อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศเผยขอหมายจับ "ผู้นำอิสราเอล"
ฐานก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ หลังจากสงครามอิสราเอล-ฮามาสยืดเยื้อมานาน
สำนักงานอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) เปิดเผยว่า ได้ขอหมายจับบุคคล 5 คนที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
สำหรับทั้ง 5 คน ได้แก่ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล, โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล, ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำฮามาสในกาซา, อิสมาอิส ฮานิเยห์ หัวหน้าฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส และโมฮัมเหม็ด อัล-มาซรี หรือเดฟ ผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส
ท่าทีของ ICC ทำให้เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกแถลงการณ์ระบุว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นการจงใจประสงค์ร้ายต่ออิสราเอลในภาพรวม และปฏิเสธข้อกล่าวหา รวมทั้งระบุว่า รู้สึกขยะแขยงที่อัยการนำคนในระบอบประชาธิปไตยของอิสราเอลไปเปรียบเทียบกับฆาตกรสังหารหมู่ของกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นการบิดเบือนความจริงไปอย่างสิ้นเชิง
กลุ่มกฎหมายที่สนับสนุนอิสราเอลในสหราชอาณาจักรขู่ว่าจะฟ้องร้องอัยการสูงสุดของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) นายคาริม ข่าน ในข้อหาประพฤติมิชอบในอาชีพ โดยอ้างว่าความพยายามของเขาในการออกหมายจับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลนั้นตั้งอยู่บนข้อกล่าวหาอันเป็นเท็จ
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดลีเทเลกราฟของอังกฤษ องค์กรทนายความแห่งสหราชอาณาจักรเพื่ออิสราเอล (UKLFI) ได้เขียนจดหมายถึงนายข่านลงวันที่ 27 สิงหาคม โดยจดหมายฉบับนี้พยายามหักล้างข้อกล่าวหาของนายคาริม ข่านที่มีต่อนายกรัฐมนตรีอิสราเอล นายเบนจามิน เนทันยาฮู และรัฐมนตรีกลาโหม นายโยอัฟ กัลลันต์ โดยจดหมายฉบับนี้ได้พิจารณาประเด็นต่างๆ ทีละประเด็น และให้รายละเอียดหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าหักล้างข้อกล่าวหาทั้งหมดที่มีต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอล โดยข้อโต้แย้งที่เห็นได้ชัด
ได้แก่ การที่อิสราเอลถูกระบุว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากการปิดล้อมชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา และการที่ชาวกาซาจำนวนมากต้องประสบกับ “ความอดอยาก” เนื่องมาจากการปิดล้อมครั้งดังกล่าว
“เราผิดหวังเมื่อทราบว่าคุณตั้งใจที่จะหยุดนิ่งอยู่กับคำร้องที่คุณยื่นในคำร้อง [เพื่อขอหมายจับ] แม้ว่าเราจะได้แสดงให้เห็นแล้วว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดที่มีต่อเบนจามิน เนทันยาฮูและโยอัฟ กัลลันต์ที่ระบุไว้ในบทสรุปที่คุณเผยแพร่นั้นเป็นเท็จ และแม้ว่าจะมีหลักฐานที่เกี่ยวข้องอย่างมากปรากฏขึ้นตั้งแต่คุณยื่นคำร้อง” จดหมายระบุ
โดยอ้างข้อมูลใหม่ที่ดูเหมือนจะเปิดเผยขึ้นหลังจากที่ข่านยื่นคำร้องขอหมายจับระหว่างประเทศ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าพิสูจน์ได้ว่าข้อกล่าวหาเบื้องต้นนั้นผิดพลาด UKLFI กล่าวว่า “เรายินดีที่การตรวจสอบนี้ได้รับการเผยแพร่หลังจากที่คุณยื่นคำร้องแล้ว แต่ตอนนี้เป็นหน้าที่ทางวิชาชีพของคุณที่จะต้องแจ้งให้ศาลทราบ เนื่องจากการตรวจสอบนี้ขัดแย้งกับข้อกล่าวหาสำคัญซึ่งเป็นพื้นฐานของคำชี้แจงในการยื่นคำร้อง”
ศาลโลกเตือนอย่าคุกคาม พร้อมประกาศระวังภัยจากกลุ่มผู้ประสงค์ร้าย
จดหมายฉบับดังกล่าวยังระบุอีกว่า “ด้วยความเคารพ ดูเหมือนว่าเราจะแสดงให้เห็นถึงการขาดความซื่อสัตย์อย่างร้ายแรงในการปฎิบัติหน้าที่ของคุณ เราขอเรียกร้องอย่างนอบน้อมให้คุณพิจารณาจุดยืนนี้ใหม่โดยคำนึงถึงภาระหน้าที่ทางวิชาชีพของคุณ”
องค์กรยืนยันว่าในฐานะทนายความชาวอังกฤษ – ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นทนายความและที่ปรึกษากฎหมายประจำศาลในระบบกฎหมายของสหราชอาณาจักร – และในฐานะสมาชิกของเนติบัณฑิตอังกฤษ ข่านต้องอยู่ภายใต้การวินัยของคณะกรรมการมาตรฐานเนติบัณฑิต และด้วยเหตุนี้ เขาจึงมีหน้าที่ต้องพิจารณาคำร้องของเขาต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ
หากอัยการยังคงยืนกรานตามเงื่อนไขของคำร้องเดิมภายใต้ข้อมูลที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเท็จ ตามข้อมูลของ UKLFI อัยการจะละเมิดกฎหลายข้อที่ใช้กับทนายความชาวอังกฤษ จดหมายเตือนว่าหากข่านไม่ตอบกลับภายในเจ็ดวัน – ภายในวันที่ 3 กันยายน – UKLFI จะรายงานเขาต่อหน่วยงานวินัยวิชาชีพในข้อกล่าวหาประพฤติมิชอบในวิชาชีพ
หากข่านถูกตั้งข้อกล่าวหาและพบว่ามีความผิดตามข้อกล่าวหานั้น เขาอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพและห้ามประกอบอาชีพทนายความภายใต้ระบบกฎหมายของสหราชอาณาจักร ซึ่งถือเป็นกรณีที่ร้ายแรงที่สุด
#องค์ยุติธรรมระดับโลก #ICC #อิสราเอล #ปาเลสไตน์ #องค์การสหประชาชาติ
อาจารย์ต้นสัก สนิทนาม เรียบเรียง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
