Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Knowledge Spiral
•
ติดตาม
23 ต.ค. เวลา 04:10 • ไลฟ์สไตล์
เรื่องราวของ Sammy Basso และการสร้างแรงบันดาลใจให้กับโลกใบนี้
ซามมี่ บัสโซ (Sammy Basso) เป็นบุคคลที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงในโลกที่ไม่มีใครเหมือน ด้วยการเป็นนักต่อสู้เพื่อการวิจัยเกี่ยวกับโปรเจเรีย (Progeria) โรคร้ายที่ทำให้ร่างกายเข้าสู่วัยชราเร็วกว่าปกติ ในโลกนี้มีเพียงประมาณ 150 คนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ และซามมี่เป็นหนึ่งในนั้น ด้วยความมั่นใจและความสนุกสนานในชีวิตที่หายาก นักต่อสู้วัย 28 ปีนี้จากอิตาลีได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก
ซามมี่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคโปรเจเรียตั้งแต่อายุเพียง 2 ปี ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมเข้าสู่วัยชราอย่างรวดเร็วตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เช่น ผมร่วง ผิวหนังเหี่ยวย่น และการแข็งตัวของหลอดเลือดแดง แม้ว่าอายุเฉลี่ยของผู้ป่วยโปรเจเรียจะอยู่ที่เพียง 14.5 ปี แต่ซามมี่ก็สามารถมีชีวิตที่ยืนยาวกว่านั้นได้ด้วยความดูแลและความรักจากครอบครัวและการใช้ยาลอนาฟาร์นิบ (Lonafarnib) ซึ่งเป็นยาที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อชะลอการเจริญเติบโตของโรค
ซามมี่เป็นมากกว่าผู้ป่วยที่อยู่กับโรคร้าย เขายังเป็นนักวิจัย เป็นผู้ทดลองยา และเป็นนักพูดที่กระตือรือร้น เขาได้ก่อตั้งสมาคมโปรเจเรียแห่งอิตาลี (Italian Progeria Association Sammy Basso) เพื่อช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคนี้ อีกทั้งยังได้ทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ เพื่อค้นหาวิธีการรักษาโรคที่มีความซับซ้อนนี้อีกด้วย
ซามมี่ได้รับเกียรติสูงสุดจากประธานาธิบดีเซอร์จิโอ แมตตาเรลลา (Sergio Mattarella) ของอิตาลีที่มอบยศอัศวินให้แก่เขาในปี 2018 ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการยกย่องในความกล้าหาญและความพยายามของเขา
ความมุ่งมั่นของซามมี่ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เขายังมีความสามารถในการสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้างอีกด้วย ซามมี่เคยแต่งตัวเป็นมนุษย์ต่างดาว โดยใส่แว่นตาสีเขียวหน้าพิพิธภัณฑ์ UFO ในเมืองโรสเวลล์ นิวเม็กซิโก เพื่อหลอกให้นักท่องเที่ยวคิดว่าเขาเป็นผู้มาเยือนจากนอกโลก ทุกคนที่รู้จักซามมี่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขามีความสามารถพิเศษในการทำให้คนรอบข้างรู้สึกสบายใจและยิ้มแย้ม
ซามมี่ยังได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเพื่อนที่รู้จักกันในนาม "Sammy’s Runners" ซึ่งเป็นกลุ่มที่ร่วมกันวิ่งมาราธอนเพื่อระดมทุนและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคโปรเจเรีย โดยมีซามมี่อยู่ในรถเข็นที่ถูกเข็นไปพร้อมกัน การแสดงออกนี้เป็นการบอกว่า ไม่ว่าจะมีความท้าทายมากแค่ไหน การมีกลุ่มคนที่อยู่เคียงข้างก็สามารถทำให้ผ่านพ้นไปได้
ซามมี่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วยโปรเจเรียคนอื่นๆ ทั่วโลก เขาเชื่อว่าการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของชีวิต และการไม่ยอมแพ้ต่อโรคนี้จะสามารถเป็นกำลังใจให้กับคนอื่นได้ “สิ่งที่ผมอยากให้พวกเขาเรียนรู้จากประสบการณ์ของผมก็คือ ชีวิตของพวกเขามีความสำคัญ และพวกเขาสามารถเป็นประโยชน์ต่อโลกได้” ซามมี่กล่าว
การที่ซามมี่มีชีวิตอยู่จนถึงอายุ 28 ปี ซึ่งนับว่าเป็นอายุที่ยืนยาวที่สุดในหมู่ผู้ป่วยโปรเจเรียที่ได้รับการบันทึกไว้นั้น เกิดขึ้นได้ด้วยความพยายามและการดูแลตัวเองอย่างดี รวมถึงความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่เขามีส่วนในการร่วมทดลองและวิจัย การศึกษาต่อด้านชีววิทยาและวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยปาดัว ทำให้ซามมี่ไม่เพียงแค่เป็นผู้ป่วย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมวิจัยที่กำลังหาวิธีรักษาและยับยั้งโรคนี้อีกด้วย
ซามมี่ได้จากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ใกล้บ้านของเขาที่เมืองเทซเซ ซูล เบรนตา ในแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี แต่เรื่องราวของเขาจะยังคงอยู่ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลกว่า การเผชิญหน้ากับความท้าทายและการไม่ยอมแพ้สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกได้
Source: The New York Times.
Note: บทความนี้มี Generative AI เป็นผู้ช่วยเขียน
#KnowledgeSpiral #sammybasso
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย