#การกลับชาติมาเกิดของพระพุทธเจ้าในเรื่องชาดกต่างๆ

#ถาม: ชาวพุทธจะอธิบายเรื่องกลับชาติของพระพุทธเจ้าในเรื่องชาดกต่าง ๆ อย่างไร จึงจะไม่เป็นสัสสตทิฎฐิ และเป็นที่ยอมรับได้ หรือมีประโยชน์แก่มนุษย์ในยุคปัจจุบันนี้ ซึ่งเป็นยุควิทยาศาสตร์ครับ?
.
#พุทธทาสภิกขุ : เกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นปัญหาซับซ้อน ที่มีข้อความเรื่องชาดก แล้วกลับชาติชาดกเกิดมาชาตินั้นเป็นคนนั้น เป็นคนนี้ เช่นว่า "#พระเวสสันดร" มาเกิด เป็นพระพุทธเจ้าอย่างนี้
.
มันก็เป็นเรื่องชาดก เขาไม่ได้มุ่งหมายจะให้เป็นหลักวิชาความจริงปรมัตถ์อะไรนักหรอก เขามุ่งหมายจะสอนศีลธรรม
.
ชาดกทั้งชุดอยู่ในหมวดขุททกนิกาย มุ่งจะสอนศีลธรรมให้เข้ากันกับความเชื่ออย่างนั้นอยู่แล้วก่อนพระพุทธเจ้า
.
พระพุทธเจ้าตรัสเรื่องชาดก #ท่านก็ไม่ได้ตรัสเรื่องกลับชาตินะ ไปดูให้ดีเถอะ อ้ายเรื่องกลับชาติ ต่อท้ายชาดกนั้นเป็นเรื่องทีหลัง เป็นของทีหลัง
.
คำอธิบายข้อนี้อย่างละเอียดที่สุดก็คือ พระราชวิจารณ์ในหลวงรัชกาลที่ ๕ ขอร้องว่า ถ้าใครสามารถหาได้เอามาดูก็ขอให้เอามาศึกษาเถอะ
.
พระราชวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องชาดกในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างไรของรัชกาลที่ ๕ ไปหาซื้อหนังสือชุดชาดก และเล่มแรกน่ะถ้าเขายังพิมพ์อยู่ตามเดิมโน้น จะมีพระราชวิจารณ์นี้อยู่และละเอียดเป็นที่พอใจ
.
อาตมาเห็นด้วยทุกอย่างทุกประการว่า เขามุ่งหมายสอนศีลธรรมเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีมาแต่กาลก่อนทั้งในอินเดีย ทั้งนอกอินเดีย
.
ส่วนข้อความตอนกลับชาติเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ใช่ของเดิมเป็นของใหม่ที่ผู้มีเจตนาดี จะทำให้สมบูรณ์แล้วก็ทำ
.
ฉะนั้น อย่าเอามาอ้างเป็นเรื่องสัสสตทิฎฐิหรืออะไรทำนองนี้ มุ่งหมายจะสอนศีลธรรมจะยกฐานะของพลเมืองให้มีศีลธรรมดีขึ้นโดยเร็ว
.
คือ กลัวบาปเกี่ยวกับเรื่องเวียนว่ายตายเกิด ฉะนั้น คำถามในปัญหานี้ไม่ต้องตอบ เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะสอนสัสสตทิฎฐิ อุจเฉกทิฎฐิอะไร เป็นเรื่องศีลธรรม ยกย่องศีลธรรมขึ้นมาโดยเร็วและไม่ใช่สอนวิทยาศาสตร์
คำสอนเรื่องกลับชาติมาเกิดของชาดกไม่กล่าวได้ว่า เป็นพุทธดำรัส เป็นของเติมทีหลัง
.
เมื่อพุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์ คำสอนตอนนี้ไม่เป็นวิทยาศาสตร์แล้วก็ไม่ต้องพูด เพราะมุ่งหมายจะสอนศีลธรรมในยุคที่เขาต้องการจะยกย่องทางศีลธรรมโดยพระอาจารย์ในยุคต่อ ๆ มาทำไปด้วยเจตนาที่หวังดี
.
เรื่องเวียนว่ายตายเกิด เรื่องกลับชาตินี้ เขาเชื่อกันอยู่แล้วก่อนพระพุทธเจ้า ก่อนพุทธกาล เรื่องอย่างนี้ พระพุทธเจ้าจะไม่ทรงแตะต้อง ท่านจะไม่แตะต้องความเชื่อของคนที่เขาเชื่อกันอยู่แล้วก่อนพุทธกาล
.
แต่ท่านจะหาช่องหาโอกาสพูดผสมโรงเข้าไปอย่างไรให้ได้ประโยชน์ที่สุด นี้เป็นปฏิปทาของพระพุทธเจ้าผู้ที่ไม่มีเจตนาจะลบล้างใคร จะทำลายใคร ท่านไม่ได้เกิดมาเพื่อลบล้างใครแต่ท่านเกิดมาเพื่อผสมโรงให้เรื่องนั้นมันสำเร็จบริบูรณ์ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
.
พระเยซูก็ยังตรัสอย่างนี้. อย่าว่าแต่พระพุทธเจ้าเลย ว่าท่านไม่ได้เกิดมาเพื่อลบล้างบรรดาคำสอนศาสนาที่มีอยู่ก่อน
.
แต่จะมาช่วยส่งเสริมให้สำเร็จประโยชน์ตามความมุ่งหมายนั้นยิ่งๆ ขึ้นไป นี้ก็ได้แก่เรื่องบางชนิด เช่น เรื่องตอนท้ายของอรรถกถาของชาดก เกี่ยวกับเรื่องกลับชาติมา เป็นต้น.
.
#พุทธทาสภิกขุ
วันล้ออายุ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๒๔
โฆษณา