ 5 ปีลง 25 bps สะท้อนท่าทีของจีนที่พยายามสนับสนุนเพื่อให้เศรษฐกิจโตได้ตามเป้าหมาย
  • ตัวเลข GDP จีน Q3/2024 เติบโต 4.6% YoY สูงกว่าคาด แต่ชะลอลงจาก Q2/2024 ที่ 4.7% ตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ก.ย. เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น แต่การลงทุนภาคอสังหาฯ ยังคงหดตัวตลาดยังคาดหวังว่ามาตรการที่ทางการจีนออกมาน่าจะทำให้เศรษฐกิจจีนค่อยๆ ฟื้นตัว
นโยบายการลงทุนและคำเตือน
  • เอกสารอบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูอมูลต่าง ๆ ที่น่าเชื่อถือได้ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือจาก www.krungsriasset.com หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#KrungsriAsset #กองทุนกรุงศรี #Weeklymarketview #สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
โฆษณา