23 ต.ค. เวลา 03:57 • ไลฟ์สไตล์

ต้องไม่เยอะ!

เช้านี้ฉันเดินชมสวนเล็กๆข้างบ้าน ต้นไม้ใบหญ้าแลดูสะอาด สดใหม่และสวยงาม เมื่อคืนฝน
ตกหนักทั้งคืนยาวมาถึงช่วงเช้า ท้องฟ้าเช้านี้ยังเต็มไปด้วยกลุ่มเมฆสีเทาดำ ลมเย็นๆพัดผ่าน
ใบหน้าทำให้รู้สึกสดชื่น อีกไม่นานฝนคงจะตกลงมาอีกรอบ ฉันเงยหน้ามองท้องฟ้าสีเทาดำ
รู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างประดับอยู่บนแผ่นท้องฟ้าและชวนให้คิดถึงคำคำหนึ่งนั่นคือคำว่า
“ไขว่คว้า”ซึ่งเป็นกริยาที่อธิบายถึงสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้เป็นอย่างดี ไขว่คว้าเป็นการส่ายมือไปมา
เพื่อจับหรือยึด เอื้อมมือหาที่ยึดเหนี่ยว พยายามฉวยไว้ให้ได้…ภาพที่เห็นคือต้นพวงชมพูซึ่ง
เป็นไม้เลื้อย สามารถเลื้อยได้ไกล5-12เมตรและเติบโตเร็ว เมื่อคืนฝนตกหนักพวงชมพูคงได้
น้ำดีจึงชูช่อไขว่คว้าโดดเด่นแต่งแต้มผืนท้องฟ้าได้อย่างสวยงาม แต่ภาพนี้ไม่ชวนให้รู้สึก
อบอุ่นใจเท่าใดด้วยความหมายของคำว่าไขว่คว้า มันให้ความรู้สึกว่าหนักไม่โปร่งโล่งสบาย มี
คำอื่นที่ฉันนึกถึงตอนนี้คือคำว่าปล่อยวาง ที่รู้สึกว่าเบา สบาย โล่งและอบอุ่นใจ อย่างไรก็ตาม
ทั้งคำว่าไขว่คว้าและปล่อยวางฉันก็ควรที่จะละทั้งสองคำ ไม่เอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ฉัน
ควรแค่มองเห็นรับรู้ความเป็นไปของต้นพวงชมพูและไม่ปรุงแต่งเรื่องใดๆต่อไปอีก พระ
อาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญท่านสอนว่าให้เรา”เพียงแค่รู้”เท่านั้น คงจะประมาณว่าอย่าเยอะ
อะไรแบบนี้! สายลมพัดแรงขึ้น ละอองฝนโปรยปรายลงมาแล้ว ฉันเดินกลับเข้าบ้านด้วยจิตใจที่
เบาสบายขึ้น ฉันจะละทั้งสองคำนี้ไว้ข้างหลังและไม่ปรุงแต่งเรื่องใดๆอีก
โฆษณา