30 ต.ค. เวลา 03:57 • ไลฟ์สไตล์
เกาะเกร็ด

พุง รถหรู สร้อยทอง ผ้าถุง รองเท้าแตะ และการยอมรับ (2)

⏳เท้าความถึงตอนที่แล้ว ได้ฉายภาพเปรียบเทียบให้เห็นถึงอิทธิพลของพุง รถหรู และท่วงทีวาจา ซึ่งมีผลต่อการสร้างความน่าเชื่อถือและการยอมรับ โดยที่มิอาจจะกล่าวได้ว่า อะไร จะเหนือกว่าอะไร
ขึ้นอยู่กับจังหวะ และสถานการณ์ที่จะเป็นตัวกำหนดมากกว่า ว่า จะมัดและวัดใจกันด้วยพุง หรือรถหรู มีราคา หรือใช้วาจา เป็นเครื่องมือเจรจา และประสานสัมพันธ์
ุึึหรือนำทุกอย่างไปใช้ด้วยกัน โดยที่ไม่ลืมให้ความสำคัญเรื่อง "หมูถูกตาเจ๊ก" หรือไม่ ประกอบกัน
(หน้าปกโพสต์ที่แล้ว ตอนที่ 1 ครับ)
ในขณะที่เนื้อหาบทนี้(ตอนที่ 2) จะนำเสนอตัวอย่างที่นำทั้งบุคลิกแบบพุงกำลังดี มีรถหรูขับ และวาจาอันน่าเชื่อถือ
แถมใส่ทองเป็นของประดับ แลดูมีสตางค์ ไปใช้ร่วมกันให้คนหลงเชื่อ และคล้อยตาม
พร้อมตัวอย่างตรงกันข้ามที่ไม่ใช้ปัจจัยดังกล่าวมาโน้มน้าว แต่กลับได้รับการยอมรับในภายหลัง เมื่อทราบถึงสถานะที่แท้จริงของบุคคลนั้น
🛵 ดั่งเรื่องที่ผมได้รับฟังจากวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถบเชิงสะพานกรุงธน (ซังฮี้) ในระหว่างที่ว่าจ้างให้ขับมาส่งที่สถาบันปราสาทวิทยา ฝั่งพระนคร ในเช้าวันทำงาน ให้ทันเวลานัดตรวจ จากสภาพจราจรที่ติดขัด
โดยระหว่างทาง น้องพล คนขับ ที่วิ่งบ้าง หยุดบ้าง ไปตามจังหวะที่รถติด เล่ากึ่งบ่นว่า...
เมื่อช่วงเช้าได้เตือนเพื่อนร่วมวินให้คิดราคาอย่างเป็นธรรมต่อผู้โดยสาร
เพื่อที่จะได้สร้าง "ความน่าเชื่อถือ" ให้กับผู้มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะปิดท้ายการคุยประเด็นนี้ ด้วย 2 ประโยค ที่ชวนให้คิดตามว่า
"เราต้องหากินยาว ๆ ครับ อย่าหวังผลเพียงระยะสั้น ๆ" และ
"ทุกวันนี้โลกโซเชี่ยลมันแรงครับ พี่...
