26 ต.ค. เวลา 12:40 • ประวัติศาสตร์

“ศรีสุดาจันทร์” ลักษณะสตรีที่ 1,000 ปี จะกำเนิดขึ้นสักคน

หลายคนอาจเริ่มรู้จัก “ท้าวศรีสุดาจันทร์” จากภาพยนตร์เรื่อง “สุริโยทัย” อ้างอิงบันทึกทางประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยา ราชวงศ์สุพรรณภูมิ
แม้ช่วงที่ท้าวศรีสุดาจันทร์มีอำนาจเหนือขุนนางในพระบรมมหาราชวังทั้งปวงจนกระทั่งถูกลอบสังหารกลางคลองปลาหมอ มีพงศาวดารหลายฉบับได้บันทึกเหตุการณ์มากมาย แม้นักประวัติศาสตร์ยุคหนึ่งจะพยายามลบ “ขุนวรวงศาธิราช”  ออกจากทำเนียบพระมหากษัตริย์ไทยก็ตามที
เรารู้จัก “ท้าวศรีสุดาจันทร์” ในฐานะสตรีเพียงผู้เดียวในราชอาณาจักรอโยธยาศรีรามเทพที่ก้าวขึ้นมาเป็น “นางพระยาเจ้าแม่อยู่หัว” แต่ที่ไม่ค่อยได้ถูกพูดถึงคือ บ้านเกิดของนางอยู่ที่ไหน ชีวิตวัยเด็กก่อนถวายตัวเข้าวัง และเมื่อถูกลอบสังหารแล้วศพของนางถูกจัดการอย่างไร
นี่คือบันทึกบนศิลาจารึกในอีกมุมของสตรีที่ถูกประวัติศาสตร์ตีตราบาปมาจนถึงปัจจุบัน
(ข้อมูลอ้างอิง จากเว็บไซต์ MGR online เผยแพร่เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2558 โดย: โรม บุนนาค)
“บัวผัน” คือชื่อของเด็กสาวสามัญชนเกิดในครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน บิดามารดาอยู่ที่บ้านนาเกลือปากน้ำเจ้าพระยา ต.สาขลา แขวงเมืองพระประแดง
มีข้อความจารึกบนศิลาไว้ว่า บัวผันมีใบหน้าเป็นรูปไข่ คิ้วโก่งสุดหางตา ดวงตาคมกลมดำเป็นมันเหมือนมณีนิล จมูกโด่งเรียวงามดังคันศร เมื่อใดที่นางยิ้ม แก้มทั้งสองจะปรากฏลักยิ้ม แก้มทั้งสองมีสีราวมะปรางสุก เนื้อหนังอ่อนละมุนดังผ้ากำมะหยี่หรือสำลี เนื้อละเอียดเกลี้ยงมีสองสี มีขาวเจือเหลืองเหมือนลูกจันทน์สุก เส้นผมอ่อนนุ่มดำเป็นเงาเจืออ่อนๆ เล็บมือเท้างุ้มคล้ายเล็บครุฑ ฟันเล็กๆเท่ากันทั้ง 32 ซี่
ถันยุคลทั้งคู่อวบอูมดังดอกบัวสัตตบงกช ฐานคอดกลางป้องปลายงอน ดันฐานชิดติดกันเอาพลูเสียบไม่หล่น นมมีน้ำใสๆไหลออกมาบางคราว มีกลิ่นหอมคล้ายดอกพิกุล เมื่อบัวผันเริ่มมีระดู ระดูนั้นมีกลิ่นคล้ายคล้ายดอกพิกุลแห้ง แม้แต่ผ้าที่เปื้อนโลหิตระดู เมื่อซักด้วยน้ำแล้วนำไปตาก จะมีแมลงภู่ผึ้ง แมลงชันโรง แมลงวัน มาตอมเป็นกลุ่ม สูบกลิ่นหอมหวานโลหิตติดผ้านั้นทุกคราวตากผ้า..
รูปร่างลักษณะที่อธิบายถึงรูปลักษณ์ของบัวผัน สันนิษฐานว่าเนื่องจากนางเป็นสามัญชนเติบโตในชนบทแต่ความงามของนางโดยกำเนิดได้พาวาสนาอันสูงส่งมาด้วย โดยได้เข้าไปใช้ชีวิตในวังตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ซึ่งสาเหตุที่มีคนจดจำลักษณะต่างๆของนางได้เพราะเด็กชนบทน้อยคนนักจะได้รับพระกรุณาถึงขนาดนี้
ขณะมีอายุเพียง 9-10 ขวบ วันหนึ่งเกิดฝนตกหนัก บัวผันออกไปเล่นน้ำฝนกับเพื่อนหญิงฝ่ายใน วิ่งไปบนระเบียงมหาปราสาท สมเด็จพระไชยราชาทอดพระเนตรเห็นความพิเศษของบัวผันที่แตกต่างจากเด็กอื่น ทรงพิจารณาอยู่นาน จากนั้นก็รับสั่งขอตัวเด็กหญิงที่สะดุดพระเนตรต่อพระอัครมเหสี ซึ่งพระนางก็ได้นำตัวบัวผันไปถวายต่อพระราชสวามี
ตั้งแต่นั้นชีวิตของบัวผัน ก็ค่อยๆถูกวาสนาชักพาไปจนกลายเป็นท้าวศรีสุดาจันทร์ ในพงศาวดารหลายฉบับ
หลังจากแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ถูกลอบสังหารแล้ว ศิลาจารึกบันทึกว่าได้เอาศพไปทิ้งไว้ที่วัดกะไดอิฐให้แร้งกินเพื่อประจานความชั่วร้าย แล้วร่างที่ไร้วิญญาณก็เผยให้เห็นลักษณะรูปร่างที่ทำให้บรรดาเสนาบดีประหลาดใจ ดังนี้
“..โยนีไม่มีเส้นโลมาเลย เกลี้ยง สะอาด เตียนโล่ง จึงยกราชสมบัติถวายพระเจ้าช้างเผือกองค์ใหม่ พระองค์มีรับสั่งให้จารึกเรื่องนี้ลงบนแผ่นศิลาแผ่นหนึ่ง ติดไว้ที่ฐานพระเจดีย์แดงวัดกะไดอิฐ เพนียด เป็นการประจานความชั่วร้ายของนางศรีสุดาจันทร์...”
ซึ่งศิลาจารึกนี้ได้ถูกเก็บไว้ในวัดกะไดอิฐทำให้ไม่มีใครทราบเรื่องราวลักษณะสตรีของท้าวศรีสุดาจันทร์ เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 เปลี่ยนผ่านเป็นกรุงธนบุรี และเข้าสู่กรุงรัตนโกสินทร์
มีบันทึกที่เกี่ยวข้องกับศิลาจารึกนี้ว่า
พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าไกรสร กรมหลวงรักษ์รณเรศ ในรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ทรงนิยมสัปดน “เล่นเพื่อน” ได้นำแผ่นศิลาจารึกนี้มาจากวัดกะไดอิฐ คลองเพนียด กรุงศรีอยุธยา เอามาไว้ที่พระเจดีย์สามองค์ในวัดพระเชตุพน กรุงเทพฯ ในต้นรัชกาลที่ 3 และคัดลอกข้อความไว้
เป็นที่ทราบกันดีว่า กรมหลวงรักษ์รณเรศ หรือหม่อมไกรสรต้องโทษเป็นกบฏถูกประหารชีวิตใน ปี 2391 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า แผ่นหินนั้นเป็นเรื่องอุบาทว์ คนเอามาก็อุบาทว์ ให้เอาแผ่นหินไปทิ้งน้ำถ่วงศพหม่อมไกรสรลงด้วยกัน
แต่ก่อนที่จะทำการประหารหม่อมไกรสร กรมหลวงบวรศักดาภิศาล เห็นจารึกบนศิลาจึงได้ทำการคัดลอกเก็บเอาไว้ ก่อนจะนำไปมัดถ่วงศพหม่อมไกรสรปล่อยแท่นศิลานี้ให้จมลงแม่น้ำเจ้าพระยา
ซึ่งกรมหลวงบวรศักดาภิศาล ก็นำบันทึกที่คัดลอกนี้ไปถวายไว้กับ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหมื่นนุชิตชิโนรส โดยกลายเป็นบันทึกล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ที่เผยความลับของเจ้าแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ที่ทำให้คนรุ่นหลังได้รับรู้
และจากลักษณะเรือนกายของบัวผันที่ถูกร่ำลือมีบันทึกสืบต่อกันมานี้ นับว่ามีรูปลักษณ์ที่เพียบพร้อมกว่าตำราหญิงงามที่โบราณกำหนดไว้
ความงามสมบูรณ์แบบที่ธรรมชาติเนรมิตให้กับบัวผัน เด็กชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งนั้น ใช้เวลาพันปีก็ไม่แน่ว่าจะมีกำเนิดขึ้นสักคน
โฆษณา