ไม่มีใครคาดคิด ว่าเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะโดนเด้งจากตำแหน่งทูตของสโมสร แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว
นับจากเฟอร์กี้ ประกาศรีไทร์ หลังจบฤดูกาล 2012-13 เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นทูตของสโมสร (Ambassador) และ ผู้อำนวยการ (Director) ทันที
ไม่แปลกใจ ที่เขาจะถูกแต่งตั้งแบบนั้น เพราะเฟอร์กี้ คือปูชนียบุคคลของทีมปีศาจแดง
เขาคือคนที่แปลงโฉมสโมสร ให้กลายเป็นทีมอันดับหนึ่งของประเทศ ด้วยจำนวนแชมป์พรีเมียร์ลีก 13 สมัย และ แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย
นักเตะคนแล้วคนเล่า ที่ผ่านมือเฟอร์กี้ กลายเป็นสตาร์ค้างฟ้า ทั้ง เดวิด เบ็คแฮม, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์ ฯลฯ
เรื่องฝีมือของเฟอร์กี้ และ ความรักที่เขามอบให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีใครกล้าตั้งคำถามอยู่แล้ว
สำหรับตำแหน่งทูต และ ผู้อำนวยการดังกล่าว สโมสรจ่ายเงินค่าตอบแทนให้เฟอร์กี้ ปีละ 2.16 ล้านปอนด์ (93 ล้านบาท) ก็เป็นตัวเลขที่เข้าใจได้
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้อำนวยการ แต่ตำแหน่งของเฟอร์กี้ จริงๆ แล้วคือ Non-Executive Director หรือ ผู้อำนวยการที่ไม่มีอำนาจในการบริหาร มีชื่อห้อยลอยไว้เฉยๆ เพื่อเป็นการให้เกียรติเท่านั้น
หน้าที่หลักของเฟอร์กี้จริงๆ คืองานทูต เช่น ไปช่วยงานของสโมสรในอีเวนต์ต่างๆ และเข้ามาชมเกมในสนาม ทั้งเหย้า-เยือน เพื่อเป็นกำลังใจให้นักเตะและแฟนๆ
มีคนเปรียบเทียบว่า ตัวเลขปีละ 2.16 ล้านปอนด์ ที่เฟอร์กี้ได้รับ มีลักษณะคล้ายเงินบำนาญ เป็นการตอบแทนความสำเร็จทั้งหมด ที่เขาสร้างขึ้นมาให้กับทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่ายเงินก้อนนี้ให้เฟอร์กูสัน มา 11 ฤดูกาลติดต่อกัน ทำให้เขาได้รับเงินไปแล้ว 23.76 ล้านปอนด์ (1,025 ล้านบาท) โดยไม่ได้ทำงานอะไรมากนัก
แต่บางคนก็บอกว่า 2.16 ล้านปอนด์ต่อปี จ่ายให้คนที่เป็นสัญลักษณ์ของสโมสรระดับนี้ ก็ไม่ได้แพงตรงไหน
เข้าสู่เดือนกรกฎาคม 2024 เซอร์ จิม แรดคลิฟฟ์ เจ้าของ Ineos หนึ่งในหุ้นส่วนของทีมปีศาจแดง ตัดสินใจว่า ได้เวลาแล้วที่สโมสรต้องลดค่าใช้จ่ายส่วนเกินออกไป เพื่อทำให้ทีม "ลีน" ขึ้น
หนึ่งในวิธีลดค่าใช้จ่าย คือการปลดคน โดยแมนฯ ยูไนเต็ด มีสตาฟฟ์ทั้งสิ้น 1,100 คน จะปลดออก 250 คน เพื่อให้องค์กรมีขนาดเล็กลง ถ้าใครไม่ได้มีประโยชน์กับสโมสร ก็แยกทางกันไป
หนึ่งใน 250 คน ที่โดนฉีกสัญญา คือเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
รายงานเผยว่า เซอร์ จิม ได้เข้าไปคุยกับเฟอร์กี้เป็นการส่วนตัวและแจ้งว่า สโมสรจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่าย ดังนั้นสัญญาทูตที่เซ็นกันทุกปี จะมีผลใช้งานในฤดูกาล 2024-25 เป็นซีซั่นสุดท้าย
จากนี้เฟอร์กี้ไม่ต้องทำงานเพื่อสโมสรอีกแล้ว แต่ถ้าเขาอยากดูบอลในสนามเมื่อไหร่ ก็มาได้ตลอด สโมสรจะจัดสรรเรื่องที่นั่งเข้าชมให้เอง
เรื่องนี้ มีความน่าสนใจและแบ่งความเห็นของผู้คนออกเป็นสองฝ่าย
ฝ่ายแรก สนับสนุน Ineos โดยบอกว่า เอาจริงๆ เฟอร์กี้ก็ไม่ได้ทำอะไรมากแล้วนะ
ณ ปัจจุบัน เขาเป็นสัญลักษณ์เฉยๆ และที่ผ่านมา 11 ปี เขาก็ได้เงินมามากพอแล้ว พันกว่าล้านบาท ดังนั้นสัญญาควรยุติแค่นี้
แล้ว เฟอร์กี้เขาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเรื่องเงินนี่นา คนอายุ 82 มีเงินพันล้านในมือ ไม่มากพออีกหรือ จะเอาเงินเพิ่มไปอีกทำไม
ตัวเลข 2.16 ล้านปอนด์ต่อปี ที่เฟอร์กี้ได้รับ ยังมากกว่า ค่าเหนื่อยของค็อบบี้ เมนู กับ อาหมัด ดิยัลโล่ด้วยซ้ำ ถ้าคิดตามคอมม่อนเซนส์ หั่นค่าใช้จ่ายของเฟอร์กี้ ก็เอาไปทำอย่างอื่นได้เยอะแยะ
สโมสรควรมูฟไปข้างหน้า อะไรตัดได้ก็ต้องตัด อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัด กฎ PSR ก็ต้องระวัง
นอกจากนั้นยังเป็นการเตือนทุกคนในสโมสรด้วยว่า ขนาดปูชนียบุคคลอย่างเฟอร์กี้ ยังโดนหั่นทิ้งได้ ถ้าไม่สร้างประโยชน์กับทีม ดังนั้นนักเตะ และสตาฟฟ์ จะเอ้อระเหยลอยชาย คิดว่าตัวเอง ลอยตัวสบายใจไม่ได้เด็ดขาด เพราะคุณอาจโดนเด้งได้ทุกเมื่อ
รวมถึงเป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า ยุคสมัยของเฟอร์กูสัน มันได้เวลาแล้วที่จะสิ้นสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ควรจมกับเรื่องเดิมๆ อีกต่อไป ได้เวลามูฟไปหาสิ่งใหม่ๆ แล้ว
นั่นคือความเห็นของฝ่ายแรก
แต่อีกฝ่ายหนึ่งเห็นตรงข้าม นั่นคือ เงินแค่ 2.16 ล้านปอนด์ มันจะมากขนาดไหนกันเชียว
มูลค่าของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ร่ำรวยได้จนทุกวันนี้ ไม่ใช่เฟอร์กี้หรอกหรือ ที่เป็นคนสร้างมันขึ้นมา
มรดกทุกอย่าง ความสำเร็จของ class of 92, สามแชมป์ปี 1999 หรือ แชมป์ลีกสูงสุดมากที่สุดในอังกฤษ คนที่สร้างทุกอย่าง ก็คือเฟอร์กูสันเห็นๆ
การที่แฟนๆ ยังรักและศรัทธาสโมสร ทั้งๆ ที่ไม่ได้แชมป์ลีกสูงสุด เกิน 1 ทศวรรษ ไม่ใช่เพราะสิ่งที่เฟอร์กี้สร้างรากฐานเอาไว้หรอกหรือ
ตัวเลขแค่ 2.16 ล้านปอนด์ จ่ายให้เฟอร์กี้อีก 10 ปี ก็ 21.6 ล้านปอนด์ ยังไม่ถึง 1 ใน 4 ที่สโมสรควักเงินซื้ออันโตนี่ มาจากอาแจ็กซ์เลยด้วยซ้ำ
ที่ผ่านมา ทีมซื้อขายทำงานผิดพลาด ไม่รู้กี่หน แทนที่จะไปแก้ปัญหาตรงนั้น แต่มาตัดเงินของตำนานทิ้ง แล้วปลดจากตำแหน่งทูต ถามว่ามันใช่เรื่องหรือ?
การกระทำแบบนี้ กระทบใจเฟอร์กี้แน่นอน มันไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นความตั้งใจของผู้บริหาร ที่จะลดความสำคัญของเขาลงไป
เอริค คันโตน่า ตำนานของสโมสรโพสต์ข้อความว่า "นี่คือการกระทำที่ขาดความเคารพ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คือเจ้านายของผมตลอดไป ส่วนคนอื่นที่เหลือ (บอร์ดบริหาร) ผมอยากโยนพวกมันทิ้งแล้วกดชักโครกซะ"
แฟนบอลหลายคนคล้อยตามคันโตน่า โดยบอกว่า ถ้ามีโค้ชสักคนที่ทำให้สโมสรยิ่งใหญ่แบบเฟอร์กี้ ต่อให้จ่ายเงินโบนัสไปเรื่อยๆ จนเฟอร์กี้เสียชีวิต ก็ไม่ได้เสียดายอะไร มันคือการเทิดทูน บุคคลที่สร้างสโมสรแห่งนี้ขึ้นมาด้วยซ้ำ
ดอน ฮัทชิสัน นักเตะทีมชาติสกอตแลนด์ วิจารณ์ว่า "เป็นการกระทำที่เลือดเย็นมาก เอาจริงๆนะ แค่ขายนักเตะดาดๆ ออกไปจากทีมสักคน ค่าเหนื่อยของผู้เล่นคนนั้น เอาไปจ่ายให้เซอร์ อเล็กซ์ อยู่ต่อได้อีกหลายปีเลย"
เรื่องราวการโดนเด้งของเซอร์ อเล็กซ์ ก็จบลงตรงนี้ ถือเป็นหมากที่น่าสนใจมากๆ ของ Ineos ว่าทำไปทำไม
2.16 ล้านปอนด์ เอาจริงๆ ไม่ใช่เงินที่เยอะขนาดนั้น สโมสรย่อมจ่ายได้อยู่แล้ว แต่น่าจะมีความตั้งใจเบื้องหลังมากกว่า ซึ่งไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร
พวกเขาอยากจะลดอำนาจของเฟอร์กี้ลงไปอีก หรือแค่อยากจะประหยัดเงินเฉยๆ ตามที่บอก
หลังจากโดนปลดจากการเป็นทูต ก็คาดว่า เราอาจได้เห็นเซอร์ อเล็กซ์ น้อยลงกว่าเดิม ได้แต่อวยพรให้เขาไม่เสียใจจนเกินไปจากเรื่องนี้
มีหนึ่งประโยค ในโซเชียลมีเดีย ที่มีคนกดไลค์จำนวนมาก เป็นข้อความว่า "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟอร์มจมดิ่งแบบนี้ แต่ใครจะไปเชื่อ ว่าเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดันโดนไล่ออก ก่อนเอริค เทน ฮาก!"
- 29
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