ไม่เห็นหรือครับ พังกันเป็นแถบในทุกวงการ"
แล้วก็เลยมาเล่าถึงพฤติกรรมคนโดยสารสลับกันบ้าง ซึ่งเกิดขึ้นหลายปีมาแล้ว ที่ขับไปส่งผู้โดยสารชายคนหนึ่ง อายุราว 30-40 ปี
ซึ่งกำลังลงจากรถยุโรปคันหรู ป้ายแดง(อีกต่างหาก) ด้วยความรีบเร่ง
แล้วเดินมาหาน้องพล ตกลงว่าจ้างให้วิ่งจากเชิงสะพานกรุงธน
ไปส่งที่สำนักงานแห่งหนึ่งแถบ ถ.รัชดา เพื่อไปเอาเอกสารก่อน
หลังจากนั้นจะให้วิ่งต่อไปยังแถบคลองเตย ส่วนราคาค่าจ้างเอาไว้ค่อยมาคิดกันหลังเสร็จภารกิจ
ระหว่างที่วิ่งรถมา...น้องพล ก็นึกฝัน 🤔 (หวาน)ไปถึงรายได้ที่จะได้รับเป็นราคาเหมาไปทั้งวัน โดยไม่ต้องวิ่งที่วิน
เพราะผู้โดยสารแลดูมีฐานะ ไว้ "พุง" กำลังดี เหลียวมองไปที่คอ ก็สวมใส่ "ทอง" เส้นโต แม้ไม่เท่าโซ่รถไฟ 🥰
แลไปที่ข้อมือ ก็ใส่ "สร้อยทองข้อมือ" หรือเลสทอง เส้นใหญ่ แต่ดูรวม ๆ แล้ว อร่ามไปทั้งตัว ✨
พอรถวิ่งมาถึงตึกสำนักงาน หนุ่มภูมิฐาน บอกให้จอดรอสักพัก น้องพล คนขับก็เลยจอดรอใกล้ ๆ สำนักงาน
จอดรออยู่นานเกือบ 2 ชั่วโมง ยังไม่เห็นวี่แววว่า..หนุ่มมาดดีจะลงมาจากตึก
จึงตัดสินใจเดินไปถาม รปภ. เลยทราบว่า...หนุ่มฟอร์มดี เดินออกไปด้านหลังอาคารแล้ว...
ค่าโดยสารไม่ได้...ยังไม่เสียดายเท่าใด...แต่เจ็บใจจี๊ดที่โดนหลอก และไว้วางใจ เชื่อถือคนง่าย ๆ ในสิ่งที่แลเห็นจากภายนอก
ถึงแม้เวลาจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่น้องพลยังคงค้างคาใจ
วิน 🛵 เรียนรู้คน หลายร้อยหน้า
ผมก็เลยเล่าเรื่องอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับพี่คนขับแท็กซี่มาหลายปีแล้วเทียบเคียงให้ฟัง ถ่ายทอดซ้ำอีกครั้งให้น้องพลฟังว่า...
มีผู้โดยสารชาย อายุประมาณ 50-60 ปี บุคลิกโดยรวมดูน่าเชื่อถือ (ลืมถามไปว่าใส่ทองเส้นโต ด้วยหรือไม่) 😍
ว่าจ้างแท็กซี่ให้ไปส่งที่ตัวเมืองโคราชในราคาหลายพันบาท พอถึงเขตตัวเมือง ทำทีว่ามีธุระ แล้วเดินลงไป
โดยบอกให้พี่คนขับแท็กซี่ จอดรถรอที่บริเวณย่านตลาด ซึ่งก็นั่งคอยอยู่นานพอสมควร จนหายจ้อยไปเลย จึงรู้ว่าถูกหลอกขับมาส่งฟรีแน่ ๆ
ผมเองลืมถามพี่แท็กซี่ไปว่า...ตอนขา
กลับวิ่งรถเปล่าเข้า กทม.ได้ผู้โดยสารติดมาด้วย หรือเปล่า
เหมือนกับลืมถามน้องพล คนขับวินเช่นเดียวกันว่า วันนั้น วิ่งรถกลับจากฝั่ง ถ.รัชดา มายังสะพานซังฮี้ ได้คนกลับมา ปลอบใจด้วยหรือไม่
แม้ไม่ทันได้ถาม น้องพล ก็มีอารมณ์ร่วมกลับมาทันที "ใช่ เลยครับ โดนหลอกแบบเดียวกัน"
จากนั้น ผมก็ตัดสินใจหักมุมคำถาม เพื่อหันเหน้องพลไปสู่ความรู้สึกใหม่ทดแทนอารมณ์เดิมว่า...
"แล้วพอมีเรื่องราวอื่น ๆ ที่เคยเจอผู้โดยสารดี ๆ อย่างคาดไม่ถึง บ้าง หรือไม่ ครับ"
👏 น้องพล เล่าต่อทันที...ราวกับมีเรื่องปลอบใจตัวเองจากเหตุการณ์แรก...
เมื่อรับผู้โดยสารจากแถบฝั่งธนบุรี ราว ๆบ่ายสามโมงเศษ ๆ ไปส่งย่านถนนประดิพัทธิ์ สะพานควาย
ผู้โดยสาร เป็นคุณป้า รูปร่างเล็ก อายุราว 70 ปีเศษ แต่งกายเรียบง่าย นุ่งผ้าถุง สวมรองเท้าแตะ ไม่มีเครื่องประดับ ทอง หรือ เพชรสวมใส่ ซึ่งต่างไปจากผู้ชายรายที่เล่ามา ฟ้ากับดิน
โดยคุณป้าเพิ่งเดินทางกลับมาจากนครปฐม จะรีบกลับไปที่บ้านพักให้ทัน ก่อน 5 โมงเย็น
ในใจของน้องพล ตอนขับรถมา ยังจำถึงความคิดที่เกิดขึ้นตอนนั้นได้ดีว่า...
จะเรียกค่าโดยสารจากคุณป้าเท่าไรดีนะ เพราะดูแล้ว ไม่น่าจะมีสตางค์ติดตัวมากนัก...
แต่พอไปถึงสถานที่ปลายทาง ย่านถนนประดิพัทธิ์ น้องพลถึงกับตะลึงที่เห็นภาพบ้านพักขนาดใหญ่ ในพื้นที่หลักร้อยตารางวา
ขัดกันกับภาพของคุณป้า นุ่งผ้าถุง สวมรองเท้าแตะ นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ อย่างสิ้นเชิง
แถมยิ่งตะลึงขึ้นอีก เมื่อคุณป้าควักเงินค่าโดยสารให้ 500 บาท แบบไม่เอาเงินทอน !!!
คุณป้า บอกเหตุผลที่ต้องรีบ เพราะจะกลับมาให้ทันก่อนลูกกลับมาถึงบ้าน
ด้วยเกรงว่า ลูกทราบแล้วจะเป็นห่วงที่ออกไปข้างนอกโดยไม่บอกให้ลูกรู้ก่อน
เพราะทนความคิดถึงเพื่อนในวัยเด็กที่นครปฐมไม่ได้
หลังฟังเรื่องราวของคุณป้า นุ่งผ้าถุง จบลง...ผมนึกเทียบเคียงไปถึงคำบอกเล่าของเจ้าของร้านขายอาหาร ร้านหนึ่ง ใกล้สี่แยกบางพลู แถบชานเมืองนนทบุรี ตอนหนึ่งว่า...
"บ่อยครั้งที่เห็นคนขับรถหรู จิตใจดี แวะจอดรถข้างทาง อุดหนุนซื้อผัก และกล้วยน้ำว้า จากคุณป้าที่เข็นรถมาขายผ่านหน้าร้าน ในราคารวมกันไม่ถึงร้อยบาท แล้วไม่เอาสตางค์ทอน
อาจจะด้วยความสงสาร หรืออยากทำบุญทำทานไปด้วยนั้น เป็นสิ่งที่ดี แต่ โปรดคิดตรึกตรองให้ถี่ถ้วน"
"เพราะคุณป้าบางท่านที่นุ่งผ้าถุง ใส่รองเท้าแตะ เข็นรถขายผัก ขายกล้วย นั้น ถือครองที่ดินหลายสิบไร่ใกล้ถนน หากตีมูลค่าทรัพย์สินออกมา มีมูลค่าหลักร้อยล้านบาท เชียวนะ"
"บางครั้งจึงได้แต่แอบคิดในใจแบบติดตลก ไปด้วย ในท่วงทำนองว่า...คุณพี่เอ๊ย เก็บสตางค์ทอนเอาไว้ผ่อนรถหรู ที่ยังค้างส่งอีกหลายสิบงวด จะดีกว่านะ"
เล่าไปพลาง หัวเราะไปพลาง 🤣
ส่วนผมนั้น พลอยหัวเราะตามไปแป๊บหนึ่ง แล้วก็วกกลับมานึกขึ้นได้ว่า...ช่างละม้ายคล้ายกับผม เพียงแต่ผมนั้นขับรถเก่า เท่านั้นเอง...😄
🪂คิดเห็นเป็นอย่างไรบ้างครับ ต่อเรื่องราวที่เล่ามา เสมือนถ่ายทอดภาพและนิยามถึงคน 2 คน ที่อาจจะเป็นผู้แทนของคนในสังคมโดยทั่วไป 2 กลุ่ม ซึ่งมีลักษณะต่างกัน
คนหนึ่ง...ตรงกับสำนวนที่ว่า "ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง" สร้างความทุกข์ใจให้กับคนที่ได้พบและสัมผัส
ในขณะที่อีกคนหนึ่ง..เป็นดั่งเช่น "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง (อันเป็นจิตใจที่ล้ำค่าไว้)" ส่งมอบความประทับใจให้กับผู้ที่ได้เจอะเจอ...
ว่าแต่ว่า หลังจากอ่านเรื่องราวการสร้างบุคลิก และการวางมาด นอกตำราทั้งหมดแล้ว ท่านผู้อ่านสนใจจะเสริมสร้างแนวไหนครับ...
ไว้พุงอย่างเดียว หรือ ทั้งไว้พุง และขับรถหรู ใส่ทอง หรือ แนวผ้าถุง ใส่รองเท้าแตะ
สำหรับผม นั้น...มีใจโน้มไปทางเพิ่มพุงอย่างเดียว ด้วยมีหลายคน ทั้งที่เจอะเจอกันประจำ และนาน ๆ เจอกันครั้ง
รวมทั้งคนใกล้ชิด เช่น แม่ยาย เริ่มทักว่า ผอมเกินไป แลดูไม่มีน้ำ มีนวล (เหมือนตอนที่ยกลูกสาวให้)😍🤩
อีกอย่าง การสร้างพุง ก็ทำได้ง่าย และใช้สตางค์น้อยกว่าหารถหรู และซื้อทองยุคนี้ มาประดับสถานะ
ช่วงนี้ เลยจัดหนัก ทั้งของคาว แนวต้มเลือดหมู ข้าวหมูแดง ผัดไทย ข้าวมันไก่
ของคาวเพิ่มพุง
ตบท้ายด้วยของหวาน ขนมครก ปาท่องโก๋ กล้วยแขก อย่างไม่กลัว(ชั่วคราว) ถึงไขมัน และคลอเลสเตอรอลที่จะเพิ่มพูนตามมา
ของหวานตบท้าย(พอประมาณ)
เพียงหวังแต่ว่าจะได้น้ำหนักเพิ่มคราวละสามสี่ขีด รอให้พุงเพิ่มขึ้น แล้วจะใส่ทอง(ชุบ)เสริมสร้างค่า ขึ้นวินจักรยานยนต์รับจ้างฟรี
ไปช่วยคนมั่งมี เจรจาซื้อ "การยอมรับนับถือหน้า" ที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ ถ้าเขา(รวมทั้งผม) ไม่ลงทุนสร้าง (ของจริง) ด้วยตัวเอง
🙏ขอบคุณมากครับ
มุมชัย นัยสอิ้ง
(30 ต.ค.67)
🫶 อนึ่ง ขอขอบคุณผู้ถ่ายทอดเรื่องราว และให้ข้อคิดเห็นต่อเนื้อหา รวมทั้งแนวคิดปิดย่อหน้าสุดท้ายที่ได้มาจาก เว็บไซต์ STOCK2MORROW.COM
(หัวข้อ "10 สิ่งที่เงินซืัอไม่ได้")🫶
โฆษณา