22 ต.ค. เวลา 07:19 • ความคิดเห็น
เรื่องชาติภพ เราเกิดมามีชาติ ที่ธาตุทั้งสองของพ่อแม่ ตั้งต้นประสมกันขึ้นมา มีธาตุทั้งสี่ ที่จิตของผู้ที่..มีกรรมกับสะสมกัยมา เป็นธาตุสี่ที่สะสม คำว่ากรรม กุศลอกุศล มาประกอบกับธาตุนะโม มีมีกายเป็นมนุษย์ ..ธาตุทั้งสี่นี้ ก็ดึงจิต ติดตามมา ..มาจุติ ..มีกายที่มีพ่อแม่เป็นมนุษย์ ได้รูปกายเป็นมนุษย์ พ่อแม่เป็นมนุษย์ ได้มีขันธ์ทั้งห้าเป็นมนุษย์ เอ้า..วิญญาณทั้งหกมาครบมั้ย ตาหูจมูกลิ้นกายใจ มาครบมั้ย ในคำว่า อาการครบสามสิบสอง เมื่อได้มาไม่ครบ ก็ต้องรับ ..รับสภาพของกายนั้น
จะไดก้ากาย ..ได้รูปมนุษย์ ..หูหนวกตาบอด เป็นใบ้ .หรือพิกลพการมาแต่เกิด นั้นก็เนื่องด้วยกรรม กรรมที่มากับธาตุทั้งสี่ ที่ไปประกอบเรือนกาย หรือเป็นบ้านให้จิตอาศัยอยู่ชั่วขณะหนึ่ง จ้ตต้องอาศัยอยู่ ในบ้านพ่อแม่นี้ไปจนกว่าจะหมดวาระ ก็ออกจากบ้านหลังนี้ไปได้ ก็จบไปชาติหนึ่ง ที่ได้มาอาศัยภพที่เป็นมนุษย์ ได้กายมนุษย์แล้ว นำบ้านหลังนี้ไปใ้ทำอะไร สะสมอะไร ใช้ไปมากเข้าๆ บ้านนี้ก็ทรุดโทรม เสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ ไปแก่เฒ่าชราตาย
..กายมันตาย แต่จิตไม่ตายไปตามกาย เมื่อจิตออกจากกายไป ก็ไปหาชาติใหม่ ภพใหม่ ..ตอนที่หมดกายนี้แหละ ที่เรากยังเดืนไปไม่ถึงจุดนั้นได้ คนที่หมดกายไปก็ไม่มาบอกกล่าวอะไร ว่าไปอยู่ที่ไหนเสียด้วย เหมือนหายลับไปจากโลก ที่เรามีตามีหู ..มองไม่เห็น ในสิ่งที่เป็นนามธรรม
คราวนี้ ในสิ่งที่เร่เกิดมีกายเป็นมนุษย์ เมื่อเราได้พบเจอคำสอนของพระ ท่านบอกว่า ให้สร้างบุญกุศล ทำไปทำไม ..ทำไปเพื่อที่จิตออกจากกาย จะได้ไปสู่สถานที่ชาติภพที่ดี ที่มีความสุข มีกายเกเทพบุตรอินทร์พรหม เราพูดคำว่าบุญกุศล ..กายบุญ กายเทพยดาอินทร์พรหม จิตที่จะไปอาศัยกายนั้น เค้าทำอย่างไรกัน เราก็ต้องเรียนรู้ขึ้น รู้เฉย ไม่ได้ลงมือทำ ..บุญกุศล มันก็ไม่เกิด ไม่มีบันทึกลงไปในธาตุุทั้งสี่ ที่จะเป็นหลักฐานว่า ข้าพเจ้าเกิดมาทั้งที่ ข้าพเจ้า ..ได้สร้างบุญกศล
เอ้า..แล้วหลักฐานนั้นมีมั้ย เค้าก็ดึงธาตุทั้งสี่ นั้นมาดู ..หลักฐานมันอยู่ที่ธาตุทั้งสี่ จะปิดบังปกปิดไม่ได้เลย เอ้า..เมื่อมีกายเป็นมนุษย์ เจ้าสร้างกรรมอะไรมา สร้างบุญกุศลอะไรมา นึกออกก็บอกมา ธาตุทั้งสี่ ก็เปิดออกมา..ไหนว่าสร้างบุญกุศล พอเปิดดูทีธาตุทั้งสี่ มีเสิร์ชเอนจินิไปช่วยหาข้อมูลมา หากปรากฏว่า ไม่มี หรือว่า ไม่ได้ทำ หลักฐานเค้ามี .. หลักฐานมันอยู่ที่ธาตุทั้งสี่ ที่จะไปจำแนก จิต..ไปสถิตย์ตามภพภูมิที่สามควรแก่เหตุ
เรื่องราวของขันธ์ห้า มีก็มีรายละเอียดพิศดาร ยากที่จไปมองเห็น เหมือนที่มาอาศัยกาย จะมองเห็นอะไรได้ ก็ต้องมีตาดี ตาไม่ดี มันก็เห็นอะไรที่พร่ามัว พร่ามัวด้วยอารมณ์ที่ปกคลุมจิต อารมณ์ที่มเป็นมายา อารมณ์จรต่างมากมาย แล้วตัวเรารู้ตัวเราที่เค้าเรียกว่า..จิตนั้น จริงหรือไม่ นั้นเค้าจึงให้รู้จัก คำว่า ศีลสมาธิปัญญาขึ้นมา แล้วเราก็จะค่อยๆรู้จักติตของตัวเอง รู้จักกรรมของตัวเอง แล้วเราก็แก้ไขด่วยการสร้างบุญกุศลให้เกิดขึ้น ให้จิตมีศีลสมาธิปัญญา
คราวนี้ ในการเรียนรู้เรื่องการเวียนว่ายตายเกิดตายเกิด เรียนเรื่องศีลสมาธิปัญญา เราจะเรียนรู้จากใคร เราจะเรียนรู้อย่างไร ที่มีความสำคัญ ให้จิตรู้จักขึ้น เช่นเราพูดคำว่า ขันธ์ห้าได้ .แล้วจิตเรารู้จัก ขันธ์ห้าจริงมั้ย ลองถามจิตตัวเองดู..ที่ว่า จิตอาศัยในเรือกายของคุณบิดามารดา จิตรู้จักกายนี้ เป็นอย่างไร อาศัยขันธ์ขันธ์ห้าอยู่รู้จักขันธ์ห้ามั้ย ..แยกแยะขันธ์ห้าออกมั้ย
..ลองถามตัวเองดู เพราะมีขันธ์ห้าให้ใช้กันทุกคน ยิ่งขันธ์ห้ามันพิศดาร เป็นทาสีทาสา เป็นยักษ์มาร จิตอาศัยในกายนี้ เคยรู้จักมั้ย ที่ขันธ์ห้ามันเปลี่ยนแปลงรูป ที่เค้าว่า มีกายเป็นมนุษย์ รูปข้างในกลับไม่ใช่รูปมนุษย์ เป็นขันธ์ห้าของอะไร เค้าก็ทำไปจนเห็นรูปนั้น.ที่เกิดในกาย เห็นจิตในจิต ในอารมณ์กรรมที่เกิดขึ้น แล้วจะดับรูปข้างใน ..เค้าต้องทำอย่างไร
โฆษณา