สุดยอดของนักค้นหารอยรั่ว
รู้สึกว่ารถเสียศูนย์ ออกอาการเป๋ไปทางขวาเมื่อเหยียบเบรคแรงๆ ต้องรีบหาที่จอดริมไหล่ทาง เมื่อตรวจดูรอบๆรถ ปรากฏว่ายางหน้าขวาอ่อนกว่าเส้นอื่น ยังโชคดีที่เตรียมยางอะไหล่ไว้ เปลี่ยนเสร็จก็ไปต่อได้
แวะร้านปะยางในปั้มน้ำมัน ช่างใช้คีมดึงเกลียวปล่อยยาวสัก 1 นิ้ว ที่แทงทะลุติดคาหน้ายางออกมาโชว์ให้ดู ก็ถึงบางอ้อ
ช่างอธิบายรายละเอียดการปะยางแต่ละแบบให้เลือก พร้อมแจ้งราคา มีแบบแทงใยไหม หรือบางคนเรียกตัวหนอน ใช้เข็มแทงนำไหมหรือด้ายเข้าไปอุดรูที่ยางถูกแทง แล้วดึงเข็มออก ปล่อยให้ไหมคาไว้อย่างนั้นเพื่ออุดรอยรั่ว แบบนี้ราคา 80 บาท อีกแบบใช้แผ่นเทปยางแปะติดด้วยกาวด้านใน ถ้าใช้ความร้อนช่วยเรียกสตรีมร้อน หรือถ้าไม่ใช้ความร้อนก็เรียกสตรีมเย็น ราคาทั้งร้อนและเย็นเท่ากัน 150 บาท
ข้อดีข้อเสียของทั้ง 3 แบบ แตกต่างกัน แบบแทงใยไหม ใช้กรณีเร่งด่วนรีบปะรีบไป ไม่ต้องถอดล้อ เหมาะกับมอเตอร์ไซค์ แต่รถยนต์ก็ใช้ได้ มักใช้ชั่วคราว เพราะเกิดการรั่วซึมได้ง่ายกว่าแบบสตรีม สตรีมร้อนปะรอยรั่วได้แน่นสนิทที่สุด แต่มีข้อเสียจากความร้อนทำให้ยางแข็ง มีโอกาสบวมได้ สตรีมเย็นก็ปิดรอยรั่วได้ดีขึ้นอยู่กับคุณภาพกาวที่ใช้
ตัดสินใจเลือกใช้สตรีมร้อน เพราะความร้อนน่าจะช่วยทำให้เนื้อยางกับแผ่นปะติดเป็นเนื้อเดียวกันได้ดีกว่า
ช่างใช้ชอร์คขีดวงมาร์คจุดที่ดึงเกลียวปล่อยออก ไม่อย่างนั้นจะปะผิดจุดได้ ขัดผิวยางด้านในด้วยกระดาษทรายหยาบ เป่าลมทำความสะอาด ทากาวแปะแผ่นยางแล้วใช้หัวกดที่ให้ความร้อนอยู่พักหนึ่ง แล้วประกอบยางเข้ากับแม็ก
ก่อนใส่ล้อกลับเข้าที่เดิม จะต้องตรวจการรั่วซึมอีกครั้ง หลังจากเติมลมได้ที่แล้ว นำล้อลงในอ่างน้ำ ช่างไม่ได้นำล้อไปล้างทำความสะอาด แต่เป็นวิธีตรวจหารอยรั่วหลังจากปะเสร็จแล้วอีกครั้ง กดยางลงไปในน้ำ วนไปจนครบทุกตำแหน่ง ไม่เห็นฟองอากาศเป่าออกมา เป็นอันเสร็จพิธี
ใส่ยางขันน็อต กวดครบทุกหัว จ่ายค่าปะยางไป 150 บาท ขอบคุณช่าง แล้วก็ออกเดินทางไปต่อ
คิดว่าหลายคนน่าจะเคยมีประสบการณ์ลักษณะนี้กันมาบ้าง
ก่อนเดินทางไกลทุกครั้งจึงต้องเช็คอุปกรณ์เปลี่ยนยาง ทั้งแม่แรง ชุดประแจ และวัดลมยางอะไหล่ให้พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะท่านสุภาพสตรีทั้งหลาย ควรอ่านคู่มือให้เข้าใจ ฝึกซ้อมไว้บ้างก็ดี เผื่อเกิดเหตุกลางทาง หาผู้ช่วยไม่ได้ จะได้พอประทังเปลี่ยนยางอะไหล่ พารถไปถึงร้านปะยางได้
จากพาหนะทางบก ไปดูเรื่องทางน้ำกันบ้าง การที่เรือลอยน้ำอยู่ได้เพราะแรงพยุงของน้ำที่มีค่าเท่ากับน้ำหนักของเรือ รับน้ำหนักของเรือเอาไว้ ตามหลักการของอาร์คีมีดีส ที่บอกไว้ว่าเมื่อนำวัตถุลงไปแทนที่ของเหลว จะมีแรงต้านเท่ากับน้ำหนักของของเหลว
ตามหลักการนี้เมื่อใช้วัตถุที่ในสภาพปกติจะจมน้ำ เช่นไม้ หรือแม้กระทั่งเหล็ก มาตีแผ่ออกเป็นแผ่นบางๆ แล้วขึ้นรูปเป็นรูปอ่าง หรือยืดออกเป็นรูปเรืออย่างที่เห็นในปัจจุบัน ก็จะลอยน้ำได้
มีข้อแม้ว่าอย่าให้มีรอยแตก หรือรูรั่ว ไม่เช่นนั้นเรือจะจม หากปล่อยให้น้ำเข้าเรือ
การสร้างเรือโบราณ จะใช้ไม้ทั้งต้นมาขุดให้เป็นรูปเรือ ไม้ชิ้นเดียว ไม่มีรอยต่อก็ไม่มีรูรั่ว เป็นเรือลอยน้ำได้ ส่วนเรือประมงลำใหญ่ๆ ต้องใช้แผ่นไม้กระดานหลายชิ้นมาต่อกัน ช่างต่อเรือจะอุดรอยต่อของแผ่นไม้ด้วยด้ายดิบปิดทับด้วยยาชันเหนียวๆ ที่ทำจากยางไม้ กันน้ำเข้าเรือได้
จนเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาล้ำสมัยมาถึงขั้นสามารถใช้เหล็กกล้าที่มีน้ำหนักมาก ต่อเรือเดินสมุทรลำใหญ่ๆ ขนาดหลายเท่าของสนามฟุตบอลได้ สามารถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ได้มากถึง 20,000 ตู้ เรือก็ยังลอยน้ำอยู่ได้
แต่ต้องคอยตรวจสอบท้องเรือให้ดี อย่าให้มีรอยรั่วเด็ดขาด แม้จะซุกอยู่ตรงส่วนไหนของท้องเรือก็ตาม น้ำจะหาเจอเสมอ เผลอปล่อยให้น้ำรั่วเข้าท้องเรือ จะลำใหญ่แค่ไหนก็จม
แรงดันลมจากล้อรถที่พ่นฟองอากาศลงไปในน้ำ ทำให้ช่างรู้ตำแหน่งรอยรั่ว และแก้ไขปัญหาได้ด้วยการปะยาง
น้ำที่ซึมเข้ามาจากใต้ท้องเรือทำให้รู้ตำแหน่งรอยรั่ว ทำให้อุดรูรั่วได้ทัน ก่อนที่เรือจะจม
ทั้งน้ำและลม ต่างก็เป็นสุดยอดของนักค้นหารอยรั่ว เมื่อพบแล้วก็ซ่อมแซมแก้ไข ปัญหาก็จบ
หารอยรั่วรายจ่ายของตัวเราเอง เจอแล้วหรือยัง หากยังไม่เจอให้ใช้วิธีการบันทึกบัญชีครัวเรือนรายวัน เป็นเครื่องมือค้นหา สรุปบัญชีทุกๆสิ้นเดือน ก็จะพบรอยรั่ว
รอยรั่วทางอารมณ์ บูด โกรธ เกลียด อิจฉาริษยา เสียใจ หรือดีใจจนเกินเหตุ ที่รบกวนจิตใจ จนทำให้เป็นทุกข์อยู่บ่อยๆนั้น หาเจอหรือยัง
ใช้เครื่องมืออะไรค้นหา
แม้เทคโนโลยีจะล้ำหน้าไปไกลแค่ไหนก็ตาม จะไม่สามารถนำมาใช้ค้นหารอยรั่วของอารมณ์ได้
หากไม่สามารถเจริญสติ ค้นหาและทำความรู้จักตัวเองได้เป็นอย่างดี ละโลภโกรธหลง ลดความเห็นแก่ตัวลงได้ อย่างแท้จริง
สุดยอดของนักค้นหารอยรั่วตัวจริง ไม่ใช่น้ำ และไม่ใช่ลม แต่คือจิตสำนึกที่ปราณีต ถูกต้องเป็นธรรม รู้อะไรถูกอะไรผิดของตัวเราเองต่างหาก
ใครมีเครื่องมือชิ้นนี้ ค้นหารอยรั่วทางอารมณ์ได้พบ อุดรอยรั่วได้ทัน จะช่วยให้การใช้ชีวิตดำเนินไปได้อย่างมีความสุข
ในทางตรงกันข้าม หากปล่อยรอยรั่วไว้อย่างนั้น ชีวิตเราก็ไม่ต่างไปจากยางรถยนต์ที่ถูกเกลียวปล่อยแทงทะลุติดคาอยู่ ไม่ช้ายางจะแบนจนรถแล่นต่อไปไม่ได้ หรือปล่อยให้น้ำไหลเข้าทางรอยรั่วใต้ท้องเรือ ไม่นานเรือลำนั้นก็จะจมดิ่งสู่ก้นสมุทร ไม่มีโอกาสได้พบแสงเดือนแสงตะวันอีกเลย
โดย.. พี่ชื่อวิช
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
