Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สำนักคิด
•
ติดตาม
29 ต.ค. เวลา 03:30 • การเกษตร
ฝึกงานเกษตรที่ญี่ปุ่น
จริงอย่างที่เขาว่ากัน คนญี่ปุ่นค่อนข้างมีระเบียบวินัยสูง ไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบภายในครอบครัว หรือกฎระเบียบทางสังคมก็ตาม มันช่างเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับผมมากทีเดียว เพราะผมเคยใช้ชีวิตอย่างอิสระอยู่บนดอย บางครั้งก็มีหวั่นเกรงอยู่บ้างว่าอาจจะใช้ชีวิตแบบคนญี่ปุ่นไม่ได้
อุปสรรคแรกของผมคือเรื่องภาษา เพราะด้วยภาษาที่แตกต่างกัน บางครั้งก็อาจทำให้ความเข้าใจคลาดเคลื่อนไปบ้าง ผมจึงต้องพยายามอย่างหนัก เพื่อเรียนรู้เรื่องการสื่อสารบนแดนดินที่ทุกอย่างดูผิดแปลกไปหมด ดังนั้นวันแรกของการรับฟังงานจากโอโตชังจึงค่อนข้างที่จะลำบากนิดหน่อย เนื่องจากการสื่อสารด้วยภาษาญี่ปุ่นของผมก็ยังไม่เก่งพอที่จะรับฟังประโยชน์ยาว และเร็วได้
แต่เพื่อให้เข้าใจกัน ผมจึงแก้ปัญหาด้วยการสื่อสารภาษากาย และภาษาอังกฤษไปด้วย ซึ่งบางทีมันก็ตลก…เพราะผมใช้เวลาเกือบสิบนาทีเพื่อเข้าใจงานหนึ่งงานที่โอโตชังมอบหมายให้มา ซึ่งใช้เวลานานมากจริง ๆ
ดังนั้นงานเกษตรในช่วงแรกที่ได้รับมอบ เป็นงานง่าย ๆ อย่างการถอนหญ้าในแปลงกระเจี๊ยบเขียว ซึ่งผมก็ตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถ เพราะเป็นงานที่เคยทำบ่อย ๆ ช่วงที่เคยทำไร่บนดอย แต่โอโตชังกลับบอกว่าผมทำงานช้าไปหน่อย ผมจึงแอบคิดและสงสัยว่าผมก็พยายามทำเต็มที่แล้วนะ แต่เขายังบอกว่าผมช้าอีก !
.
หลังผ่านไปสักพัก โอโตชัง เพื่อนโอโตชัง และผมก็เริ่มทำงานกันอีกครั้ง และมันก็เป็นงานถอนหญ้าอีกเหมือนเดิม แต่คราวนี้เราต้องถอนกันคนละแปลง เพื่อพิสูจน์ว่าใครเร็วกว่าใคร ปรากฏว่าผมเป็นคนสุดท้ายเช่นเคย
นอกจากคนญี่ปุ่นจะทำงานรวดเร็วแล้ว พวกเขายังทำงานได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอีกด้วย รวมไปถึงการดูแลพืชผักก็เช่นกัน พวกเขามีความพิถีพิถันอย่างมาก ผักผลไม้ทุกต้นต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหายในระหว่างการทำงาน คนญี่ปุ่นเอาใส่ใจผักของเขาเหมือนการดูแลสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้ พวกเขาใส่ใจทุกขั้นตอนถึงขั้นว่าเมื่อถึงเวลาทำงาน พวกเขาจะทำงานอย่างเต็มที่ แต่เมื่อถึงเวลาพักผ่อน พวกเขาก็จะพักตามเวลาทันที
หลังงานวันแรกผ่านไป ผมได้ถามโอโตชังว่าทำไมคนญี่ปุ่นทำงานกันเร็วมาก ? โอโตชังตอบกลับมาว่า “เขาทำงานปกตินะ” ผมทำได้แค่อ้ำอึ้งกับคำตอบ และคิดว่าหลังจากนี้คงต้องปรับปรุงเรื่องที่ทำงานช้าให้ดีขึ้นกว่าเดิมให้ได้
แม้แต่การเก็บเกี่ยวผลผลิต สิ่งที่ต้องมีก็คืออุปกรณ์ในการเก็บเกี่ยวให้ครบทุกครั้งเสียก่อน เพราะว่าพวกเขาใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน รวมถึงวิธีการเก็บผลผลิตไม่ให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น การเก็บสตอเบอรี สิ่งแรกที่ต้องทำคือเลือกผลสุกเต็มที่ที่มีสีแดงแบบแดงดำ เวลาเก็บจะต้องค่อย ๆ ดึงอย่างระมัดระวัง ไม่งั้นผลสตอเบอรีจะช้ำ ผิวไม่สวย หากผลไหนเสียหายเขาจะไม่ขาย หรืออาจนำไปขายแบบเกรดต่ำกว่าแทน
นอกจากนี้ผมยังได้เรียนรู้ว่า การเอาใจใส่ในการเก็บเกี่ยวที่ดีนั้นยังไม่เพียงพอ ชาวญี่ปุ่นยังให้ความสำคัญกับการบริการที่ดีอีกด้วย ซึ่งข้อนี้ผมยอมรับเลยว่าความอ่อนน้อมถ่อมตนของคนญี่ป่นนั้นทำให้ผมตกใจ เพราะพวเขาจะขอบคุณมากถึง 3-5 ครั้ง เมื่อเราไปซื้อของของเขา
มีอยู่ครั้งหนึ่งผมมีโอกาสได้เข้าไปทานข้าวที่ร้านโซบะ ซึ่งเป็นร้านอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ ในร้านก็จะมีพนักงานไม่ถึง 5 คน แต่ตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวเท้าเข้าร้าน ก็จะมีคนตะโกนบอกว่า “ยินดีต้อนรับ” (อิระไชมาเส) เป็นภาษาญี่ปุ่น และตอนกลับก็มีกล่าวคำขอบคุณเช่นกัน ในฐานะลูกค้า ผมรู้สึกอบอุ่นใจเมื่อเจอการบริการที่ดีเอาใจใส่เช่นนี้อย่างมาก ซึ่งไม่แปลกเลยที่ร้านของเขามีลูกค้าเยอะเพื่อต่อคิวรอทานข้าวยาวเหยียดไปถึงขอบถนนโน่นเลย
เมื่อได้มาสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นแล้ว ด้วยประสบการณ์เหล่านี้ แม้ว่าผมจะได้ใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นเพียงไม่นาน แต่ผมกลับมีความรู้สึกตื่นเต้นและสนุกกับการฝึกงานที่นี่จริง ๆ เพราะว่าอะไรที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น อะไรไม่เคยทำก็ได้ทำ ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งล้ำค่า ที่จะช่วยฝึกฝนให้ผมได้พัฒนาตัวเอง เพื่อเกิดเป็นแนวทางที่ดีต่อไปได้ในอนาคต.
โปรดติดตามตอนต่อไป...
.
“จ๊อปิแนว” บันทึกปกาเก่อเญ่อพลัดถิ่นในดินแดนอาทิตย์อุทัย
ตอนที่ 6 ฝึกงานเกษตรที่ญี่ปุ่น
ผู้เขียน: พงศธร แสงกระจ่างชื่น
.
#สำนักคิด #somnakkid #จ๊อปิแนว #บันทึก #ปกาเก่อเญ่อ #ผลัดถิ่น #ดินแดนอาทิตย์อุทัย #บ้าน #ญี่ปุ่น #การเกษตรญี่ปุ่น #วัฒนธรรม
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย