24 ต.ค. เวลา 10:31 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

โจ๊กเกอร์ 2 โฟลีย์ อา เดอ

เมื่ิอคนบ้ามาเจอกัน กลายเป็นจิตหลอนร่วม อุปทานหมู่ เป็นหนังภาค 2 จากโจ๊กเกอร์
หนังที่ตบหน้า fc
ตัวตลกที่ไม่ตลก
หนังแนวมิวสิคัล ที่คนดูหลายคนบ่น
จะว่าไปแล้ว ถ้าไม่เคยดู โจ๊กเกอร์ 1 อาจมีคนชื่นชอบก็ได้ แต่เมื่อมันมีภาพจำของภาคแรก คนดูคาดหวังจะเห็นโจ๊กเกอร์ในแนวที่วาดไว้ เหมือนว่าก๋วยเตี๋ยวน้ำตกต้องรสชาติแบบนี้ แต่พอคนเสริฟยกก๋วยจั๊บมา มันกลายเป็นไม่อร่อยไปได้ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ น้ำตก หรือก๋วยจั๊บ แต่ปัญหามันอยู่ที่ผิดความคาดหวัง
ตอนมีข่าวว่าจะมี โจ๊กเกอร์ 2 คิดไม่ออกว่ามันจะสนุกยังไง เพราะภาคแรกมันสุดติ่งกระดิ่งแมวไปแล้ว ภาคสองจะเอาอะไรมาสุดได้มากกว่านั้นอีก เหมือนขึ้นไปอยู่ยอดเขา ถ้าจะเดินต่อก็มีแต่จะกลายเป็นลงเขา แต่ไม่คิดว่าจะกลิ้งลงขนาดนี้ ไม่ใช่เดินลง รายได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก ห่างไกลจากภาคหนึ่งลิบลับ
รีวิวช้า กลัวจะเผลอสปอย หนังยังไม่ออกโรง แต่ตอนนี้ก็ออกเกือบหมดแล้ว สปอยได้ แต่แค่หอมปากหอมคอ เพราะยังออกโรงไม่หมด ยังมีบางโรงยังฉายต่อถึงสิ้นเดือน
ถามว่าผิดหวังเหมือนคนอื่นเขาไหม ก็ไม่ถึงขั้นนั้นนะ เพราะไม่ได้คาดหวังไว้มาก แต่ทำไมถึงบอกว่า “หนังตบหน้า” ก็ตบหน้าด้อมไง ให้ตื่นมาดูความจริงได้แล้ว โจ๊กเกอร์ไม่มีจริง อย่าเคลิ้มไปกับภาคแรก
ผู้กำกับระดับท็อดด์ ฟิลลิปส์ จะไม่รู้เชียวหรือว่า ทำไปแล้วจะเรทติ้งตก แต่เมื่อผู้สร้างไม่รู้จักพอ เห็นภาค 1 ประสบความสำเร็จทะลุโลก ก็อยากทำให้มันทะลุจักรวาล จึงดันให้มีภาค 2 ผู้กำกับก็จัดให้ แต่จัดตามใจเขานะ ไม่ตามใจตลาด มันจึงออกมาเป็นอย่างนี้ ตอนนี้ผู้สร้างคงหงายหลัง ลมจับไปแล้ว
ไหนๆ จะทำภาคสองแล้ว ท็อดด์ ได้โอกาสแก้ไขความเข้าใจผิด เขาแก้ปมให้เห็นว่า โจ๊กเกอร์มันจบไปตั้งแต่ภาคแรกแล้ว แต่มันไม่จบในใจคนดู กลับกลายเป็นมันถูกส่งต่อให้คุณแล้วใช่ไหม คุณยังถวิลหาโจ๊กเกอร์ในแบบที่คุณต้องการ คุณกลายเป็น fc ที่หลงไหลในโจ๊กเกอร์ในแบบที่คุณวาดไว้ คุณก็เหมือนไอ้เด็กหนุ่มคนนั้นที่ลงมือฆ่าอาเธอร์ในคุก เพียงเพราะมันไม่ได้ดั่งใจ เขาไม่ใช่โจ๊กเกอร์ที่คุณอยากได้ มันก็แค่ไอ้คนขี้แพ้ที่ชื่ออาเธอร์
