28 ต.ค. เวลา 01:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Flash : Weekly Economic Highlights – ตัวเลขเศรษฐกิจน่าสนใจ มีอะไรบ้าง ? (28 ต.ค. 2024)

สรุปสภาวะตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมา ?
ตลาดหุ้นทั่วโลกมีทิศทางทั้งบวกและลบ โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นหนุนให้ดัชนี Nasdaq ทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Dow Jones ย่อตัวลง เนื่องจากถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (US Treasury Bond Yield) อายุ 10 ปี ที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือน ตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่ง
เงินเฟ้อของโตเกียว เดือน ต.ค. ชะลอตัวแตะ +1.8%YoY ต่ำกว่าเป้าหมายของ BoJ – ภาพจาก Bloomberg.com
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจประเทศอื่นๆ สะท้อนออกมาในทิศทางที่ค่อนข้างอ่อนแอ โดยเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core-Core Inflation) ไม่รวมอาหารและพลังงานของญี่ปุ่น ชะลอตัวลงเป็น +1.8%YoY ในเดือน ต.ค. ก่อนการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) สัปดาห์นี้ เช่นเดียวกับเงินเฟ้อยุโรปที่ลดลงต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ +2% เช่นกัน
นาย Benjamin Netanyahu (ตรงกลาง) นายกฯอิสราเอล - ภาพจาก CNBC.com
ด้านความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ยังต้องติดตาม หลังอิสราเอลโจมตีฐานผลิต Missile ในอิหร่านเพิ่มเติมเมื่อวันเสาร์ แต่ทำตามคำเรียกร้องของนานาชาติ โดยไม่โจมตีคลังเก็บน้ำมันของอิหร่าน ขณะที่อิหร่านเรียกร้องให้รัฐบาลตอบโต้อิสราเอล
ติดตามการเลือกตั้งทั่วไปของญี่ปุ่นในสุดสัปดาห์นี้
ตัวเลขเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ที่น่าติดตาม
27 ต.ค. : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) เดือน ต.ค. ของสหรัฐฯ คาดว่าจะทรงตัวที่ 98.8 จุด
30 ต.ค. : GDP ไตรมาส 3 ของสหรัฐฯ ยูโรโซน และเยอรมนี + การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ)
31 ต.ค. : เงินเฟ้อ ยูโรโซน เดือน ต.ค. คาดว่าจะออกมาที่ +1.7% + เงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาดว่าจะออกมาที่ +2.7%YoY + ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ (Initial Jobless Claims) ของสหรัฐฯ
1 พ.ย. : ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payrolls), อัตราการว่างงาน และค่าจ้างรายชั่วโมง เดือน ต.ค. ของสหรัฐฯ คาดว่าจะชะลอตัวลงเหลือ +1.40 แสนตำแหน่ง, 4.1% และ +0.3%MoM ตามลำดับ + ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน ต.ค. ของสหรัฐฯ คาดว่าจะยังสะท้อนการหดตัวที่ 47.6 จุด
กำหนดการบริษัทที่จะประกาศผลกำไรไตรมาส 3 ในสัปดาห์นี้ - ภาพจาก EarningsWhisper
บริษัทสำคัญ ที่จะประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 สัปดาห์นี้ ได้แก่ Ford, Philips, AMD, Alphabet, Visa, McDonald, BP, Eli Lilly, Microsoft, Meta Platform, Coinbase, Starbuck, Banco Santander, Etsy, Uber, Amazon, Apple, Intel, Mastercard, Merck, Altria, Estee Lauder, Peloton, ConocoPhillips, Chevron และ ExxonMobil จะเห็นว่าอยู่ในกลุ่มพลังงานและเทคโนโลยีเป็นหลักครับ
Mr. เต่า มองว่ายังไง ?
สัปดาห์นี้ Mr. เต่า มองว่า ตลาดหุ้นมีโอกาส “ย่อตัว” รับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และรอดูความเคลื่อนไหวจากอิสราเอลและอิหร่านในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ดี และดอกเบี้ยขาลง จะเป็น “ปัจจัยบวก” ให้ตลาดหุ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ครับ
แนะนำ “ซื้อเมื่อตลาดย่อตัว” ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐฯ วันที่ 5 พ.ย. นี้ ผมมองว่า ตลาดมีโอกาส “ย่อแล้วเด้ง” เป็นรูปตัว V ทันทีที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯหมดไป ผมยังคงแนะนำหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนะครับ เพราะมีโอกาสได้ปัจจัยบวกจากดอกเบี้ยและรายได้/กำไรที่ยังเติบโตได้
ส่วนหุ้นกลุ่มอื่น ผมมองว่า เลือกซื้อได้บ้าง แต่อาจจะไม่ต้องให้น้ำหนักเยอะเท่าหุ้นเทคโนโลยีครับ
ถ้าใครมองว่าหุ้นเทคโนโลยีแพงไปแล้ว รอย่อหน่อยค่อยซื้อนะครับ
โชคดีในการลงทุนนะครับ
Mr. เต่า
ค้นหาบทความเต่าน้อยลงทุนผ่าน Facebook ได้อีกช่องทางที่
#อัพเดตการลงทุน #เต่าน้อยลงทุน #ลงทุน #การลงทุน #กองทุนรวม #ข่าวต่างประเทศ #หุ้น #ตลาดหุ้นโลก #กองทุนรวม #ข่าวการลงทุน #ข่าวเศรษฐกิจ #เศรษฐกิจโลก
ติดตามเพจ “เต่าน้อยลงทุน” ได้ที่
Source : “Israel strikes Iran military targets, Tehran says damage ‘limited’” – CNBC.com
“Tokyo Inflation Slows Below 2% Ahead of Election, BOJ Meet” – Bloomberg.com
ภาพจาก Investing.com
โฆษณา