23 ต.ค. เวลา 09:48 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

กลับบ้านเรา รักรออยู่ : รีวิว Once upon a small town

ใครที่เบื่อหนังเกาหลีแนวพระเอกเป็นท่านประธาน ทั้งเรื่องเห็นแต่สไตล์การใช้ชีวิตหรูหราไฮโซ ใส่สูทผูกเนคไท ทำงานบริษัท ขับซุปเปอร์คาร์อยากเปลี่ยนแนวมาดูวิถีการใช้ชีวิตแบบชนบท ให้มาดูเรื่องนี้ Once upon a small town หรือ บันทึกรักในเมืองเล็ก
บันทึกรักในเมืองเล็ก เป็นชีวิตเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาหลี ชาวบ้านมีอาชีพทำเกษตรกรรม เลี้ยงปศุสัตว์ ฮันจีฮุล พระเอกหนุ่มสัตวแพทย์ผู้มีอนาคต ทำงานในกรุงโซล แต่มีเหตุจำเป็นต้องกลับมาทำงานในโรงพยาบาลสัตว์ในหมู่บ้านฮีดงแห่งนี้ชั่วคราวแทนคุณปู่ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้ไปเที่ยวพักร้อน
ทำให้เขาต้องปรับตัวเข้ากับผู้คนที่นี่ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแต่ผู้สูงอายุที่ชอบเข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่น ซึ่งพระเอกของเราไม่คุ้นเคย
ฮันจีฮุลพบกับอันจายอง หรือ เจ้าหน้าที่อัน นางเอก เป็นตำรวจหญิงซึ่งเคยรู้จักกันในสมัยวัยเด็กตอนที่พระเอกมาพักอยู่กับปู่ที่หมู่บ้านนี้แต่เขาจำไม่ได้
นางเอกของเรามีปมเป็นลูกกำพร้าขาดแม่ ทำให้นางต้องเอาอกเอาใจ วิ่งวุ่นช่วยเหลือคนในหมู่บ้านเพื่อให้ชาวบ้านสงสารเอ็นดู เรียกว่าอยู่เป็น ซึ่งทำให้เธอเป็นขวัญใจชาวบ้าน ในตอนแรกพระเอกรำคาญในความจุ้นจ้านชอบช่วยเหลือของเธอ
แต่ในที่สุด หนุ่มเมืองกรุงก็ตกหลุมรักนางเอก เริ่มชอบชีวิตแบบชนบทที่อบอุ่นผู้คนมีน้ำจิตน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน
ในหมู่บ้านแห่งนี้ นางเอกมีเพื่อนรักคนหนึ่งคือ อีซังฮยอน เป็นลูกชายผู้ใหญ่บ้านซึ่งแอบชอบนางเอกแต่ไม่แสดงออก จนมารู้ตัวว่าคิดเกินเพื่อนเมื่อเจอคู่แข่งคือพระเอก
แง่คิดที่ได้จากการดูซีรีส์ Once upon a small town
1.ซีรีส์เรื่องนี้กระตุ้นให้คนหนุ่มสาวกลับมาสำนึกรักบ้านเกิด
แนวการใช้ชีวิตของพระรองเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่เอาการเอางาน มีแนวคิดแตกต่างจากเพื่อนวัยเดียวกันที่เรียนจบแล้วต้องไปทำงานในเมืองกรุง แต่เขามาใช้ชีวิตอยู่ในชนบทกับคนแก่ รักในอาชีพเกษตรกรของตัวเอง ทำงานอาสาสมัครเป็นประธานคนรุ่นใหม่
ทำไร่พีช ที่น่ารักมากคือ เขาทำรถกะบะเปิดร้านกาแฟกลางไร่พีช ใครอยากดื่มกาแฟก็ขับรถ หรือ ถีบจักรยานมาชงดื่มเองแล้วก็หยอดเงินค่ากาแฟทิ้งไว้ เขายึดมั่นในการเป็นคนท้องถิ่นของหมู่บ้านฮีดง
2.ให้คุณค่าความสัมพันธ์ของคน นิสัยของคนชนบทถึงแม้จะชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่นแต่ก็มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ บางครั้งคนในเมืองไม่ไม่เข้าใจคิดว่าเป็นการล้ำเส้น
นางเอกใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวในหมู่บ้านแห่งนี้เนื่องจากโดนแม่ทิ้งไปซึ่งเป็นปมด้อยของเธอทำให้เธอต้องทำให้ชาวบ้านคนอื่นๆเอ็นดูเธอด้วยการไปช่วยเหลือคนอื่นๆอยู่อย่างสม่ำเสมอเรียกว่าเธออยู่เป็น
ชอบวิวบรรยากาศชนบท ท้องฟ้าโล่ง เห็นก้อนเมฆสีขาวฟูฟ่อง ทุ่งนาเขียวขจี
3.แกนของหนังเรื่องนี้คือ เป็นเรื่องรักโรแมนติกระหว่าง หนุ่มสาวซึ่งสามารถเป็นตัวอย่างให้คนหนุ่มสาวที่กำลังมีความรักได้เป็นอย่างดี
อีซังฮยอน พระรองที่บอกนางเอก เมื่อถูกปฎิเสธความรักว่า “ถึงอย่างไรเธอก็ยังรักฉันอยู่ใช่ไหม ถึงแม้จะไม่ใช่ในคนรักแต่เธอก็รักฉันในฐานะเพื่อน อาจจะฐานะพี่ชายหรือ อาจจะเป็นได้ตั้งหลายสถานะทั้งลุงทั้งอา”
การจัดการความรัก 3 เส้า ที่ดูสวยงามลงตัว ไม่มีการเจ็บแค้นโกรธเคืองของคนที่โดนปฏิเสธ
หนังเรื่องนี้สอนชีวิตความรักที่ดีงาม คนที่ถูกปฎิเสธก็ยอมรับแบบแมน ๆ
นางเอกก็ไม่คบซ้อน หรือ รักพี่เสียดายน้อง นางคิดตรึกตรองจนรู้ตัวว่ารักใคร ซื่อสัตย์ต่อหัวใจตัวเอง
หนังส่วนใหญ่จะจบลงหลังจาก พระเอกนางเอกลงเอยกัน แต่เรื่องนี้มีแง่มุมในการปฏิบัติตัวหลังเป็นแฟนกันให้คนดูได้เห็น
เมื่ิอทั้งคู่ตกลงคบหาเป็นแฟนกัน ต่างก็ยังไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร พระเอกเกิดอุบัติเหตุแขนเจ็บก็ไม่กล้าบอกนางเอก จนรุ่นพี่ที่ทำงานเตือนว่าการเป็นแฟนกันต้องเปิดเผยแชร์ข้อมูลทุกอย่าง ไม่งั้นความสัมพันธ์จะเหินห่าง
ส่วนนางเอกถึงแม้อยากจะรู้สารทุกข์สุกดิบของพระเอก อยากจะโทรถามวันละ 20 ครั้ง แต่ก็อดทนเพราะกลัวฝ่ายชายจะรำคาญ แต่ก็ได้คำแนะนำว่าให้แสดงออกไปเลยให้อีกฝ่ายได้รับรู้ความรู้สึกจริง ๆ ของเราดีกว่าไม่งั้นความรักจะจืดจาง
ชอบนางเอกเรื่องนี้ที่ไม่แสดงโบ๊ะบ๊ะมาก เธอเล่นเรียบร้อยแบบพอดีพองาม (แต่รู้สึกว่านางหว่านเสน่ห์ใส่พระเอกเกินไปอยู่นะ)
เนื้อเรื่องถึงแม้จะไปเรื่อย ๆ แต่ไม่เยิ่นเย้อ ตัวละครดูฉลาดไม่แกล้งโง่ พระเอกกับพระรองก็เชือดเฉือนกันแบบตรงไปตรงมา สุดท้ายพระรองก็ยอมรับความพ่ายแพ้แบบแมน ๆ
สรุปว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้ ไม่มีปมดราม่าหนักให้เครียด พระเอกนางเอกไม่คลั่งรักจนดูน่าหมั่นไส้ ฉากเป็นวิวชนบทท้องฟ้าใสกระจ่าง มองเห็นท้องทุ่งนาสุดลูกหูลูกตา ดูแล้วผ่อนคลาย สบายใจ เป็นซีรีส์ฟีลกู้ดอีกเรื่องหนึ่งที่สมควรดูในยุคนี้ค่ะ
#อ้อยคราฟต์ไดอารี่
โฆษณา