Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Side Stories
•
ติดตาม
6 พ.ย. เวลา 13:03 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
VENOM: The Last Dance เราต่างมี "เนอริก้า" เป็นของตัวเอง
สรุปข้อคิดที่ได้จาก
"Venom: The Last Dance"
เหมาะกับคนที่ดูหนังจบแล้วเท่านั้น
(เห็นด้วย! ไม่งั้นข้างับหัวขาดแน่)
.
.
.
1. เอ็นจอย ปล่อยใจ อยากทำไรทำ "เต้นรำ" กับชีวิตไปบ้าง เพราะเราไม่รู้ว่าจะจากกันเมื่อไหร่ (แต่ไม่ใช่กลายร่างเต้นทั้งที่รู้ว่าศัตรูจะเห็นทันที อันนี้ก็เกินไปหน่อย)
2. "มิตรภาพระหว่างทาง" คือสิ่งสวยงามเสมอ แม้บางทีเราต่างไม่เคยรู้จักกัน แต่เพราะไม่รู้จักนี่แหละ ที่ทำให้ไม่มีกำแพง
3. ไม่ว่าจะเหนื่อยล้ากับอะไรมา "ช็อคโกแลต" คือเดอะเบส ฮีลร่าง ฮีลใจ
4. ทุกคนต่างมี "เนียริก้า" เป็นของตัวเอง มีเสียงอีกเสียง ตัวตนอีกคนในหัว ไว้คอยพูดคุย ซึ่งสำหรับผม นี่ไม่ใช่เรื่องบ้าแต่อย่างใด ยิ่งในยุคปัจจุบันที่สังคมแสนวุ่นวาย การคุยกับตัวเองบ้างก็เป็นสิ่งจำเป็น
5. เหนือโลก ยังมีกาแล็กซี่ เหนือมนุษย์กลายพันธุ์ยังมีเซนตินัล เหนืออีเทอร์นัลยังมีเซเลสเทียล เหนือซิมบิโอตยังมีนักล่าและ "Knull" ผู้สร้างพวกมันอยู่ ทุกอย่างล้วนมีผู้ล่าขั้นกว่าในห่วงโซ่อาหารเสมอ
6."ซิมบิโอต" จะเป็นปรสิตต่างดาวแปลกปลอม หรือเป็นเพื่อนร่วมชีวิตเคียงบ่าเคียงไหล่จนสุดทาง อยู่ที่เขาอยู่กับคนแบบไหน และมีเป้าหมายชีวิตเพื่ออะไร นั่นแหละคือ "คอเดกซ์" ที่เป็นแก่นสำคัญจริงๆ
7. ต้องยอมรับว่า "ศัตรูบางคน" ก็อยู่ในระดับที่ไกลเกินจะพิชิตจริงๆ ได้แต่หาทางอื่นในการแก้ปัญหากันไป ซึ่งสิ่งที่เอ็ดดี้-เวน่อมทำนั้น ไม่ใช่การยอมแพ้แต่แค่ยอมรับว่าพวกเขามีเพียงวิธีนี้ ยอมสละความสุขส่วนตัว แยกจากกันวันนี้ เพื่อความสุขส่วนรวมในวันหน้า นั่นก็นับเป็นความกล้าหาญมากๆ แล้ว
8. "เทพีเสรีภาพ" ตีความได้สองมุมคือ อิสระทางความคิด ที่แม้ "Eddie" และ "Venom" จะเป็นผู้คุมกันมหากาฬ ใช้ร่างและใช้เวลาอยู่ร่วมกันมานาน แต่ก็มีความคิด มีความชอบในแบบของตัวเอง อย่างตอนนั่งรถบ้านไปกับครอบครัวมาร์ติน และร้องรำทำเพลงกัน เอ็ดดี้ไม่เอ็นจอย แต่เวน่อมสนุกครื้นเครงอยู่ข้างใน กระนั้นความต่างอย่างสุดขั้วนี่เอง ที่ทำให้พวกเขาผูกพันกันกว่าเดิม
อีกมุมคือ "ความความทรงจำดีๆ" ที่มีระหว่างกัน และมันจะอยู่ในใจตลอดไป แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วก็ตาม เอ็ดดี้ได้เสรีภาพคืน ส่วนเวน่อมก็เสรีมานานจากบ้านเกิด การได้เจอเพื่อนรักอย่างเขานี่แหละ คือเสรีภาพในใจอย่างแท้จริง
ถึงหนังจะสนุกแบบไม่สุด
เรียกว่าขาดไรไปอีกเยอะเลยล่ะ
ตั้งแต่ "ดร.เพนน์" ที่มีทำไม
ปูปมมาเพื่ออะไร!? เปลืองเวลาเล่า
และจนจบก็ไม่ได้ช่วย
ให้เรื่องมันคมขึ้นเลย
ต่อด้วยผู้ช่วย ดร. ที่เหมือนหนัง
พยายามจะสื่อว่ามีไรมาแต่ต้น
ทั้งซูม ทั้งมู้ดโทนที่ส่งมา
ก็ลงดื้อๆ แบบรถไฟเหาะ
ไม่มีเหตุผลอะไรรองรับตอบ
ครอบครัวมาร์ตินที่ไม่มีก็ได้
ลงทุนอยากเห็นเอเลี่ยน
จนทั้งบ้านเกือบเสี่ยงตุยแบบนี้
แถมลอบเข้า Area 51 ได้ง่ายๆ
แอบหยิบอาวุธมิไซล์ก็ง่าย
บทมันจะหลวมไปมั้ย
นี่คือเขตกักกันสำหรับเอเลี่ยน
ที่เป็นภัยระดับจักรวาลเลยนะ
สัตว์ร้ายผู้ไล่ล่าซิมบิโอต
ที่ทั้งเก่งและตุยยากยังกะจอมมารบู
ทำให้ผมแอบลุ้นว่าถ้าพวกเอ็ดดี้
พยายามหาจุดอ่อน ใช้กึ๋นโค่นมันได้
คงจะสะใจกว่านี้มาก
พวกซิมบิโอตตัวอื่นๆ
ที่ปูกันมานานนม
ก็โดนเก็บกันไปง่ายๆ ในพริบตา
โดยเฉพาะเจ้าตัวเขียวที่ไม่น่าจดจำใดๆ
Knull ที่นึกจะเปิดตัวมาก็มา
ไร้ซึ่งชั้นเชิงการเล่า
ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่เอามาฆ่า
แบบตัวร้ายที่มีของมาก
แต่ถูกทำเสียไปหมด
อย่าง Gorr ใน Thor 4
หรือชัดสุดคือ "Carnage"
ช้ำหนักสุดคือ
จุดที่ควรขยี้ กลับไม่ขยี้
จุดที่ควรซึ้ง กลับไม่ซึ้งตามคาด
มันไปมาแบบง่ายๆ ลงง่ายๆ
อ้าวแยกทางกันแล้วหรอ?
ตามด้วยภาพความทรงจำดีในอดีต
ที่พอจะชวนซึ้งหน่อย แต่ก็ยังไม่ค่อยสุด
โดยรวมที่เวน่อมทำมาได้ถึงไตรภาค
ก็นับว่ามาได้ไกลมากแล้ว
เมื่อเทียบกับหนังไอ้แมงมุมอื่นๆ
ในจักรวาลโซนี่ที่ไม่รอดสักเรื่อง
ยิ่งทำให้ผมตัดสินใจบอกลา Kraven ง่ายขึ้น
จากที่ไม่ถูกใจนักแสดงอยู่แล้ว
(เขาเล่นเป็นควิกซิลเวอร์คือดีนะ
แต่ด้วยรูปร่างที่บางไป
และออร่าความดิบเถื่อนมีไม่พอ
ดูยังไงก็ไม่ใช่ Kraven แน่ๆ)
ขอจดจำภาพดีๆ ของตัวละครนี้
จากเกม Spider-man 2 ใน PS5 ดีกว่า
สรุป
ต้องบอกว่าการเต้นรำส่งท้ายในครั้งนี้
ทำไม่ถึงทั้งทำนอง คำร้อง
และโชว์ที่ออกมาเลย,,,
บันเทิง
หนัง
ภาพยนตร์
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย