Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
T
Tanit Kittijarurak
•
ติดตาม
26 ต.ค. เวลา 16:39 • ความคิดเห็น
เมื่อ "ความสมบูรณ์แบบ" ขัดขวางเรา
ในโลกปัจจุบันที่เปิดโอกาสให้คนจากทั่วทุกมุมโลกได้แสดงตัวตนของตัวเองออกมาด้วยรูปแบบวิธีการต่างๆ เราเองในบางครั้งก็รู้สึกมีสิ่งเรียกร้องในใจที่อยากสร้างสรรค์อะไรบางอย่างที่แสดงถึงตัวตนของเราออกมา
ตอนระหว่างคิดก็เรื่องหนึ่ง ตอนจะลงมือทำก็อีกเรื่องหนึ่ง
ติดอยู่ในวังวน “ไม่ยอมลงมือทำในสิ่งที่อยากทำ”
ไม่ใช่ว่าเราขี้เกียจหรือไม่มีวินัย (อย่างน้อยก็อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด) แต่อาจจะเป็นเพราะเรากำลังติดกับดัก Perfectionism หรือ “การนิยมความสมบูรณ์แบบ” อยู่
เอ๊ะ แล้วมันเกี่ยวกันยังไง ถ้าสมบูรณ์แบบมันก็ต้องดีสิ ถ้าสมบูรณ์แบบเราก็ต้องไม่มีความขี้เกียจ และถ้าสมบูรณ์แบบเราก็ต้องมีวินัยตามที่ควรจะเป็นสิ
เรามักจะคุ้นๆ กับแนวคิด Perfectionism ซึ่งก็มักจะถูกยกย่องเชิดชูตามสื่อต่างๆ ว่าเป็นกุญแจทองคำสู่ความสำเร็จ
กระทั่งถ้าเราไปอ่านคู่มือการสัมภาษณ์งาน ก็มักจะอ่านเจอว่า ถ้าถูกถามว่าตัวเองมีจุดอ่อนอะไร ก็ต้องตอบว่าตัวเองเป็น “เพอร์เฟคชันนิสต์” ทุ่มเททำงาน มาตรฐานสูง ใส่ใจรายละเอียด อะไรต่อมิอะไร ก็ว่ากันไป
เวลาเอาคนดัง เอานักธุรกิจ มหาเศรษฐีมาออกทีวี เอาไมค์ไปจ่อปากแล้วถามหาเคล็ดลับความสำเร็จ ก็มักจะเห็นพ้อง ยกตำแหน่งพระเอกให้กับ “ความเป๊ะ” และ “การมีมาตรฐานสูง” ของตัวเองอยู่เสมอๆ
เราเลยเสมือนว่ามีการตั้งโปรแกรมฝังลงในจิตสำนึก ตั้งเป้าว่าการจะลงมือทำอะไรซักอย่าง ต้องวางแผน ค้นคว้าหาข้อมูล ฝึกฝนให้มากที่สุด ให้ตัวเองได้พร้อมที่สุด 100% เพื่อให้ได้ผลจากการกระทำที่ “สมบูรณ์แบบ” ตามที่เราจินตนาการวาดภาพไว้
ฟังแล้วก็ดูดี แต่ในทางปฏิบัติจริง กลับกลายเป็นว่า เอาแต่วางแผน เอาแต่หาข้อมูล เอาแต่ถามหาคำแนะนำคนอื่น จากนั้นก็กลายเป็นความกังวล
เราจะทำได้มั้ยนะ…
ผลที่ออกมาจะเป็นไปอย่างที่คิดรึเปล่า…
เราคิดถูกแล้วใช่มั้ย…
แต่ไม่ได้ขยับตัวลงมือทำอะไรซักที เกิดเป็นภาวะ “คิดเยอะเกินไปจนขยับตัวไม่ได้” (Analysis Paralysis) สาเหตุคือความกลัวว่าจะทำได้ไม่ “สมบูรณ์แบบ” ตามที่วาดฝันไว้
กลายเป็นว่า “ความสมบูรณ์แบบที่เราอยากให้เป็น” คือตัวการที่ทำให้เรากังวล ทำให้เราผลัดวันประกันพรุ่ง และทำให้เราไม่เดินหน้าไปซักที
Perfectionism มองเผินๆ แล้วน่าจะเป็นเรื่องใหม่ แต่ในความเป็นจริงมีมานานแล้ว
ดังเช่นในวลีข้างต้น ผู้กล่าวคือ Winston Churchill (วินสตัน เชอร์ชิล) อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 41 ของประเทศอังกฤษ ช่วงปี คศ. 1940-1955 ซึ่งเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พอดี
ในมุมมองของผู้นำประเทศมหาอำนาจ (ในยุคนั้น) ที่ต้องรับมือกับเรื่องราวภายใต้ภาวะวิกฤติความเสี่ยงสูงสารพัด เชอร์ชิลมองว่า ในการจะตัดสินใจลงมือปฏิบัติการอะไรบางอย่าง ถ้าจะมัวแต่วางแผนเตรียมความพร้อมหรือรอให้ได้จังหวะโอกาสทอง ก็จะกลายเป็นความล่าช้าและอาจจะเกิดความเสียหายจากการไม่ตัดสินใจได้ จำเป็นต้องตัดสินใจให้เร็ว และอาศัยการเรียนรู้จากการลงมือทำจริงให้ดีขึ้นในครั้งต่อๆ ไปแทน
สำหรับเราๆ แล้ว แม้ชีวิตตอนนี้ก็น่าจะไม่ได้อยู่ในภาวะสงครามใดๆ แต่เรามักจะติดกับดักที่ทำให้เราลังเลที่จะเริ่มผลิตผลงานของเราออกมา สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะโลกโซเชียลพยายามใส่ความคิดให้เรา “กังวล” กับ”การถูกตัดสิน” แม้ว่าโลกออกไลน์อาจจะเป็นการเปิดพื้นที่ให้เกิดการ “เปรียบเทียบ” และนำไปสู่การ “วิพากษ์วิจารณ์” แต่ก็เป็นเครื่องมือ จะเป็นพื้นที่ให้เราได้แสดงตัวตน แสดงผลงานเช่นเดียวกัน
มนุษย์ฝึกฝนและเรียนรู้จากการทำซ้ำๆ เราเรียนรู้จากผลการกระทำมากกว่าการจินตนาการอยู่ในหัว
เพราะฉะนั้นการที่จะเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด แม้ว่าจะเกิดจากความตั้งใจที่อยากให้ผลงานออกมาดีที่สุด กลับกลายเป็นว่าเอาแต่คิดเยอะจนไม่ได้ลงมือทำอะไรสักอย่าง และก็ไม่ได้มีโอกาสลงสนามจริงเพื่อเรียนรู้ที่จะทำให้ครั้งถัดๆ ไปดีขึ้นสักที
การได้ลงมือทำ แม้ว่าอาจจะไม่ได้ผลตามที่คิดไว้ หรืออาจจะมั่วๆ เละๆ ไปบ้าง แต่ก็คือการเดินไปข้างหน้าและเข้าใกล้เป้าหมายของเราไปก้าวหนึ่งแล้วนั่นเอง
Perfection is the enemy of progress, so we make friends with progress to beat perfectionism.
ธนิท กิตติจารุรักษ์
26 ตุลาคม 2567
แนวคิด
พัฒนาตัวเอง
ความรู้รอบตัว
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย