22 ต.ค. เวลา 11:45 • ไลฟ์สไตล์

สีสัน ลวดลาย:การทดแทนที่น่าอัศจรรย์

ฉันสงสัยว่า”หินอ่อน”ทำไมถูกเรียกแบบนี้ และไปอ่านเจอว่าที่เรียกแบบนี้เพราะว่าเป็นหินที่
อ่อนที่สุดในบรรดาหินไม่ว่าจะเป็นหินแกรนิต หินอัคนี หินชั้นหรือหินแปร นี่น่าจะวัดด้วย
มาตรฐานเรื่องความแข็งแกร่งเป็นหลัก ความสงสัยนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งไปเยือนเมืองต่างๆใน
อิตาลี โรม ฟลอเรนซ์ เวอโรนา มิลานรวมถึงนครรัฐวาติกัน สิ่งก่อสร้างทั้งโบสถ์ วิหารของ
อารยธรรมโรมันสร้างด้วยหินอ่อน เข้าใจได้ว่าประเทศนี้มีทรัพยากรหินอ่อนมากที่สุดแห่งหนึ่ง
ของโลก สถาปัตยกรรมแบบโรมันนั้นงดงามยิ่งใหญ่เข้าใจได้ แต่ความงดงามตามธรรมชาติ
ของหินอ่อนที่หลากหลายด้วยสีสันทั้งสีขาว ดำ แดง ชมพู เขียว ส้มและสีอื่นๆรวมถึงลวดลายที่
ปรากฏในแผ่นหินชวนให้ประทับใจสุดๆในขณะที่ผู้คนโดยรอบเงยหน้าชื่นชมสถาปัตยกรรม
อันยิ่งใหญ่สวยงาม ฉันได้แต่ก้มหน้ามองดูพื้นของโบสถ์วิหารและตื่นเต้นไปกับสีสันลวดลายที่
อยู่ตรงหน้า ข้อมูลบอกว่าหินอ่อนคือหินปูนที่มีแร่อื่นเจือปนอยู่เช่นแร่เหล็กออกไซด์แร่ไมกา แร่
ควอตถ์ และด้วยกระบวนการทางธรณีวิทยาที่ผ่านเวลามายาวนานทั้งการตกผลึก ความร้อน
แรงดันใต้ชั้นเปลือกโลกทำให้หินเกิดความแน่นละเอียด เกิดสีสันลวดลายตามแต่ว่าแร่ที่
เจือปนอยู่นั้นเป็นชนิดใดมีมากน้อยเพียงใด จำได้ว่าฉันเคยหาคำอธิบายคำว่า”ธรรมชาติ”
หลายครั้ง กรณีที่คำว่าธรรมชาติใช้เป็นคำวิเศษณ์มีคำอธิบายว่า “ที่เป็นไปเองโดยไม่ได้ปรุง
แต่ง” ถึงแม้ว่าหินอ่อนจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับหินอื่นๆ ฉันคิดว่าภายใต้ความอ่อนนี้ ธรรมชาติ
ได้ทนแทนให้แล้วอย่างสมบูรณ์ ด้วยสีสันและลวดลายที่งดงามอย่างน่าอัศจรรย์นี้
โฆษณา