หนังจึงมีคำถามว่า คนที่กลายเป็นโจ๊กเกอร์จริงๆ ไม่ใช่อาเธอร์ แต่เป็นคนที่พยายามปลุกมันอยู่ต่างหาก
1
อุตส่าห์เอาศิลปินนักร้องระดับแม่เหล็กอย่างเลดี้กาก้ามาดึงดูดก็ยังไม่ช่วยอะไรได้มาก นักแสดงทุกคนเล่นได้ดีไม่มีที่ติ เลดี้กาก้าเองก็ทั้งสร้างสีสันและแสดงได้เยี่ยมมาก ส่วนวาคีน ฟีนิกซ์ ไม่ต้องพูดถึง แรงดีไม่มีตกในด้านมาตรฐานของเขาอยู่แล้ว ไม่มีใครทำให้ผิดหวัง มีแต่ท็อด ที่กลายเป็นคนผิดจากการนำเสนอในรูปแบบกลายพันธุ์ไปจากเดิม คนที่ปรับตัวไม่ได้กับรสชาติใหม่ถึงกับบ่นอุบ
ท็อดด์ ดึง ฮาร์ลีย์ ควีนน์ เข้ามาเพื่อเป็นตัวแทนของติ่ง ที่มีความคลั่งไคล้จนไม่สนใจความจริง เธอนอนกับโจ๊กเกอร์ ไม่ได้นอนกับอาเธอร์ เห็นได้จากเธอแต่งหน้าให้อาเธอร์ให้เป็นโจ๊กเกอร์ก่อนที่เธอจะร่วมหลับนอน เมื่อวันหนึ่งที่อาเธอร์เลือกที่จะทิ้งโจ๊กเกอร์ เธอก็เลือกที่จะทิ้งเขาเช่นกัน
แล้วคุณล่ะ คุณก็เป็นด้อมของโจ๊กเกอร์ที่สรรเสริญการกระทำเพื่อความสะใจคนหนึ่งเหมือนกันใช่ไหม คุณไม่สนใจว่าไอดอลของคุณจะผิดถูก แค่คุณรู้สึกว่ามันชอบธรรม มันน่าเห็นใจ แต่คุณก็อย่าลืมว่า โลกความจริง มันควรมีระบบด้วยเช่นกัน
นี่คือสิ่งที่ท็อดบอกคุณ แม้ว่าความถูกต้องมันอาจไม่ถูกใจ แต่คุณก็ต้องยอมรับ เหมือนอย่างรายได้ที่หนังไม่ประสบความสำเร็จ ท็อดก็ต้องยอมรับ นั่นก็คงเป็นสิ่งที่เขาทำใจอยู่แล้ว แต่เขาประสบความสำเร็จในสารที่เขาต้องการสื่อ คืออย่าเป็นเหยื่อกระแส
การทำเป็นมิวสิคัล เข้าใจได้ว่า นอกจากจะให้ส่องดูอารมณ์ของตัวแสดงแล้ว ยังเอาไว้คั่นจังหวะของการดำเนินเรื่องที่มีแต่ห้องขังกับในศาล แต่มันก็ทำให้น่าเบื่ออยู่ดี ต่อให้ภาพแสงสี จะอาร์ตแค่ไหน ก็ยังช่วยได้ไม่มาก
ก็ยังถือว่าเป็นหนังมีคุณภาพ เอาไว้รอให้ออกโรงสักพักจะกลับมาสปอยยิบ
หรือจะกลับไปดูการรีวิวภาคแรกได้ที่ลิ้งค์
โฆษณา