24 ต.ค. เวลา 12:44 • ความคิดเห็น
เนื่องจากที่ทำงานคนเยอะ พอโควิดระบาด ควบคุมไม่อยู่ สาธารณสุขต้องการจิตอาสาในที่ทำงานเดียวกัน มาช่วยดูแลคนติดเชื้อ เพราะสาธารณสุขดูแลไม่ทัน
เราเป็นหนึ่งในจิตอาสา ดูแลผู้ติดเชื้อทางโทรศัพท์ ชุดละราวๆ 8-10คน โดยดูแลตั้งแต่วันแรกที่ตรวจเจอเชื้อ โดยที่ทำงานให้พนักงานตรวจ ATK ทุกสัปดาห์
หน้าที่ของจิตอาสา คือโทรหาผู้ติดเชื้อวันละ 2ครั้ง เช้าบ่าย ทุกวัน เพื่อเช็คอาการ โดยให้ผู้ติดเชื้อวัดไข้ วัดค่าอ๊อกซิเจนเอง แล้วรายงานเรา อุปกรณ์การวัดที่ทำงานแจกให้
มีเคสหนึ่ง น้องเข้าขั้นโคม่า ลงปอด จนหมออัดยาทุกชนิดแล้วก็เอาไม่อยู่ เหลือยาฆ่าเชื้อตัวสุดท้าย เข็มละเกือบหมื่นต้องฉีด 5เข็ม น้องโทรมาบอกว่าพี่ประกันสังคม+ประกันสุขภาพของบริษัทแล้วก็ยังต้องจ่ายเพิ่ม อีกเกือบแสน โรงพยาบาลให้มีคนเซ็นต์ตอนนี้ เพราะต้องรีบฉีด นาทีชีวิตคนนะ เราบอกน้องยืนยันกับหมอเลยนะให้ฉีดได้เลย เดี๋ยวพี่จะรีบติดฝ่ายบุคคลให้ติดต่อโรง'บาล ถ้าติดต่อฝ่ายบุคคลไม่ได้หรือมีปัญหาอะไร เดียวพี่มาจ่ายแอดวานซ์ให้ที่โรงบาลเลย ถ้าหมอยังไม่ฉีดรีบโทรหาพี่นะ
สรุป น้องคนนี้รอดค่ะค่าใช้จ่ายทั้งหมด 3แสนกว่าบาท
การคุยกับน้องๆผู้ติดเชื้อที่เราดูแลทุกวัน มีทั้งขำ มีทั้งตื่นเต้น มีเรื่องสนุกๆเยอะมาก มีทั้งเรื่องเครียดเพราะเขาต้องเปิดเผยเราทุกอย่าง อยู่กับใคร ใครติด ใครไม่ติด เพราะเราต้องสอนการดูแลตัวเอง และป้องกันการแพร่เชื้อไปหาตนอื่น การเดินทางไปโรงพยาบาล (รถตู้ที่ทำงาน) การเข้าห้องน้ำสาธารณะ การอยู่ใน hospitel
อย่างน้องผู้ชายคนนึงถามว่าพี่ ทำไมผมติด ทำไมแฟนผมรอด เขาก็กินร่วมถ้วยกับผม ฟิเจอริ่งกันอยู่ (เราถามเดี๋ยวๆ ฟิ้จอริ่งคืออะรัย เขาก็ไม่กล้าพูดตรงๆ😃)
มีน้องผู้หญิงคนนึง โทรมาฟ้อง เขาต้องอยู่ห้องเดียวกับคนพม่า หนู่อยู่ไม่ได้ หนูไม่ชอบพม่า หนูอยู่ไม่ได้ หนูขอย้ายห้อง เลยโดนไม้โหดเช้าให้ พม่าแล้วไง เขาก็คนธรรมดา เขาลำบากกว่าหนูอีกมาติดเชื้อต่างบ้านต่างเมือง คิดถึงจิตใจเขาหน่อย สถานการณ์แบบนี้อย่ามากเรื่อง เราโชคดีขนาดไหนที่มีโอกาสรักษา มีโอกาสมาอยู่ hospitel ฟรี คิดเยอะๆ ไม่กล้างอแงอีกเลย
โฆษณา