27 ต.ค. เวลา 13:10 • หนังสือ

สรุปหนังสือ#วิธีชนะมิตรและจูงใจคน

สรุปหนังสือ #วิธีชนะมิตรและจูงใจคน
How to Win Friends and Influence People โดย Dale Carnegie
Part 1: Fundamental Techniques in Handling People (เทคนิคพื้นฐานในการจูงใจคน)
Chapter 1: If You Want to Gather Honey, Don’t Kick Over the Beehive (ถ้าคุณอยากได้น้ำผึ้ง อย่าไปเตะรังผึ้ง)
หลักการสำคัญ: ไม่มีใครชอบคำตำหนิหรือวิจารณ์ เพราะจะทำให้เขารู้สึกไม่ดี
“Criticism is futile because it puts a person on the defensive.”
“การวิจารณ์นั้นไร้ประโยชน์เพราะทำให้คนอยู่ในท่าทีป้องกัน”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: หากต้องการให้คนอื่นทำตาม จงเลี่ยงคำวิจารณ์ และพูดในทางที่ดี เช่น “เห็นไหมครับว่าเมื่อคุณทำแบบนี้ มันมีประโยชน์มากเลย”
Chapter 2: The Big Secret of Dealing with People (เคล็ดลับยิ่งใหญ่ในการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน)
หลักการสำคัญ: ทำให้คนรู้สึกสำคัญและมีคุณค่า
“Give people a fine reputation to live up to.”
“ให้ชื่อเสียงที่ดีแก่คนอื่น เพื่อให้เขาใช้ชีวิตตามนั้น”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: พูดถึงคุณสมบัติที่ดีของคนอื่น เช่น “คุณมีความสามารถในการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม ลองใช้มันในการนำเสนอดูครับ”
Chapter 3: He Who Can Do This Has the Whole World with Him. He Who Cannot Walks a Lonely Way (ผู้ที่ทำแบบนี้ได้โลกทั้งใบจะอยู่ข้างเขา ส่วนผู้ที่ทำไม่ได้ จะเดินหงอยเหงาเพียงลำพัง)
1
หลักการสำคัญ: ให้ความสนใจกับสิ่งที่ผู้คนต้องการ
“Talk about what they want and show them how to get it.”
“พูดถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการและแสดงให้เห็นว่าทำอย่างไรถึงจะได้มัน”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: สอบถามความต้องการของคนอื่น เช่น “คุณอยากจะได้อะไรจากการทำงานนี้? เราสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้ยังไง?”
Part 2: Six Ways to Make People Like You (หกวิธีทำให้คนชอบคุณ)
Chapter 1: Become genuinely interested in other people (สนใจผู้อื่นอย่างจริงใจ)
หลักการสำคัญ: สนใจคนอื่น จะทำให้เขารู้สึกดี
“People are not interested in you. They are interested in themselves.”
“ใครเขาสนใจคุณ คนสนใจแต่ตัวเองทั้งนั้นแหละ”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: ถามความสนใจของเขา เช่น “นี่รูปคุณตอนเด็กๆ หรือครับ น่ารักดีนะ?“ , ”ปกติวันหยุดคุณชอบทำอะไรครับ?”
Chapter 2: Smile (ยิ้ม)
หลักการสำคัญ: ยิ้มเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการสร้างความสัมพันธ์
“Your smile is a messenger of your good will.”
“รอยยิ้มของท่านเป็นผู้ส่งสารแห่งความปรารถนาดี”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: จงยิ้มให้คนที่คุณพบ
Chapter 3: Remember that a person’s name is, to that person, the sweetest sound in any language (จำไว้ว่าชื่อของคนเป็นสำเนียงที่หวานที่สุดในทุกภาษา)
หลักการสำคัญ: การเรียกชื่อเขา จะทำให้เขารู้สึกพิเศษ
“A person’s name is to that person the sweetest sound.”
“ชื่อของเขาเป็นเสียงที่หวานที่สุดสำหรับเขา”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: จำชื่อและใช้ชื่อเมื่อสนทนา เช่น “สวัสดีกัปตันเปา! วันนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง?”
Chapter 4: Be a good listener. Encourage others to talk about themselves (เป็นผู้ฟังที่ดี สนับสนุนให้คนอื่นพูดเกี่ยวกับตัวเอง)
หลักการสำคัญ: การฟังอย่างตั้งใจทำให้คนอื่นรู้สึกได้รับการยอมรับ
“Listening is as important as talking.”
“การฟังสำคัญไม่แพ้การพูด”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: ถามเกี่ยวกับเรื่องของเขาจากนั้นฟังอย่างตั้งใจ เช่น “จากที่เปิดกิจการมาเป็นยังไงบ้างครับ?”
Chapter 5: Talk in terms of the other person’s interests (พูดในแง่ของความสนใจของคนอื่น)
หลักการสำคัญ: พูดถึงสิ่งที่คนอื่นสนใจ จะทำให้เขารู้สึกมีส่วนร่วม
“Talk about what the other person is interested in.”
“พูดถึงสิ่งที่คนอื่นสนใจ”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เขาชอบ เช่น “คุณเห็นข่าวเกี่ยวกับฟุตบอลไหม? ทีมโปรดของคุณคือทีมไหน?”
Chapter 6: Make the other person feel important – and do it sincerely (ทำให้คนอื่นรู้สึกสำคัญ – และทำอย่างจริงใจ)
หลักการสำคัญ: การทำให้คนอื่นรู้สึกสำคัญจะทำให้พวกเขาชอบคุณ
“Make the other person feel important, and do it sincerely.”
“ทำให้คนอื่นรู้สึกสำคัญและทำอย่างจริงใจ”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: บอกเขาว่าสิ่งที่เขาทำมีคุณค่า เช่น “สิ่งที่คุณนำเสนอนั้นยอดเยี่ยมมาก!”
Part 3: How to Win People to Your Way of Thinking (วิธีดึงผู้คนให้คล้อยตามความคิดคุณ)
Chapter 1: You Can’t Win an Argument (คุณไม่สามารถชนะการโต้แย้งได้)
หลักการสำคัญ: การโต้แย้งมักนำไปสู่ความขัดแย้ง ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลง
“The only way to get the best of an argument is to avoid it.”
“วิธีเดียวที่จะชนะการโต้แย้งคือการหลีกเลี่ยงมัน”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: หลีกเลี่ยงการโต้แย้งด้วยการพูดคุยในแง่บวก เช่น “เรามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันดีไหมครับ?”
Chapter 2: Show respect for the other person’s opinions. Never say, “You’re wrong.” (แสดงความเคารพต่อความคิดเห็นของคนอื่น อย่าพูดว่า “คุณผิด”)
หลักการสำคัญ: ให้ความเคารพต่อความคิดเห็นของคนอื่นจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
“Show respect for the other person’s opinions.”
“แสดงความเคารพต่อความคิดเห็นของคนอื่น”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: ใช้การพูดที่ไม่ทำให้รู้สึกขุ่นเคือง เช่น “ฉันเห็นว่ามุมมองของคุณน่าสนใจมาก”
Chapter 3: If you are wrong, admit it quickly and emphatically (ถ้าคุณผิด ยอมรับโดยเร็วและหนักแน่น)
หลักการสำคัญ: การยอมรับความผิดพลาดช่วยสร้างความเชื่อถือ
“If you are wrong, admit it quickly and emphatically.”
“ถ้าคุณผิด ยอมรับอย่างรวดเร็วและหนักแน่น”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: หากคุณทำผิด ยอมรับทันที เช่น “ใช่ครับ ผมทำผิด ผมขอโทษครับ”
Chapter 4: Begin in a friendly way (เริ่มต้นอย่างเป็นมิตร)
หลักการสำคัญ: การเริ่มต้นในทางที่เป็นมิตรจะทำให้การสนทนาเป็นไปได้ดี
“Begin in a friendly way.”
“เริ่มต้นอย่างเป็นมิตร”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: ใช้การทักทายที่ดี เช่น “สวัสดีครับ! ดีใจที่ได้พบคุณ”
Chapter 5: Get the other person saying “yes, yes” immediately (ทำให้คนอื่นพูดว่า “ใช่” ทันที)
หลักการสำคัญ: ทำให้คนอื่นเห็นด้วยตั้งแต่เริ่มต้น
“Get the other person saying ‘yes’ immediately.”
“ทำให้คนอื่นพูดว่า ‘ใช่’ ทันที”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: ถามคำถามที่ง่ายต่อการตอบ เช่น “คุณว่าดีใช่ไหมถ้ามีรายได้เพิ่มเดือนละ 100,000 ต่อเดือน?”
Chapter 6: Let the Other Person Do a Great Deal of the Talking (ให้คนอื่นพูดมากๆ)
หลักการสำคัญ: การฟังให้มากจะทำให้คนอื่นรู้สึกมีคุณค่า
“Let the other person do a great deal of the talking.”
“ให้คนอื่นได้พูดมากๆ”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: สร้างโอกาสให้เขาพูดเกี่ยวกับตัวเอง เช่น “คุณช่วยเล่าเกี่ยวกับโปรเจกต์ที่คุณกำลังทำอยู่หน่อยได้ไหม?”
Chapter 7: Let the other person feel that the idea is theirs (ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าความคิดเป็นของเขา)
หลักการสำคัญ: การทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเขามีส่วนร่วมในความคิดจะช่วยให้เขารู้สึกมีค่า
“Let the other person feel that the idea is theirs.”
“ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าความคิดเป็นของเขา”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: เสนอความคิดแล้วให้เครดิตแก่เขา เช่น “คุณมีไอเดียที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เรามาลองร่วมกันพัฒนามันดูนะครับ”
Chapter 8: Try honestly to see things from the other person’s point of view (พยายามมองสิ่งต่างๆ จากมุมมองของคนอื่นอย่างจริงใจ)
หลักการสำคัญ: ความเข้าใจในมุมมองของคนอื่นช่วยให้เกิดการสื่อสารที่ดี
“Try honestly to see things from the other person’s point of view.”
“พยายามมองสิ่งต่างๆ จากมุมมองของคนอื่นอย่างจริงใจ”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: สอบถามเกี่ยวกับความคิดเห็นของเขา เช่น “คุณคิดว่าสถานการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อคุณอย่างไร?”
Chapter 9: Be sympathetic with the other person’s ideas and desires (แสดงความเห็นใจต่อความคิดและความปรารถนาของคนอื่น)
หลักการสำคัญ: การแสดงความเห็นใจจะทำให้คนอื่นรู้สึกได้รับการยอมรับ
“Be sympathetic with the other person’s ideas and desires.”
“แสดงความเห็นใจต่อความคิดและความปรารถนาของคนอื่น”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: รับฟังความคิดเห็นและแสดงความเห็นใจ เช่น “ฉันเข้าใจว่าคุณรู้สึกอย่างไร การประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย”
Chapter 10: Appeal to the nobler motives (ดึงดูดแรงจูงใจที่สูงส่ง)
หลักการสำคัญ: ทำให้คนอื่นเห็นว่าเขาสามารถทำสิ่งที่ดีได้
“Appeal to the nobler motives.”
“ดึงดูดกระตุ้นพลังแรงจูงใจที่สูงส่ง”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: ช่วยให้คนมองเห็นภาพใหญ่ เช่น “ถ้าเราใช้วิธีง่ายๆ นี้ เราจะสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้มากขึ้น”
Chapter 11: Dramatize your ideas (ทำให้ความคิดของคุณมีชีวิตชีวา)
หลักการสำคัญ: การนำเสนอความคิดอย่างมีชีวิตชีวาจะดึงดูดความสนใจ
“Dramatize your ideas.”
“เติมสีใส่ไข่ ทำให้ไอเดียของคุณมีชีวิตชีวา”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: ใช้ตัวอย่างหรือเรื่องเล่าในการนำเสนอ เช่น “ลองนึกภาพว่าเราทำได้อย่างไรเมื่อเรา…”
Chapter 12: Throw down a challenge (โยนความท้าทายให้)
หลักการสำคัญ: การท้าทายทำให้คนรู้สึกมีแรงจูงใจ
“Throw down a challenge.”
“โยนความท้าทายให้”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: ใช้คำท้าทายเพื่อกระตุ้น เช่น “เรามาทำให้เป้าหมายนี้สำเร็จในเวลาที่กำหนดกันเถอะ!”
Part 4: Be a Leader – How to Change People Without Giving Offense or Arousing Resentment (การเป็นผู้นำ: วิธีเปลี่ยนคนอื่นโดยไม่ทำให้ขุ่นเคือง)
Chapter 1: Begin with Praise and Honest Appreciation (เริ่มต้นด้วยการชื่นชมและชมเชยอย่างจริงใจ)
หลักการสำคัญ: การเริ่มต้นด้วยคำชมทำให้เขารู้สึกดีและเปิดใจ
“Beginning with praise is like the dentist who begins his work with Novocain.”
“การเริ่มต้นด้วยคำชมเป็นเหมือนการให้ยาชาก่อนทำฟัน”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: เริ่มต้นด้วยคำชม ผู้คนจะพร้อมเปิดใจรับฟังในสิ่งที่เราจะพูดต่อไป เช่น “คุณทำได้ดีมากแล้ว แต่ถ้าเพิ่มตรงนี้อีกนิดจะยอดเยี่ยมเลย!”
Chapter 2: Call Attention to People’s Mistakes Indirectly (บอกข้อผิดพลาดของคนอื่นอย่างอ้อมๆ)
หลักการสำคัญ: ควรบอกข้อผิดพลาดอย่างระมัดระวังโดยไม่ทำให้เขารู้สึกอับอาย
“Criticism is dangerous because it wounds a person’s precious pride.”
“การวิจารณ์นั้นอันตราย เพราะมันทำลายศักดิ์ศรีอันมีค่าของคนให้เจ็บปวด”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: หากต้องการชี้ให้เห็นข้อผิดพลาด ควรทำโดยการใช้การถามหรือยกตัวอย่าง เช่น “อาจจะลองพิจารณาวิธีนี้ดูนะครับ มันอาจช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้น”
Chapter 3: Talk About Your Own Mistakes Before Criticizing the Other Person (พูดถึงข้อผิดพลาดของตัวเองก่อนวิจารณ์คนอื่น)
หลักการสำคัญ: ยอมรับความผิดพลาดของตนก่อนจะไปต่อว่าคนอื่น
“There is a reason why critics are often called ‘has-beens.’”
“นี่คือเหตุผลที่นักวิจารณ์มักกล่าวว่า ‘ฉันก็เคยเป็น’”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: ก่อนจะชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดของคนอื่น พูดถึงความผิดพลาดของตัวเองก่อน เช่น “เมื่อก่อนฉันก็เคยทำแบบนี้เหมือนกัน มันทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่า…”
Chapter 4: Ask Questions Instead of Giving Direct Orders (ถามคำถามแทนการสั่งการโดยตรง)
หลักการสำคัญ: การใช้คำถามทำให้คนอื่นรู้สึกมีส่วนร่วมและรับผิดชอบมากขึ้น
“People are more likely to accept an idea when it is presented as a question.”
“คนมักจะยอมรับแนวคิดเมื่อมันถูกเสนอเป็นคำถาม”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: ใช้คำถามแทนการออกคำสั่ง เช่น “คุณคิดว่าเราควรทำอย่างไรเพื่อให้ดีขึ้น?”
Chapter 5: Let the Other Person Save Face (ให้โอกาสคนอื่นรักษาหน้า)
หลักการสำคัญ: การรักษาศักดิ์ศรีของคนอื่นช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
“Letting someone save face is one of the greatest gifts you can give.”
“การให้คนอื่นรักษาหน้านั้น เป็นหนึ่งในของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณสามารถให้ได้”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: อย่าหักหน้าคน จงรักษาหน้าคน เมื่อคนอื่นทำผิด จงเปิดโอกาสให้เขาแก้ไขโดยไม่ทำให้เขารู้สึกอับอาย เช่น “ลองพิจารณาวิธีนี้ดูนะครับ มันอาจจะช่วยให้งานดีขึ้น”
Chapter 6: Praise the Slightest Improvement (ชื่นชมความก้าวหน้าแม้เล็กน้อย)
หลักการสำคัญ: การชื่นชมแม้ความก้าวหน้าเล็กน้อยทำให้เขามีกำลังใจ
“Nothing is easier than giving praise.”
“ไม่มีอะไรที่ง่ายกว่าการให้คำชม”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: ให้ความสำคัญกับการชื่นชมความก้าวหน้าของเขา เช่น “ยอดเยี่ยมมาก! สิ่งนี้ทำได้ดีมาก!”
Chapter 7: Give the Other Person a Fine Reputation to Live Up To (ให้ชื่อเสียงที่ดีเพื่อยกระดับเขา)
หลักการสำคัญ: การไว้วางใจในความสามารถของเขา จะกระตุ้นให้เขาทำตามความคาดหวัง
“If you want to improve a person, act as though that person is already good.”
“ถ้าคุณต้องการพัฒนาคน ให้ทำเหมือนว่าคนๆ นั้นดีอยู่แล้ว”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: สื่อสารความเชื่อมั่นในความสามารถของเขา เช่น “คุณมีศักยภาพมาก ฉันเชื่อว่า...คุณทำได้”
Chapter 8: Use Encouragement (ใช้การกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจ)
หลักการสำคัญ: การให้กำลังใจจะช่วยให้คนรู้สึกมีความหวังและไม่ท้อถอย
“Encouragement is like oxygen to the spirit.”
“การให้กำลังใจ เปรียบเสมือนการให้ออกซิเจนแก่จิตวิญญาณ”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: ใช้คำพูดที่กระตุ้น เช่น “คุณทำได้ดีมากแล้ว ทำต่อไปเลย!”
Chapter 9: Make the Other Person Happy About Doing the Thing You Suggest (ทำให้เขารู้สึกดีเมื่อทำในสิ่งที่คุณแนะนำ)
หลักการสำคัญ: เมื่อคนรู้สึกมีความสุขในการทำตามคำแนะนำ เขาจะมีแรงจูงใจมากขึ้น
“Make the other person feel that the action is pleasurable.”
“ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าการกระทำนั้นน่าพอใจ”
สรุปสั้นๆ พร้อมนำไปใช้: นำเสนอข้อดีและประโยชน์ของการทำสิ่งที่คุณแนะนำ เช่น “การทำแบบนี้จะทำให้คุณรู้สึกดียิ่งขึ้น!”
บทสรุป
ในหนังสือ How to Win Friends and Influence People โดย Dale Carnegie มีหลักการและวิธีการที่ช่วยให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และเปลี่ยนแปลงความคิดของผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเริ่มต้นจากการเข้าใจความรู้สึกและมุมมองของพวกเขา รวมถึงการใช้ความเป็นมิตรและการชื่นชมเพื่อกระตุ้นให้เขาเปิดใจรับฟัง
หลักการสำคัญ : คล้ายกับหลักของในหลวง ร.9
1. เข้าใจ : ต้องรู้จักใส่ใจและเห็นอกเห็นใจต่อความคิดและความรู้สึกของคนอื่น
2. เข้าถึง : การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เริ่มต้นด้วยความเป็นมิตร ตั้งคำถามและชื่นชมเพื่อเปิดโอกาสในการสนทนา
3. พัฒนา : บรรยากาศที่เป็นบวก ทำให้ผู้คนรู้สึกดีเมื่อทำตามคำแนะนำ โดยการให้การสนับสนุนและชื่นชมในทุกความสำเร็จ
การนำหลักการเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
จะช่วยให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
และมีอิทธิพลต่อคนอื่นอย่างมีประสิทธิภาพ
ขอบคุณที่ติดตามครับ 🥰
#กัปตันเปา
#ข้อคิดชีวิตติดปีก
โฆษณา