26 ต.ค. 2024 เวลา 01:02 • ความคิดเห็น

เราต่างก็มีวิธีเยียวยาจิตใจในแบบของตัวเอง

ในชีวิตของเราแต่ละคน ย่อมต้องพบเจอทั้งช่วงเวลาที่ดี ช่วงเวลาที่ท้าทาย ช่วงเวลาที่หัวเราะ ยิ้มสดใส ช่วงเวลาที่ร้องไห้ และช่วงเวลาที่ร้ายจนรู้สึกว่าโลกทั้งใบถาโถมเข้ามาให้ต้องรับมือ บางครั้งเราอาจรู้สึกหนักใจ เศร้า หรือสับสน แต่เราทุกคนมักมีวิธีรักษารอยแผล มีวิธีในการเยียวยาจิตใจตัวเองที่แตกต่างกันออกไป
บางคนอาจพบว่าการฟังเพลงที่ชอบเป็นเหมือนยาวิเศษที่ช่วยปลอบประโลมใจ ท่วงทำนองและเนื้อเพลงสามารถพาเราเดินทางไปสู่ที่ๆ ความทุกข์เบาลง ราวกับได้เข้าไปอยู่ในโลกของเสียงเพลงที่ทำให้หัวใจเราสงบลงได้ เพลงบางเพลงอาจพาเราย้อนกลับไปคิดถึงความทรงจำดีๆ หรือปลุกพลังบวกในใจเรา ให้พร้อมก้าวข้ามวันที่ท้อแท้ไปได้
บางคนเลือกที่จะใช้การเดินเล่นเป็นวิธีบำบัดจิตใจ ก้าวเดินไปช้าๆ ในสวนสาธารณะ รู้สึกถึงลมที่พัดผ่าน หรือเสียงนกร้องเบาๆ ก็สามารถเป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเอง ปล่อยความคิดล่องลอยไปในที่ปลอดภัย ช่วยให้เราสงบและเห็นมุมมองใหม่ๆ ในสถานการณ์ที่เครียด
หรือบางคนอาจจะเยียวยาใจด้วยการสนทนากับคนที่ไว้ใจ การได้พูดคุยระบายความในใจออกมา ไม่ว่าจะเป็นกับเพื่อน คนในครอบครัว หรือใครสักคนที่พร้อมจะฟังโดยไม่ตัดสิน อาจช่วยให้เรารู้สึกเบาลงได้ การฟังคำแนะนำจากคนที่หวังดีหรือแม้แต่เพียงคำปลอบใจเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจเป็นเหมือนแสงสว่างในวันที่มืดหม่น
ในทางกลับกัน บางครั้งการนั่งเงียบๆ อยู่กับตัวเองในมุมสงบของบ้าน อาจเป็นคำตอบสำหรับบางคน ความเงียบนี้ไม่ใช่การหนีจากปัญหา แต่เป็นการให้โอกาสเราได้ฟังเสียงในใจตัวเอง ได้ยินสิ่งที่เราไม่ได้ยินในวันที่ชีวิตยุ่งเหยิง ทำให้เราได้ไตร่ตรองพิจารณาสิ่งต่างๆ และชาร์จแบตฟื้นฟูพลังให้เราก้าวเดินไปได้
ไม่ว่าเราจะเลือกวิธีใด ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมที่รัก การใช้เวลาทำอาหารหรือออกกำลังกาย การเขียนบันทึก หรือแม้แต่การร้องไห้ ทุกวิธีที่คุณเลือกนั้นไม่มีถูกหรือผิด เพราะนั่นคือการดูแลจิตใจในแบบของเราเอง
ท้ายที่สุด เราทุกคนมีวิธีเยียวยาตัวเองในแบบที่ต่างกัน และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราแต่ละคนมีคุณค่าในตัวเอง อย่าลืมให้เวลาตัวเองดูแลจิตใจบ้าง เพราะจิตใจที่เข้มแข็งไม่ได้มาจากการผ่านพ้นความทุกข์เท่านั้น แต่มาจากการที่เราให้โอกาสตัวเองได้พัก ได้ฟื้นฟู และกลับมายิ้มได้ในวันต่อๆ ไปครับ
โฆษณา