22 ต.ค. เวลา 12:26 • ปรัชญา
ถ้าเราเข้าใจความเหมือน ความแตกต่าง การเปลี่ยนแปลง ความไม่ยั่งยืน และยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้ และพอใจในสิ่งที่เป็น
ชีวิตเราไม่สมบูรณ์แบบตั้งแต่เด็กๆ เรารู้สึกแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆเลย...
เราสังเกตุได้ว่า เพื่อนมีบางอย่าง แต่เราไม่ได้มีเหมือนเพื่อน...
แต่เราก็รู้เหมือนกันว่า เรามีบางอย่างที่เพื่อนไม่มีเหมือนเรา... เราเลยเป็นเด็กที่มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองมี รู้ว่าตัวเองขาดอะไรแต่ก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนกับมันนัก เลยกลายเป็นไม่รู้สึกขาด
จนกระทั่งโต เราก็เป็นคนแบบนี้มาตลอด มีบางอย่างและไม่มีบางอย่าง แต่เราก็อยู่ได้ มีความสุขแบบที่เรามี เพราะไม่ได้เอาความสุขของตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครว่า... มีแบบนั้นเหมือนคนนี้ถึงจะมีความสุข...
รู้แค่ว่า มีแบบนี้ เป็นแบบนี้ก็มีความสุขแบบนี้ดี 😊
พออายุเท่านี้ ชีวิตผ่านอะไรมาเยอะเลย ผ่านความเป็นความตายหลายครั้ง.... ถ้าเราจะบอกว่า ร่างกายเรา... มีรอยโรคตั้งแต่หัวจรดเท้า จนน้องหมอที่ดูแลบอกว่า... เอาพี่ไปตรวจตรงไหนก็เจอที่ไม่ปกติเนอะ
ร่างเราพังมาก ซ่อมใช้มาเรื่อยๆ แต่ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้ว่าร่างเราพัง... เราใช้ชีวิตปกติมาก... เวลาทำงาน ซ่ามากในย่านนั้น....
เค้าจะรู้ตอนที่มันต้องเข้าโรงพยาบาล... จนพยาบาลที่ทำงานด้วยก็อึ้ง นึกว่าปกติ ...
ตอนป่วยรู้ว่ามันพังกระจาย
ถ้ามองว่านี่คือความไม่สมบูรณ์แบบมันก็ใช่ ร่างกายเราไร้ความสมบูรณ์แบบ แต่เราเข้าใจว่า มันคือธรรมดาของชีวิต มันคือธรรมชาติของร่างกาย เรารักร่างกายเราในแบบที่มันเป็น เราไม่ได้ชอบมือเท้าที่เย็นเฉียบแบบทำให้อุ่นไม่ได้ในเวลาอากาศเย็น แค่แอร์ยี่สิบสี่องศามือเราก็เย็นไปหมด
เราไม่ได้ชอบรอยช้ำตามตัวหรือจ้ำเลือดเล็กๆที่จู่ๆมันก็ขึ้นมาเองเพราะเกล็ดเลือด​เรามันก๊งๆ ทำงานไม่ค่อยเก่งเหมือนเมื่อก่อน เราไม่ได้ชอบรอยแผลผ่าตัดที่มีอยู่ตามตัวเต็มไปหมด หรืออะไรอีกเยอะแยะในตัวเราที่มันไม่สมบูรณ์แบบ
แต่เราก็เข้าใจร่างกายของตัวเองว่า เขาก็เป็นแบบนี้แหละ เขามีโรครบกวน เขาป่วย เขาไม่สมบูรณ์แบบ แต่เขาก็ได้ทำให้เราได้มีโอกาสใช้เขาเป็นเครื่องมือทำอะไรดีๆมาตั้งเยอะ และก็ยังมีโอกาสได้ใช้ต่อได้ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ เรายังทำอะไรที่มีประโยชน์กับตัวเอง และคนอื่นได้ ทำความสงบสุขให้จิตใจตัวเองได้แม้สภาพร่างกายจะไม่สมบูรณ์แบบ....
ร่างกายเราไม่ได้สมบูรณ์แบบ ครอบครัวเราก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ ชีวิตเราก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ
เรามีชีวิตท่ามกลางความไม่สมบูรณ์แบบ
1
วันก่อนเราหกล้ม ข้อเท้าบวม เดินกะเผลกเพราะเอ็นฉีก..... จังหวะดีเสียแต่ไม่มีพระเอกมาให้ขี่หลัง...😅
เราเพิ่งออกจากรพ.หลังจากต้องนอนรักษาตัวอยู่นานเพราะป่วยยาวๆ กลับมาบ้านแค่ 4 วัน พ่อปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียวแป๊บเดียว กลับมาลูกสาวกองบนพื้น เศษแก้วกระจายรอบตัว โชคดีไม่โดนบาด
พ่อแม่จะเป็นลม 😅...
แต่เพราะเรายังใช้ชีวิตต่อได้ไม่ต่างจากปกติแบบ
ขาปุกๆ ... วันนี้แม่เลยหัวเราะแล้วบอกว่า....
เออ แกจะเป็นอะไรก็เป็นเถอะ เห็นสภาพนี้แล้วเลยเป็นตลกแทน...
แม่หัวเราเพราะเราเอา เฝือกมาอวด คือไปตามหาซื้อมาจนได้ หลังจากโยน slab ที่หมอทำให้ทิ้งตั้งแต่วันแรกเพราะเกะกะ เดินลงน้ำหนักไม่สะดวก
เมื่อวานพันแค่ elastic bandage เดินซ่าทั้งวัน
วันนี้ไปหาซื้อเฝือกมาใส่ได้
เดินโชว์ในบ้านยังกะเดินรันเวย์...
แถมบอกแม่ว่า แม่จะเศร้าทำไม หนูไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไรเลย ก็ใช้ชีวิตได้ปกติ ใส่รองเท้าประหลาดนิดหน่อยแค่นั้น อีกข้างก็ใส่สวยๆไป เริ่ดค่ะ ....
แม่เลยปลงค่ะ นั่งหัวเราะแทน....
อีกสองวันบินค่ะ โชว์เดี่ยว ขาปุกขึ้นเหนือ ..... 😁....
ขับรถได้น้าาาาาา.... 😁
โฆษณา